More

    IONIQ 5 N Line อีวีแต่งหล่อ..สปอร์ต วิ่งไกล 530 กม. 1.988 ล้านบาท

    วันนี้ Hyundai เสนอทางเลือกใหม่แห่งความเร้าใจด้วยการแนะนำรุ่นใหม่ในตระกูล IONIQ 5 กับ IONIQ 5 N Line โดยมาขายในไทยแค่รุ่นย่อยเดียว

    IONIQ

    IONIQ 5 N Line ก้าวสำคัญของฮุนไดในการนำสุนทรียศาสตร์การออกแบบจากมอเตอร์สปอร์ตมาสู่กลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า ตอบโจทย์ผู้ที่มองหาทั้งดีไซน์สปอร์ตและความอเนกประสงค์ในหนึ่งเดียว

    ด้วยดีไซน์ภายนอกออกแบบใหม่เพื่อให้ดูสปอร์ตด้วยดีไซน์ด้านหน้าอันเป็นเอกลักษณ์เพิ่มตรา N Line ที่มุมกระจังหน้าทรงทึบ ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 20 นิ้ว พร้อมยางขนาด 255/45R20 ที่ออกแบบใหม่เฉพาะรุ่น N Line เพื่อเพิ่มสมรรถนะด้านอากาศพลศาสตร์ กันชนหน้า-หลังดีไซน์ต่างกันโดยเฉพาะกันชนหน้าเล่นระดับด้วยคิ้วสามจุดสีเงินทั้งมุมซ้าย-ขวา เส้นแนวนอนตรงกลางใต้ช่องระบายอากาศและคิ้วแนวยาวใต้กันชน สเกิร์ตด้านข้างใหม่

    กับเอกลักษณ์เดิมของ IONIQ 5 ด้วยด้านหน้ารถออกแบบเป็นรูปตัว V กระจังหน้าทรงปิดทึบ ฝากระโปรงหน้าแบบ Clamshell Bonnet มือเปิดประตูด้านข้างแบบซ่อนเก็บได้ในตัว จากฝีมือการออกแบบของ Giorgetto Giugiaro นักออกแบบชื่อดังชาวอิตาลี เพื่อปลุกตำนานอันโด่งดังให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้งในวันนี้ด้วยไฟหน้า LED คู่รูปตัว U พร้อมโลโก้ Hyundai บนฝากระโปรงที่เปิดประตูซ่อนรูป ด้านท้ายแพรวพราวด้วยไฟท้าย LED กับ ตรา IONIQ 5 รถท้ายตัดพัฒนาจากแพลตฟอร์ม Hyundai E-GMP

    • ความยาว 4,655 มิลลิเมตร
    • ความกว้าง 1,890 มิลลิเมตร
    • ความสูง 1,647 มิลลิเมตร
    • ฐานล้อ 3,000 มิลลิเมตร
    • ระยะต่ำสุดจากพื้น 160 มิลลิเมตร
    • น้ำหนักรถ 1,950 กิโลกรัม

    IONIQ 5

    ภายในห้องโดยสารผสานความสปอร์ตและความสะดวกสบายระดับพรีเมียมอย่างลงตัวด้วยทูโทนเดินด้ายแดง ผ้าบุหลังคาหุ้มขึ้นรูปสีดำ พวงมาลัยหุ้มหนังฉลุลายพร้อมตะเข็บด้ายแดงดีไซน์ N เบาะนั่งสไตล์สปอร์ตหุ้มด้วยหนัง Alcantara พร้อมโลโก้ N เบาะผู้ขับขี่ปรับเอนนอนได้แบบ Zero Gravity ด้วยไฟฟ้าพร้อมที่พักขา เพิ่มบรรยากาศสปอร์ตด้วยคันเร่งและเบรกดีไซน์สปอร์ต แป้นเหยียบคันเร่งและเบรกสีเงิน อะลูมิเนียม

    แผงหน้าปัดดีไซน์ N Line และแผงบุหลังคาสีดำ คอนโซลกลางแบบ Universal Island ที่ปรับปรุงใหม่ วางปุ่มควบคุมต่าง ๆ ในตำแหน่งที่เข้าถึงง่าย พร้อมแท่นชาร์จไร้สายที่ย้ายมาตำแหน่งด้านบนของคอนโซลกลางเพื่อความสะดวกสบายสูงสุดในทุกการเดินทาง

    ช่องแอร์อยู่บนเสา B-pillars กับม่านบังแดดที่หน้าต่าง ประตูประดับด้วยไฟแบบ ambient lighting กระจายรอบทิศทาง ลำโพงที่ติดตั้งตรงที่พักแขน ส่วนคอนโซลตรงกลางมีที่ชาร์จ USB และช่องเสียบปลั๊กไฟสามารถเสียบปลั๊กต่อกับอุปกรณ์ไฟฟ้าใช้ได้เลย ด้านหน้า มีหลังคาเปิดรับแสงแถมมีแบบ Solar Roof เพิ่มกำลังไฟฟ้าให้วิ่งไกลมากขึ้นได้ ชุดเครื่องหนังใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

    IONIQ 5

    รวมทั้งวัสดุจากการรีไซเคิลด้วย มาตรวัดดิจิทัล Integrated display ขนาด 12.3 นิ้ว แสดงข้อมูลต่างๆ นอกจากนี้ยังมีหน้าจอความบันเทิงขนาด 12.3 นิ้วอยู่ในชุดเดียวกับมาตรวัด รองรับ wireless  Apple CarPlay และ Android Auto เพื่อการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนที่สะดวกไร้สายและเครื่องเสียงชั้นนำระดับโลกจาก BOSE

    ภายในเป็นแบบ 5 ที่นั่งเบาะหลังทำความร้อนได้ สามารถปรับให้ขยับไปข้างหน้าหรือถอยหลังได้ 5 นิ้ว ทำให้ผู้โดยสารมีพื้นที่กว้างขึ้นหรือใช้เก็บสัมภาระที่จำเป็นได้เยอะขึ้นด้วยพื้นที่บรรทุกของท้ายมากถึง 520 ลิตร และพับเบาะมีพื้นที่ขนของมากถึง 1,580 ลิตร

    IONIQ 5ขุมพลังไฟฟ้าที่ขายเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ขับเคลื่อนล้อหลังพร้อมเทคโนโลยีระบบส่งกำลังไฟฟ้า 800V ที่ล้ำสมัย อัปเกรดพลังจากรุ่น Extended Range อัปความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนใหม่ขนาด 84 kWh กำลังมากสุด 225 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดกต่อการชาร์จ 530 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP หรือ 624 กิโลเมตร (NEDC) อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ 7.5 วินาที

    IONIQ 5ให้ความเร็วสูงสุด 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จับคู่กับเกียร์ 1-Speed Front Dog Clutch พร้อมโหมดการขับขี่ 3 โหมดทั้ง Eco, Normal, Sport & Snow

    พร้อมหัวชาร์จแบบ Type 2(AC)/CCS2(DC) ชาร์จได้ทั้งแบบชาร์จช้ากระแสสลับ AC สูงสุด 10.5 kW ระยะเวลาในการชาร์จจาก 0-100% ภายในเวลา 7.35 ชั่วโมง ชาร์จเร็วกระแสตรง DC 350 kW Ultra-fast Charging สามารถชาร์จไฟจาก 10-80% ได้ภายใน 18 นาทีเท่านั้น มีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ Hyundai SmartSense ไม่ว่าจะเป็น

    • ระบบแปรผันความเร็วอัตโนมัติ Stop & Go Smart Cruise Control with Stop & Go Function (SCC w/S&G)
    • ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Following Assist (LFA)
    • ช่วยเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Forward Collision Avoidance Assist (FCA)
    • เตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติที่ทางแยก Forward Collision-avoidance Assist Junction Turning (FCA-JT)
    • ช่วยรักษาตำแหน่งในช่องเดินรถ Lane Keeping Assist (LKA)
    • เตือนและควบคุมพวงมาลัยเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา Blind Spot Collision-Avoidance Assist (BCA)
    • เตือนการเปิดประตูเมื่อมีรถวิ่งมาด้านข้าง Safe Exit Warning (SEW)
    • กล้องงมองภาพจุดอับสายตา Blind-spot View Monitor (BVM)
    • แสดงภาพรอบทิศทางอัจฉริยะ Surround View Monitor (SVM)
    • เตือนอาการเหนื่อยล้าและเมื่อมีรถคันหน้าเคลื่อนที่ Driver Attention Warning (DAW)
    • ช่วยเตือนและเบรกอัตโนมัติขณะถอยรถ Rear Cross-Traffic Collision-Avoidance Assist (RCCA)

    IONIQ 5

    IONIQ 5 N Line เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 1,988,000 บาทสามารถสัมผัสรถคันจริง ได้ที่ IONIQ Lab อาคารทรูดิจิทัลพาร์ค ฝั่งเวสต์ ได้ระหว่างวันที่ 21-28 กุมภาพันธ์ หรือพบกับข้อเสนอสุดพิเศษได้ที่ งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน ณ IMPACT Challenger กรุงเทพฯ โดยมีสีภายนอก 5 สี ดังนี้

    • สีแดง Ultimate Red Metallic
    • สีเทาเข้ม Ecotronic Gray Matte
    • สีขาว Atlas White Matte
    • สีดำ Abyss Black Pearl
    • สีเทาอ่อน Cyber Gray Metallic

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts