ถึงแม้ตลาดรถยนต์อเนกประสงค์เล็กหรือ MINI MPV ที่ส่วนใหญ่นำเข้าจากอินโดนีเซียจะได้รับความนิยมพอสมควรจากกลุ่มครอบครัว กลุ่มคนทำงานเป็นอย่างมาก
แต่กลับมาระอุอีกครั้งกับการเปิดตัวรุ่นใหม่หมดอย่าง Honda BR-V อย่างเป็นทางการ จนคู่แข่งระดับเดียวกันต่างตั้งรับสู้ยิบตาแนะนำรุ่นปรับปรุงใหม่ หรือ Model Year กับเปิดตัวโมเดลใหม่ออกมาโดยเฉพาะ Toyota Veloz คู่รักคู่แค้นแดนยุ่นเปิดตัวไปก่อนจนกวาดยอดขายเป็นจำนวนมากวันนี้จึงจับสองเอ็มพีวีเล็กขวัญใจครอบครัวยุคใหม่มา Face2Face ประกอบการตัดสินใจกัน
สองรุ่นใหม่หมดดีไซน์เน้นแนวลุย
เริ่มที่ Honda BR-V เจเนอเรชันที่สอง รุ่น EL ดีไซน์สปอร์ตพรีเมียมแฝงความอเนกประสงค์ไว้อย่างลงตัวดุดันด้วยชุดกระจังมีความบึกบึนทรงหกเหลี่ยมรับกับชุดโคมไฟหน้า LED พร้อมไฟ DRL LED รูปตัว L ในโคมเดียวกัน เส้นสายมิติตัวรถมีความใหญ่โตขึ้น แนวหลังคาด้านท้ายดูโปร่งขึ้น ส่วนของประตูท้ายที่คล้ายกับ BR-V เจนที่แล้วมาพร้อมไฟท้าย LED กันชนหน้าและหลังดีไซน์ใหม่ ราวหลังคา เสาอากาศแบบครีบฉลาม เสาอากาศแบบครีบฉลาม หรูหรากับกันชนหน้าและหลังดีไซน์ตกแต่งสีเงิน คิ้วตกแต่งสเกิร์ตข้างสีเงิน ไฟตัดหมอกหน้า LED กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้าพร้อมพับเก็บอัตโนมัติ ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วพร้อมยางขนาด 215/55R17 และกระจังหน้าสี Piano Black
ด้านผู้ท้าชิงอย่าง Toyota Veloz รุ่น Premium เจเนอเรชันที่ 3 มาในสไตล์ลุยแฝงความหรูตั้งแต่กระจังหน้าทรงสี่เหลี่ยมคางหมูสีดำเงาขนาบข้างด้วยไฟหน้า LED พร้อมด้วย LED Light Guiding พร้อมระบบ Follow Me Home และ Leaving Home Lamp ไฟเลี้ยวแบบวิ่งหรือ Sequential รับกับชุดกระจังหน้าขนาดใหญ่ ชุดแต่งเสริมไฟตัดหมอกสีดำโดยตัวไฟเป็นแบบทรงกลมและขอบโครเมียม ด้านข้างมาพร้อมกระจกมองข้างทรงสปูนติดตั้งไฟเลี้ยวพร้อมไฟส่องสว่างบริเวณพื้น ขอบโครเมียมที่กรอบกระจก ล้ออัลลอยลายใหม่ 17 นิ้วกับยาง 205/70 R17 คิ้วกันกระเเทกประตูสีดำ ด้านท้ายมาพร้อมไฟท้าย LED Light Guiding แนวยาวรับกับกันชนท้ายทูโทนและสปอยเลอร์หลังพร้อมชุดตกแต่งและไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED
ตัวรถมีขนาดสูสีกัน
Honda BR-V รุ่น EL ตัวรถใหม่หมดมีความยาว 4,490 มม. ความกว้าง 1,780 มม. ความสูง 1,685 มม. ฐานล้อ 2,695 มม. ความสูงใต้ท้องรถ 209 มม. น้ำหนักรถ 1,285 กก.และความจุถังน้ำมัน 42 ลิตร ส่วน Toyota Veloz รุ่น Premium เปลี่ยนแปลงใหม่หมดมาเป็นแบบ Monocoque ด้วยความยาว 4,475 มม. ความกว้าง 1,750 มม. ความสูง 1,700 มม. ฐานล้อ 2,750 มม. ความสูงจากใต้ท้องรถ 205 มม. น้ำหนักรถ 1,185 กก. และความจุถังน้ำมัน 43 ลิตร
โดยรถทั้งสองรุ่นมีมิติตัวรถที่ต่างกันโดย Honda BR-V รุ่น EL ได้เปรียบเกือบทุกด้านเมื่อเทียบกับ Toyota Veloz รุ่น Premium ตั้งแต่ความยาว BR-V ยาวกว่า Veloz 15 มม. กว้างกว่า Veloz 30 มม. ความสูงเตี้ยกว่า Veloz 15 มม. ฐานล้อสั้นกว่า Veloz 55 มม. น้ำหนักรถมากกว่า Veloz 100 กก. ความสูงจากใต้ท้องรถมากกว่า Veloz 4 มม. และความจุถังน้ำมันน้อยกว่า Veloz 1 ลิตร
ภายในเฉือนกันไม่ลง
เอ็มพีวีเล็กทั้ง Honda BR-V รุ่น EL กับ Toyota Veloz รุ่น Premium มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือให้ความสบายแบบ 3 ตอน 7 ทีนั่งอันโอ่โถ่งกว้างสบายพร้อมที่นั่งตอนสองกับตอนสามสามารถพับได้เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการขนของ สำหรับ BR-V รุ่น EL เบาะนั่งแถวที่ 2 มีพื้นที่ช่วงขากว้างขึ้น สามารถปรับพับแยกแบบ 60:40 พร้อมพับตลบจังหวะเดียว (One Motion) โดยสามารถปรับเลื่อนหน้า-หลัง และพนักพิงปรับเอนได้ 3 ระดับ เบาะนั่งแถวที่ 3 มีพื้นที่ช่วงขากว้างขึ้น โดยสามารถพับแยกแบบ 50:50 และพนักพิงปรับเอนได้ 2 ระดับ ส่วน Veloz รุ่น Premium ก็เช่นกันปรับพับขนของยังได้แบบ 60:40 ในตอนสองเลื่อนได้ และ 50:50 ในตอนที่สาม
ส่วนออปชันภายในของ Honda BR-V รุ่น EL เด่นทั้งมาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอ MID แบบ TFT 4.2 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านตกแต่งสีเงินพร้อมควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) ไฟส่องแผนที่ แผงตกแต่งแอร์ออโต้สีเงิน หน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 7 นิ้ว Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Smartphone และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto ช่องเชื่อมต่อ USB 2 ตำแหน่ง ช่องจ่ายไฟสำรอง 3 ตำแหน่ง ลำโพง 6 ตำแหน่ง เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติให้ความเย็นรอบคัน ที่เหนือกว่า Toyota Veloz รุ่น Premium กุญแจแบบ Smart Key ที่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start) ล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) กับ Push Start แต่เบรกมือยังเป็นคันโยก
ด้าน Toyota Veloz รุ่น Premium ทันสมัยด้วย จอสัมผัสแบบลอยตัว 9 นิ้ว รองรับ Apple Car Play และ Android Auto ลำโพง 6 จุด มาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอ MID แบบสี TFT 7 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน พร้อม Push Start ช่องเสียบ USB ด้านหน้าและหลัง และเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแยกส่วนความเย็นหน้า-หลัง สิ่งที่เหนือกว่า BR-V นั่นคือไฟสร้างบรรยากาศในรถแบบสีเดียวสีน้ำเงิน เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold ที่วางชาร์จมือถือไร้สาย โทนสีห้องโดยสารแบบทูโทน เทาอ่อน Light Gray และสีดำ Black
ขุมพลังยกมาจากรุ่นที่แล้วทั้งคู่
แน่นอนว่าเอ็มพีวีเล็กทั้งสองรุ่นใช้ขนาดเดียวกัน 1.5 ลิตร เบนซิน แต่เป็นขุมพลังที่ยกมาจากเจนที่แล้วทั้งสองรุ่นแต่ให้ความเร้าใจที่ต่างกันงานนี้ Honda BR-V รุ่น EL นับว่าแรงสุดในกลุ่มด้วยรหัส L15ZF 121 แรงม้าที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิด 145 นิวตันเมตรที่ 4,300 รอบ/นาที ขับเคลื่อนล้อหน้า เกียร์อัตโนมัติ CVT ร่องตรงตอบสนองการขับขี่ได้อย่างคล่องตัวทรงพลัง รองรับพลังงานทางเลือก E20
ส่วน Toyota Veloz รุ่น Premium มาแบบเบนซิน Dual VVT-i 2NR-VE 1.5 ลิตร 106 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 138 นิวตันเมตรที่ 4,200 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ร่องตง แบบ Sequential Shift บวก/ลบ แต่ที่เหนือกว่าด้วยโหมดการขับขี่ทั้ง ECO, Normal และ Power ขับเคลื่อนล้อหน้า และเติม E20 ได้เช่นเดียวกับรุ่น BR-V EL และทั้งสองรุ่นเหมือนกันในส่วนช่วงล่าง ด้านหน้ามาในแบบแมคเฟอร์สันสตรัทอิสระพร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบทอร์ชั่นบีมและคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลงแต่ Honda BR-V รุ่น EL ด้านหลังมาแบบทอร์ชันบีม H-Shape
ความปลอดภัย BR-V เหนือกว่าด้วย Adaptive Cruise Control
ภาพรวมของระบบความปลอดภัยทั้ง Honda BR-V รุ่น EL และ Toyota Veloz รุ่น Premium สูสีกันแต่งานนี้ BR-V รุ่น EL มีภาษีกว่า Veloz รุ่น Premium ตรงที่มีระบบล็อกความเร็วแปรผันอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control: ACC ซึ่ง Veloz ไม่มี แต่ BR-V รุ่น EL กลับไม่มีกล้องรอบคัน ไม่มีสัญญาณกะระยะการจอดด้านหลังกับช่วยเตือนขณะถอยรถ Rear Crossing Traffic Alert ไม่มีป้องกันการเหยียบคันเร่งแบบผิดวิธี Pedal Misoperation Control และไม่มีดิสก์เบรก 4 ล้อ เหมือน Veloz
ทาง Honda BR-V รุ่น EL มาในแบบ Honda Sensing ทั้งระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS) เตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW) ปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) เตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN) และถุงลมนิรภัยรอบคัน 6 จุด
ส่วน Toyota Veloz Premium มาในแบบ Toyota Safety Sense ที่คล้ายๆกับ BR-V ทั้งความปลอดภัยก่อนการชน Pre-Collision System, ปรับไฟสูงอัตโนมัติ Auto High Beam, เตือนออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยดึงกลับอัตโนมัติ Lane Departure Alert เตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนตัว Front Departure Alert และถุงลมนิรภัยรอบคัน 6 จุด
ค่าตัวต่างกันหนึ่งแสนทอนสองพัน
Honda BR-V รุ่น EL ทำราคาอยู่ที่ 973,000 บาท สำหรับ สีดำคริสตัล (มุก) (977,000 บาท กับ สีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก)) โดยมีเพียงแค่สองสีเท่านั้น ส่วน Toyota Veloz Premium มาในราคา 875,000 บาท และสีภายนอกมีมากกว่า BR-V รุ่น EL ถึง 4 สี ทั้ง สีเงิน Purplish Silver Mica Metallic, สีแดง Dark Red Mica Metallic, สีขาวมุก Platinum White Pearl (เพิ่มเงิน 7,000 บาท) และ สีดำ Black Metallic
ถึงแม้ Honda BR-V รุ่น EL มีค่าตัวแพงกว่ากับส่วนต่าง 98,000 บาท เมื่อเทียบกับ Toyota Veloz รุ่น Premium โดย BR-V จะได้เปรียบที่เครื่องแรงกว่า มี Adaptive Cruise Control และ Paddle Shift แต่ทาง Veloz ได้ดิสก์เบรก 4 ล้อ กล้องรอบคันเบรกมือไฟฟ้ากับ Auto Hold ฯลฯ งานนี้รักใครชอบใครสามารถทดลองขับสัมผัสตัวจริงได้ตามโชว์รูมหรือที่งาน Big Motor Sale ที่จัดขึ้นถึงวันที่ 28 สิงหาคมที่ไบเทค บางนา ได้เลย
