GWM TANK 400 Hi4 โฉมจริงสายดุหน้าใหม่ก่อนขายจีนเร็วๆนี้

GWM TANK 400 Hi4 เอสยูวีทรงดุรุ่นปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์พร้อมแล้วที่จะเปิดราคาขายจริงที่จีนในอีกไม่ช้านี้ล่าสุดสื่อจีนเผยภาพคันจริงตัวเป็นๆ

GWM TANK 400 Hi4 ปรับโฉมครั้งแรกในร่างเอสยูวีไซซ์กลางแม้ภาพรวมเหมือน GWM TANK 700 ย่อส่วนก็ตาม

ด้านหน้าใหม่

ตั้งแต่กระจังหน้าโครเมียมแนวนอน 2 แถบปะโลโก้ TANK อย่างลงตัว ปรับกรอบของกระจังหน้าใหม่สีดำเพื่อรับกับกันชนหน้าออกแบบใหม่ดูบึกบึนกว่าเดิม ปรับดีไซน์ไฟตัดหมอกหน้า LED ใหม่เป็นแนวนอน พร้อมไฟหน้า LED โคมเดิมทรงเหลี่ยมพร้อมไฟ DRL แบบ LED รูปตัววีในโคมเดียวกันลงตัวรับเส้นสายที่นูนขึ้นของฝากระโปรงไฟหน้า

ด้านข้างมี หลังคาซันรูฟขนาดใหญ่เปิด–ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ราวหลังคา ตกแต่งดีไซน์เหลี่ยมด้วยหมุดกลมบนคิ้วขอบล้อทรงเหลี่ยม กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED ปรับ-พับด้วยระบบไฟฟ้าดีไซน์ใหม่กลมกลืนขึ้น ที่เปิดประตูแบบดึงก้าน ตกแต่งดีไซน์เหลี่ยมด้วยหมุดกลมบนคิ้วขอบล้อทรงเหลี่ยม  ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 265/65 R18 และบันไดข้าง

ด้านหลังมาพร้อมประตูท้ายเปิดบานเดียวใหญ่แบบ horizontal พร้อมระบบดูดไฟฟ้าช่วยผ่อนแรง ยางอะไหล่ติดตั้งบนประตูท้ายพร้อมกล้องมองหลังที่ซ่อนอยู่บนฝาครอบยางอะไหล่ออกแบบใหม่อย่างลงตัว ไฟท้าย Vertical LED มาพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 ไฟตัดหมอกหลังแบบ LED ให้ความสว่างชัดเจน เพื่อความปลอดภัยพร้อมตราสัญลักษณ์  GWM TANK อยู่ด้านบนฝั่งซ้าย และ ชื่อ “Great Wall Motors ภาษาจีน อยู่ฝั่งขวาด้านบน โดย TANK 400 อยู่ด้านล่างฝั่งซ้ายและ Hi4-T/Hi4-Z ด้านล่างฝั่งขวา พร้อมกันชนหลังออกแบบใหม่ มีกรอบแผงทับทิมสีแดงทรง 5 เหลี่ยมดูลงตัวมากขึ้น

ด้วยขนาดที่ยาวเกือบ 5 เมตร และกว้างเกือบ 2 เมตร ทำให้พร้อมกับการผจญภัยทุกรูปแบบตัวรถขนาดกว้างขวาง ถูกออกแบบมาอย่างลงตัวตั้งแต่หน้ารถจรดท้ายรถตั้งแต่

• ความยาว 4,964 มิลลิเมตร
• ความกว้าง 1,970 มิลลิเมตร
• ความสูง 1,905 มิลลิเมตร
• ระยะฐานล้อ 2,850 มิลลิเมตร
• ระยะต่ำสุดจากพื้น 235 มิลลิเมตร
• น้ำหนักรถ 2,770 กิโลกรัม
• ความจุถังน้ำมัน 70,78,80 ลิตร

ภายในออกแบบใหม่

โดยย้ายคันเกียร์ไปอยู่ที่พวงมาลัยหรือที่เรียกว่าเกียร์คอ ออกแบบปุ่มการทำงานระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ล็อกเฟืองท้าย ควบคุมความเร็วขณะออกตัวและลงทางลาดชัน เป็นปุ่มบิดขึ้น-ลงกับปุ่มกดใช้งานง่ายขึ้น

พร้อมแผงคอนโซลหน้าทรงเดิมพร้อมช่องแอร์ทรงกลม 2 ฝั่ง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านทรงเดิมปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ (Paddle Shift) ที่พวงมาลัย มาตรวัดความเร็ว LCD 12.3 นิ้ว หน้าจอกลางอัจฉริยะแบบสัมผัสขนาด 16.2 นิ้ว รองรับความบันเทิงได้ทั้ง Apple CarPlay Android Auto MP5 Bluetooth ระบบนำทาง และแสดงข้อมูลการขับขี่ต่างๆ หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่เหนือคอนโซลหน้าตู้เย็นในกล่องคอนโซลกลางควบคุมอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -6°C ถึง 50°C พร้อมจอเพดานขนาด 15.6 นิ้ว

พร้อมลำโพง 10 ตัวที่สร้างความละเอียดเสียงระดับ Hi-Fi (High Fidelity) ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้ก้าวไปอีกขั้น ผ่านทุกรายละเอียดที่สร้างสรรค์ไว้อย่างประณีตในทุกแง่มุม และแอมพลิฟายเออร์อิสระให้เสียงที่สมบูรณ์แบบและเต็มอิ่ม  สร้างประสบการณ์เสียงเสมือนอยู่ในคอนเสิร์ต

กุญแจ Smart Key และระบบ Push Start เพิ่มความสะดวกสบาย ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาหากุญแจ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระ 3 โซน พร้อมระบบกรองอากาศ PM2.5 ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย ช่วยให้การชาร์จ Smart Phone สะดวกและรวดเร็ว และอัปเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านระบบออนไลน์อัจฉริยะ (FOTA)

สะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่อย่างหรูหราเหนือระดับแบบ 5 ที่นั่ง เบาะนั่งหุ้มหนัง NAPPA ออกแบบให้เข้ากับสรีระของร่างกายเพื่อสร้างความสะดวกสบายสูงสุดให้กับผู้ขับขี่ราวกับนั่งบนปุยเมฆ เบาะด้านหน้าสามารถปรับระดับ ที่วางขาสามารถปรับได้ 2 ทิศทาง ที่ดันหลังปรับได้ 4 ทิศทาง ระบบระบายอากาศของเบาะปรับได้ 3 ระดับ พร้อมระบบปรับอากาศ 9 ระดับ เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง พร้อมระบบ Memory Seat และ Welcome Seat เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับตำแหน่งเบาะผู้โดยสารด้านหน้าจากด้านคนขับ

ขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด Hi4

ขุมพลังยกมาจาก GWM TANK 500 Hi4 กับเบนซินเทอร์โบขนาด 2.0 ลิตร รหัส E20NB ให้กำลัง 252 แรงม้าที่ 5,500-6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 380 นิวตันเมตรที่ 1,700-4,000 รอบต่อนาที ในภาคเครื่องยนต์ มี 2 ทางเลือกเริ่มที่

• รุ่นปลั๊กอินไฮบริด Hi4-T จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว P2 พัฒนาใหม่ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร ชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 37.1 kWh โดยเมื่อทำงานร่วมกันได้กำลังสูงสุด 408 แรงม้า แรงบิด 750 นิวตันเมตร วิ่งไกลในโหมดไฟฟ้าล้วน 105 กิโลเมตร (WLTC) สามารถชาร์จได้ทั้งแบบกระแสตรง DC 30-80% ภายใน 24 นาที สูงสุด 103 kW และยังชาร์จกระแสสลับ AC ได้ สูงสุด 6.6 kW ได้ 6.5 ชั่วโมง คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด Electronic Shifter
• ใหม่!! รุ่นปลั๊กอินไฮบริด Hi4-Z จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ เริ่มที่ล้อหน้ากำลังสูงสุด 292 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร และล้อหลัง 326 แรงม้า แรงบิด 415 นิวตันเมตร ชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 59.05 kWh โดยเมื่อทำงานร่วมกันได้กำลังสูงสุด 864 แรงม้า แรงบิด 1,195 นิวตันเมตร วิ่งไกลในโหมดไฟฟ้าล้วน 201 กิโลเมตร (์WLTC) และวิ่งไกลสุดทั้งระบบ 1,096 กิโลเมตร (WLTC) สามารถชาร์จได้ทั้งแบบกระแสตรง DC 30-80% สูงสุด 163 kW ภายใน 15 นาที และยังชาร์จกระแสสลับ AC ได้ สูงสุด 6.6kW ได้ 7.5 ชั่วโมง พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 3 สปีด DHT

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Intelligent four-wheel drive system ในรุ่น Hi4-T และ Intelligent electric four-wheel drive system ในรุ่น Hi4-Z สามารถสลับโหมดได้ 3 โหมด ได้แก่ ขับเคลื่อนสองล้อ (2H สอดคล้องกับโหมดประหยัด) ขับเคลื่อนสี่ล้อความเร็วสูง (4H) ขับเคลื่อนสี่ล้อความเร็วต่ำ (4L) โดยมีการปรับอัตราทดเกียร์ 4L เพิ่มขึ้นเป็น 2.64 จากเดิม 2.48 สามารถลุยทางลาดชันได้ทันใจขึ้น

พ่วงโหมดการขับขี่ Terrain Control ทั้งโหมด Standard, Economy, Sport, Auto, Snow, Mud, Sand, 4H, 4L, Rock, Expert ในรุ่น Hi4-T และรุ่น Hi4-Z มาพร้อม All-terrain control system (Standard, Economy, Sport, Snow, Mud, Sand, 4H, 4L)

รองรับ V2L (Vehicle-to-load) ถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ของรถไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ รองรับการจ่ายโหลดสูงสุดเป็น 6 kW สามารถตอบสนองการทำงานพร้อมกันของเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิด เช่น เตาแม่เหล็กไฟฟ้า เตาอบไฟฟ้า โปรเจคเตอร์ ฯลฯ และสามารถปล่อยพลังงานได้อย่างต่อเนื่องที่โหลดเต็มนานกว่า 7 ชั่วโมง (พลังงานจากปลั๊กที่ติดมากับรถ 3.3 kW)

มาพร้อมระบบ Coffee Pilot Ultra

ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่เจเนอเรชันที่ 3 ติดตั้งเซนเซอร์ 27 ตัว ประกอบด้วย LiDAR 1 ตัว เรดาร์คลื่นมิลลิเมตร 3 ตัว เรดาร์อัลตราโซนิค 12 ตัว และกล้องความละเอียดสูง 11 ตัว ช่วยให้การนำทางแบบจุดต่อจุดด้วยระบบอัตโนมัติในสภาพแวดล้อมในเมืองและทางหลวงที่ไม่มีแผนที่ความละเอียดสูง และยังรองรับระบบช่วยจอดรองรับพื้นที่จอดรถมากกว่า 200 ประเภท รวมถึงพื้นที่จอดรถเข้าซองแนวตั้ง เข้าซองเฉียง และซอยตัน พร้อม Coffee Night Vision ตรวจจับรถยนต์ได้ไกลถึง 120 เมตร และคนเดินถนนได้ไกลถึง 90 เมตร แม้ในสภาพฝนตก หิมะ และฝุ่นละออง

มีมุม approach angle หรือมุมเงย 33 องศา และมุม departure angle หรือมุมจาก 30-31 องศา และลุยน้ำได้ 800 มิลลิเมตร GWM TANK 400 Hi4 เตรียมขายจริงที่จีนเร็วๆนี้ พร้อมสีม่วงใหม่ Dunhuang Purple ตามโชว์รูม GWM 178 แห่งทั่วเมืองจีน

ที่มา CarNewsChina