More

    Honda Civic 2025 หน้าใหม่ 203 แรงม้าขายอเมริกาเริ่ม 895,000 บาท

    เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ Honda Civic รุ่นปรับโฉมปรับครั้งแรกในรอบ 3 ปี ร่างเจเนอเรชันที่ 11 ครั้งนี้เปิดราคาในรุ่นซีดาน FE 

    Hondaหล่อใหม่ทั้งคันเริ่มที่กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมแบบรังผึ้งติดตราโลโก้ กันชนหน้าทรงสปอร์ตออกแบบใหม่เสริมสเกิร์ตสุดหล่อในชุดกันชนหน้าพร้อมช่องระบายอากาศแบบรังผึ้งไร้ไฟตัดหมอกหน้า LED ไฟหน้า LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน แบบ LED กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวทรงสปูนสีดำเข้ม กรอบกระจกที่มาในแนวเข้มสีดำ เสาอากาศครีบฉลามไฟท้าย LED ทรงเดิมพร้อมฝาท้ายที่มีสปอยเลอร์ในตัวหลังคาพาโนรามิกซันรูฟ และล้อลายสปอร์ตลายใหม่ diamond-cut 18 นิ้ว 7 ก้านทูโทน พร้อมยาง 235/40R18

    Hondaภายในยังคงเดิมแต่เพิ่มความทันสมัยด้วยโทนสีเทาเข้ม ช่องเสียบ USB-C เบาะนั่งทรงสปอร์ต ระบบความบันเทิงแบบจอสัมผัส 9 นิ้วอยู่ตำแหน่งเหนือคอนโซลหน้า รองรับ Wireless Apple CarPlay and Android Auto  ติดตั้งระบบ ระบบ Google built-in ในตัว เรียกใช้งาน Google Maps, Google Assistant และ Google Play ดาวน์โหลดแอปได้ รวมไปถึงเพลง พอดแคสต์รองรับ Android Auto Apple CarPlay อัปเดตออนไลน์ over-the-air ลำโพง 12 จุด คุณภาพจาก BOSE มาตรวัดดิจิทัลพร้อมระบบแสดงข้อมูล 7 นิ้ว ระบบชาร์จมือถือไร้สาย wireless charging รวมถึงการตกแต่งผิวสัมผัสหุ้มหนัง ผสมผสานการตกแต่งสีดำเปียโนแบล็ก ระบบชาร์จมือถือไร้สาย wireless charging และเบาะหลังแตกต่างสามารถพับได้แบบ 60/40 เพิ่มพื้นที่การบรรทุกได้หลากหลาย

    Hondaขุมพลังงานนี้เอาใจสาวกรักษ์โลกและรักความแรงด้วยเครื่องยนต์ใหม่เบนซิน e:HEV ใหม่ขนาด 2.0 ลิตร i-MMD Direct Injection Atkinson-Cycle 141 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 182 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที ในภาคเครื่องยนต์ จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังรวมใหม่ 203 แรงม้าที่ 5,000-6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 315 นิวตันเมตรที่ 0-2,000 รอบต่อนาที และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ​72-cell กลายเป็นขุมพลัง Full Hybrid ที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดของ Honda Civic ยกเว้นรุ่น Type R

    พร้อมเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ทั้งหมด 3 โหมด ได้แก่ โหมด EV Drive Mode โหมด Hybrid Drive Mode และโหมด Engine Drive Mode ในรุ่น Sport Touring Hybrid มอบความประหยัดถึง 21.26 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ 50 mpg ตามมาตรฐาน EPA ของอเมริกา

    Honda

    ส่วนสันดาปล้วนยังขายปกติประเดิมด้วยเบนซิน i-VTEC ขนาด 2.0 ลิตร รหัส K20C2 ให้กำลังสูงสุด 160 แรงม้าที่ 6,500รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 187 นิวตันเมตรที่ 4,200 รอบต่อนาที คู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ทุกขนาดมาพร้อม โหมดการขับขี่ทั้ง NORMAL mode, SPORT mode, ECON ในรุ่น LX และ Sport

    เบนซินใหม่ VTEC direct-injection turbo ขนาด 1.5 ลิตร รหัส L15CA แรงสุด 203 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 260 นิวตันเมตรที่ 1,800-5,000 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ในรุ่น Si ในรุ่น LX, Sport, EX, Touring เบนซิน VTEC Turbo 1.5 ลิตร รหัส L15C ให้กำลังสูงสุด 182 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตรที่ 1,700-4,500 รอบต่อนาที คู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT

    พร้อมความปลอดภัยมาเต็มๆแบบ Honda Sensing ทั้งเตือนการชนรถและคนเดินถนนพร้อมระบบช่วยเบรก (CMBS) เตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (RDM with LDM) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LKAS) ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ (TJA) ควบคุมและปรับความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (ACC with LSF) ระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย (ACETM) ช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSI) และถุงลมนิรภัย 10 จุดรอบคัน

    HondaHonda Civic รุ่นปรับโฉมจำหน่ายแล้วทั้งรุ่น LX, Sport, Sport Hybrid และ Sport Touring Hybrid พร้อมสีใหม่สีบรอนซ์เงิน Solar Silver Metallic, สีเทา Urban Gray Pearl, สีฟ้า Blue Lagoon Pearl (เฉพาะซีดาน) เริ่มต้น $24,250-$26,250 หรือราว 895,000-965,000 บาท ในรุ่น 2 ลิตร และ $28,750-$31,750 หรือราว 1,057,000-1,169,000 บาท ในรุ่น Hybrid ส่วนรุ่นแฮทช์แบกคาดมาช่วงเดือน กรกฎาคม เป็นต้นไป ทางด้านญี่ปุ่นเผยกันยายนนี้ และพี่ไทยมาแน่นอนปลายปีนี้ คาดทันงาน Motor Expo 2024

    ที่มา Motor 1

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts