หลังจากที่เปิดตัวที่ญี่ปุ่นไปได้สักระยะจนลูกค้าชาวไทยที่ชื่นชอบการเดินทางอยากได้ Honda StepWGN เจเนอเรชันที่ 6 มาไว้ครอบครอง
วันนี้ ETON Import เปิดรับจองแล้วกับ Honda StepWGN เจเนอเรชันที่ 6 ด้วยการอัปเกรดโฉมใหม่ครั้งใหญ่ มีดีไซน์ที่มินิมอลมากกว่าเดิม ออกแบบมาเพื่ออํานวยความสะดวก เพิ่มความสบาย พร้อมฟีเจอร์ต่างๆ ที่มีความโดดเด่นด้านความอเนกประสงค์ตัวจริง ภายนอกมาทรงเหลี่ยม มีความยาวตัวรถอยู่ที่ 4,830 มม., กว้าง 1,750 มม., สูง 1,840 มม., มาพร้อมไฟหน้าแบบ LED ทรงเหลี่ยมเชื่อมเข้ากับกระจังหน้าขนาดใหญ่ที่ถูกตกแต่งด้วยกรอบโครเมียม โดยรุ่น Spada จะถูกเสริมความหรูหราด้วยแถบโครเมียมบริเวณกันชนหน้า-หลัง และชายประตู มาพร้อมกระจกหน้าต่างขนาดใหญ่รอบคันเพื่อเพิ่มทัศนวิสัยให้กับทุกที่นั่ง ขณะที่ไฟท้ายถูกออกแบบให้เป็นแนวตั้งกลืนไปกับเสา D-pillar ช่วยเพิ่มความหรูหราขึ้นได้เป็นอย่างดี ประตูข้างบานสไลด์ไฟฟ้า และล้ออัลลอยลายใหม่ ขนาด 16 นิ้วพร้อมยาง 205/60 R16 และ 17 นิ้วพร้อมยาง 205/55 R17 (รุ่น Spada Premium Line)
ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยสี black piano ยังคงความเป็นรถยนต์สำหรับครอบครัวเช่นเดิม จุดเด่นด้วยห้องโดยสารที่ใหญ่และกว้างมากขึ้น แผงคอนโซลหน้ายังคงความเรียบง่าย และใช้งานง่าย พร้อมจอมาตรวัดดิจิทัลขนาด 10.2 นิ้ว โดดเด่นด้วยหน้าจอ Infotainment พร้อมระบบ Honda CONNECT Navigate ที่มีขนาดใหญ่ถึง 11.4 นิ้ว รวมถึงการตกแต่งรูปแบบใหม่ เบาะที่นั่งแบบ 3 แถว เบาะนั่งตอนที่ 2 ปรับเอนและเลื่อนขึ้น-ลง/ซ้าย-ขวาได้ มาพร้อมที่วางแขนและเบาะรองน่อง รวมถึงโต๊ะพับสำหรับวางของ และเบาะแถวที่ 3 สามารถพับเก็บให้ราบไปกับตัวพื้นรถ ทำให้สามารถบรรจุสัมภาระในการเดินทางได้มากขึ้น ตัวเบาะรุ่นใหม่ สิทธิบัตรใหม่ของ Honda FABTECH Fabic สามารถกันเปื้อน คราบน้ำ ของเหลว รวมไปถึงน้ำมัน ทำให้ทำความสะอาดง่าย และยังมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกอัดแน่นมาแบบครบครัน อาทิ ช่องเสียบ USB (Type C) 5 จุด / ถาดวางของ / ช่องวางแก้ว และอีกมากมายเรียกได้ว่าโดดเด่นด้านความอเนกประสงค์ตัวจริง
ฟีเจอร์เด่นที่อํานวยความสะดวกสําหรับผู้โดยสาร ที่ยังคงที่นั่ง 3 ตอน ออกแบบมาเพื่อครอบครัวโดยเฉพาะด้วยการเพิ่มความสะดวกด้วยประตูฝาท้ายกดเปิดที่สมาร์ทคีย์หรือสวิตช์ตรงประตูท้าย ระบบเปิด-ปิดประตูข้างแบบ one touch เพียงปลายนิ้วสัมผัส และยังสะดวกสบายตลอดการเดินทางด้วยหมอนรองคอแบบ VIP ทรงมิกกี้เม้าส์ จอหน้ารองรับการเชื่อมต่อจาก Apple Car Play และ Android Auto
ขุมพลังสามารถเลือกได้ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน และไฮบริด e:HEV เริ่มที่เครื่องยนต์เบนซิน รหัส L15C VTEC DOHC ขนาด 15. ลิตร เทอร์โบ ขนาด 1.5 ลิตร 150 PS ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 203 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 5,000 รอบ/นาทีพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า และเครื่องยนต์ e:HEV แบบ Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive (Hybrid i-MMD) รหัส LFA-H4 2.0 ลิตร 145 PS ที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 175 นิวตันเมตร ที่ 3,500 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ 2 ตัว รหัส H4 มอเตอร์ตัวที่ 1 ทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟไปยังแบตเตอรี่ มอเตอร์ตัวที่ 2 มีหน้าที่ส่งกำลังไปยังเกียร์ e-CVT ทำงานควบคู่กับชุดครัทช์ที่ต่อพ่วงกับเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 184 PS แรงบิดสูงสุดที่ 315 นิวตันเมตร โดยที่ เมื่อใช้ความเร็วต่ำ จะใช้กำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน และจะตัดเข้าเครื่องยนต์เมื่อใช้ความเร็วสูง ขับเคลื่อนล้อหน้า และแบตเตอรี่ แบบลิเทียมไอออน ขนาด 7.2 kWh
เพิ่มระบบความปลอดภัย “Honda Sensing” เวอร์ชันล่าสุดแบบเต็มระบบมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานด้วย ระบบเตือนการชนด้านหน้า ช่วยหักหลบพวงมาลัยป้องกันชนคนเดินทางเท้า แจ้งเตือน เมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ ช่วยเบรกอัตโนมัติ หยุดรถอัตโนมัติเมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ ตรวจจับเส้นแบ่งเลนและจดจำป้ายจราจร
Honda StepWGN มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่ Step WGN Air , Step WGN Spada และ Step WGN Spada Premium Line ราคาเริ่มต้นที่ 2,650,000 – 2,850,000 บาท พร้อมเปิดรับจองและสัมผัสตัวจริงได้แล้ววันนี้ที่ ETON Group 3 สาขา ทั่วประเทศ ได้แก่ สาขาศรีนครินทร์ สาขารัชดาภิเษก และสาขาเชียงใหม่
