หลังจากเปิดตัวที่ญี่ปุ่นและบางประเทศไปสำหรับ Honda Civic Hatchback ปรับโฉมครั้งแรกในรอบ 3 ปี และล่าสุดที่ออสเตรเลียเปิดตัวเป็นที่เรียบร้อย
Honda Civic Hatchback สเปกออสเตรเลียมาในรหัส FL ปรับหน้าตาแบบเดียวกับอเมริกาและญี่ปุ่น
ภายนอกหรูหรามากยิ่งขึ้นชัดเจนด้วยโลโก้ H Mark ตกแต่งกรอบสีฟ้าทั้งด้านหน้าและหลัง และสัญลักษณ์ e:HEV ที่ด้านท้าย กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมแบบรังผึ้งลายใหม่ กันชนหน้าทรงสปอร์ตออกแบบใหม่เสริมสเกิร์ตสุดหล่อในชุดกันชนหน้าพร้อมช่องระบายอากาศแบบรังผึ้งไร้ไฟตัดหมอกหน้า LED ไฟท้าย LED รูปตัว C แบบรมดำ
เสาอากาศแบบครีบฉลาม กระจกมองข้างทรงสปูนสีเดียวกับตัวรถ มือจับประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ ท่อไอเสีย พร้อมปลอกท่อไอเสีย ล้ออัลลอยลายใหม่ 5 ก้านคู่ทูโทน Shark Gray Metallic + Matte Cut พร้อมยาง 235/40R18 พร้อมมิติตัวรถดังนี้
- ความยาว 4,569 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,802 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,415 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,735 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 134 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 1,446-1,478 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำมัน 40 ลิตร
ภายใยออกแบบเน้นการสร้างความรู้สึกที่สดใหม่ส่งมอบความสปอร์ตที่สบายตา สะดวกสบายเมื่อเข้าไปนั่งในห้องโดยสารตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพเยี่ยมในทุกผิวสัมผัสเริ่มที่วัสดุหุ้มเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์สีดำ เบาะนั่งด้านหลังแยกพับแบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่สัมภาระ แผงบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกแต่งหน้าแบบมีฝาปิดพร้อมไฟส่องสว่างด้านคนขับและ ผู้โดยสารด้านหน้า กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ
เบาะนั่งด้านคนขับปรับ 8 ทิศทางทุกรุ่นย่อย และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง (ช่องปรับอากาศผู้โดยสารตอนหลัง พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทาง แบบ 3 ก้านมัลติฟังก์ชันพร้อมปุ่มอุ่นพวงมาลัย เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว เบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) และ Auto Brake Hold ไฟส่องสว่างห้องสัมภาระท้าย
ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto เชื่อมต่อชีวิตเหนือระดับ ด้วยหลากหลายฟังก์ชันและเทคโนโลยีล้ำสมัยครบครันด้วยใหม่! Google built-in แอปและบริการของ Google ที่ติดตั้งมาในตัว โดยติดตั้งครั้งแรกอย่าง Google Assistant, Google Maps และแอปอื่น ๆ อีกมากมายเช่น YouTube Music, Spotify
ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start) ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System) ควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System) ช่องเชื่อมต่อ USB Type C จำนวน 4 ช่อง ช่องหน้า 2 ช่องและด้านหลัง 2 ช่อง
ไฟส่องสว่างตกแต่งแผงประตูคู่หน้าและที่เท้าแป้นเหยียบคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง พร้อม Honda Smart Key Card ในรุ่น e:HEV LX รุ่นท็อปได้อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) กระจกมองหลังแบบปรับแสงอัตโนมัติ ซันรูฟแบบพาโนรามา และเบาะหนังสีดำปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
ยกระดับชีวิตให้สมาร์ตขึ้นไปอีกขั้นกับ Honda CONNECT เชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน มาพร้อมหลากหลายฟังก์ชันการทำงาน ในทุกรุ่น ระบบควบคุมเสียงรบกวนเข้าห้องโดยสาร (ANC)
ขายขุมพลังเดียวนั่นคือเบนซิน Full Hybrid e:HEV รหัส LFB1 พร้อมระบบ i-MMD 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle 141 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 182 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที ในภาคเครื่องยนต์
จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลัง 184 แรงม้าที่ 5,000-6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 315 นิวตันเมตรที่ 0-2,000 รอบต่อนาทีและแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน 72-cell เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังสูงสุด 203 แรงม้า อัตราส่วนกำลังอัด 13.9:1 พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) แบบ Electric Gear Selector
สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ทั้งหมด 3 โหมด ได้แก่ โหมด EV Drive Mode โหมด Hybrid Drive Mode และโหมด Engine Drive Mode พร้อมการขับขี่ที่เลือกได้ตามสไตล์ 3 โหมด ได้แก่ ECON Mode Normal Mode และ Sport Mode
ปรับตั้งค่าการขับขี่เพื่อให้เหมาะสมกับลักษณะและความต้องการในแต่ละไลฟ์สไตล์ โดยสามารถเลือกรูปแบบการทำงานของระบบส่งกำลัง พวงมาลัย และเสียงเครื่องยนต์ สามารถเลือกรูปแบบสีของมาตรวัดได้อย่างอิสระ
พร้อมระบบ Rev Match ที่จะควบคุมความเร็วรอบเครื่องยนต์โดยอัตโนมัติตามการชะลอความเร็วเพื่อรองรับการขับขี่แบบธรรมดาที่นุ่มนวลและช่วงล่างอิสระ 4 ล้อพัฒนาใหม่สำหรับรุ่นนี้และความปลอดภัยครบครัน Honda Sensing ทั้ง
- เตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning: FCW)
- เตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
- เตือนเมื่อออกนอกเลน (Lane Departure Warning: LDW)
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ (Traffic Jam Assist: TJA)
- เตือนเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System: RDM)
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
- ลดความเร็วอัตโนมัติเมื่อใช้ความเร็วต่ำ (Low Speed Braking Control: LSBC)
- อ่านป้ายจราจร (Traffic Sign Recognition System: TSR)
- เปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ (High Beam Support System: HBSS)
- ตรวจสอบจุดอับสายตา (Blind Spot Monitor: BSM)
- เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert: RCTA)
พร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยล้ำสมัยอาทิระบบเสริมแรงเบรก Brake Assist System (BA) กระจายแรงเบรก Electronic Brake-force Distribution (EBD) ไฟเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Emergency Stop Signal (ESS) เตือนความเมื่อยล้าขณะขับขี่ Driver Attention Monitor (DAM) ควบคุมการทรงตัว Vehicle Stability Assist (VSA) ป้องกันล้อล็อก Anti-lock Braking System (ABS)
เสียงเตือนภายนอกรถ Acoustic Vehicle Alerting System (AVAS) เพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ Agile Handling Assist System (AHAS) ออกตัวบนทางลาดช้น Hill Start Assist (HSA) ระบบ Straight driving steering assist ระบบ Electronic Brake Booster (EBB) ควบคุมความเร็วอัจริยะ Intelligent speed limiter
เตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้าพร้อมเตือนผู้โดยสารด้านหลัง (Front Passenger and Rear Seat Belt Reminder) และไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder) ช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) เสียงเตือนคนภายนอกรถขณะขับขี่โหมดมอเตอร์ไฟฟ้า (AVAS) อุปกรณ์อุดการรั่วซึมของยางชั่วคราว (TPRK)
เซนเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และหลัง 4 จุด กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) ล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) และถุงลมนิรภัยรอบคัน 11 จุด (คู่หน้า 2 จุด/ด้านข้างเบาะหน้า 2 จุด/หัวเข่าผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า 2 จุด/ด้านข้างเบาะหลัง 2 จุด/ม่านนิรภัย 2 จุดและตรงกลางเบาะหน้าคนขับ 1 จุด
Honda Civic Hatchback ปรับโฉมขายทั้งหมด 2 รุ่นย่อยมีสีภายนอก 4 สีทั้ง สีน้ำเงิน Seabed Blue Pearl, สีขาว Platinum White Pearl, สีแดง Premium Crystal Red Metallic และสีเทา Sonic Gray Pearl ในราคารวมค่า drive-away ของออสเตรเลียดังนี้
- รุ่น e:HEV L ราคา $49,900 หรือราว 1,089,000 บาท
- รุ่น e:HEV LX ราคา $55,900 หรือราว 1,219,000 บาท
ที่มา Carexpert