ล่าสุด Huawei EV ได้เปิดเผยข้อมูลการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าใหม่ล่าสุดที่ใช้เวลาชาร์จน้อยลงและวิ่งได้ไกลมากยิ่งขึ้น
Huawei เปิดแผนสะเทือนวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วยโซลูชันการชาร์จรถยนต์ EV ที่จะมาพลิกโฉมวงการ คาดว่าภายในปี 2025 บริษัทจะเปิดตัวโซลูชันการชาร์จไฟฟ้าแรงสูง 1000V 600kW สู่สาธารณะ ซึ่งจะให้ระยะการขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า EV 200 กม. จากการชาร์จไฟฟ้าแค่ 5 นาทีเท่านั้น
ถือเป็นเรื่องท้าทายและน่าตื่นเต้นสำหรับวงการรถยนต์ไฟฟ้าที่ประเทศไทยกำลังให้ความสนใจเป็นอย่างมากในขณะนี้ เนื่องจากในบ้านเราได้มีการถกเถียงเกี่ยวกับระยะเวลาในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าไม่เพียงพอกับการใช้งาน และใช้เวลานานเกินไปที่จะรอ แต่ในปัจจุบันหลังจากที่เป็นที่นิยมมากขึ้น ก็มีสถานีชาร์จมากขึ้นตามไปด้วย แถมยังมีเทคโนโลยีจากค่ายรถยนต์ต่าง ๆ ที่พัฒนาการชาร์จไฟให้สะดวกต่อการใช้งานเต็มระบบมากขึ้นแล้วด้วย
โดยปกติแล้วการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันจะใช้เวลา 25- 40 นาที ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ขึ้นอยู่กับกำลังไฟและรถยนต์แต่ละรุ่น
ค่ายเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Huawei ของจีนซึ่งในบ้านเราจะเห็นไม่เพียงแค่สมาร์ทโฟน แต่ยังมีอุปกรณ์เทคโนโลยีอื่น ๆ เช่น อุปกรณ์ไฟฟ้าทันสมัย แล็ปท็อป สมาร์ทวอทช์ และแม้แต่รถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังวางแผนที่จะพลิกโฉมวงการอุตสาหกรรมด้วยโซลูชันการชาร์จรถยนต์ EV ที่ซึ่งจะให้ระยะการขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า EV 200 กม. จากการชาร์จไฟฟ้าภายใน 5 นาที ซึ่งถ้าให้เปรียบเทียบเวลาการชาร์จก็เหมือนกับเรากำลังเข้าปั้มเติมน้ำมัน ใช้เวลาพอ ๆ กันเลยทีเดียว
ตั้งแต่ปี 2564 บริษัทได้พัฒนาและเปิดตัวโซลูชันการขับขี่อัจฉริยะที่มีชื่อว่า DriveOne ซึ่งรวมถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น การผสาน IoT อัจฉริยะกับ HarmonyOS การอัพเกรดระบบนำทางสำหรับผู้ขับขี่ เรียกได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่น่าสนใจมาก ๆ สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า
ในช่วงต้นทศวรรษ Huawei ได้วางแผนสำหรับแผนงานการพัฒนาในอุตสาหกรรม EV และคาดว่าภายในปี 2025 บริษัทจะเปิดตัวโซลูชันการชาร์จไฟฟ้าแรงสูง 1000V 600kW สู่สาธารณะ ถือว่าเป็นข่าวดีในอีก 3 ปีข้างหน้านี้ว่าเราอาจมีรถยนต์ไฟฟ้าที่กินเวลาชาร์จแค่ 5 นาที แต่วิ่งได้ทั่วเมืองกันเลยทีเดียว
ปัจจุบันสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยมีทั้งหมด 795 สถานีที่อยู่ในระบบแอปพลิเคชั่น (ข้อมูลเดือน พ.ค 2565) ซึ่งแต่ละสถานียังมีลักษณะการชาร์จที่แตกต่างกัน อาจไม่รองรับหัวชาร์จได้ทั้งหมด และที่รองรับการใช้งานตลอด 24 ชั่วโมงก็ยังไม่ครอบคลุมสักเท่าไรนัก แต่เชื่อว่าอีกไม่นานเกินรอ หากกระแสความนิยมที่ผู้คนจะหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้นในประเทศไทย หลายบริษัทคงจะต้องแย่งกันสัมปทานไม่น้อยแน่นอน
หลังจากนี้ก็มาลุ้นกันต่อว่า อีก 3 ปีข้างหน้านี้ เราจะได้เห็นการพัฒนาแบบก้าวกระโดดของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่จะพัฒนาไปไกล เกินกว่าเงินในกระเป๋าเราจะตามทันหรือไม่ หากมีอัปเดตอะไรเพิ่มเติม เราจะรีบมานำเสนอให้ได้ทันสถานการณ์กันอีกครั้ง
บทความอื่น ๆ
