More

    JAECOO 6T J6 ตีโป่ง 418 กม. ลุยดี ช่วงล่างนุ่ม รอราคา?

    OMODA & JAECOO น้องใหม่มาไทย 1 ปีจนได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าโดยมี JAECOO 6 EV กับ JAECOO 5 EV 2 เสาหลักนำทัพและเสริมด้วย JAECOO 6T

    JAECOO 6T

    JAECOO 6T คือร่างที่ 2 ของ JAECOO 6 EV ขายจีนในชื่อ iCAUR 03T ทั้ง 2 ได้แรงบันดาลใจจากดีไซน์ของ Land Rover Defender มาเป็นรถทรงลุ และสเปกไทยขายเพียงรุ่นย่อยเดียวคือ JAECOO 6T Long Range 4WD

    JAECOO 6T

    Design & Exterior

    ภายนอกต่างจาก JAECOO 6 EV แม้จะตีโป่งข้างให้บึกบึนดุดัน แต่ยังยึดพื้นฐาน ด้วย E-CUBE ทรงกล่อง One-Box ตั้งแต่บังโคลนหน้าซ้าย-ขวาดีไซน์เหลี่ยมหนากว่าเดิม พร้อมช่องระบายอากาศแนวตั้ง ออกแบบกระจังหน้าทรงทึบใหม่ ออกแบบกันชนหน้าใหม่กลมกลืน

    ชุดบังโคลนหน้าพร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED ช่องระบายอากาศแนวตั้งข้างๆชุดไฟหน้า บังโคลนหลังดีไซน์หนาขึ้นกลมกลืมกับบังโคลนหน้า กันชนหลังใหม่ พร้อมกล่องขนาดเล็กลงเก็บสัมภาระในตำแหน่งเดียวกับที่ห้อยยางอะไหล่สไตล์รถลุยยุค 90 ฝาท้ายเปิดบานใหญ่แบบเปิดด้านข้างและปิดด้วยระบบดูดไฟฟ้าครั้งนี้จัดระบบดูดด้วยไฟฟ้าออกไป และล้ออัลลอยทูโทนสีดำโครเมียมขนาด 19 นิ้วพร้อมยาง 245/55 R19

    นอกนั้นยกมาจาก JAECOO 6 EV ทั้งไฟหน้าดีไซน์ยูคว่ำประกบด้วยชุดไฟหน้า LED แบบ Matrix Adaptive ขนาดเล็ก มีไฟแนวตั้งแบบ DRL LED สองข้างรับกับกันชนหน้าสีดำเข้ม พร้อมไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED ด้านข้างมีความคล้ายกับ Land Rover Defender นอกจากบังโคลนใหม่แล้วยังมีที่เปิดประตูเรียบเนียนกับตัวรถ

    หลังคารถสีดำพร้อมราวหลังคาและดีไซน์เสา A-D เน้นความเหลี่ยมและหนักแน่นสร้างความโดดเด่นและดุดันให้กับตัวรถ ไฟท้าย LED พร้อมไฟตัดหมอกหลัง

    ตัวรถมีขนาดใหญ่เล็กน้อยเมื่อเทียบกับ JAECOO 6 EV จากแพลตฟอร์ม i-MS Platform โดยโครงสร้างตัวรถแบบเหล็กและอลูมิเนียมแบบโมโนค็อก ไซซ์คอมแพ็ค เมื่อเทียบกับ JAECOO 6 EV จะพบว่ากว้างยาวใหญ่เกือบทุกมิติตั้งแต่ ความยาวเพิ่มขึ้น 27 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 6 มิลลิเมตร สูงขึ้น 26 มิลลิเมตร และระยะต่ำสุดจากพื้นเพิ่มขึ้น 30 มิลลิเมตร ตั้งแต่

    • ความยาว  4,433 มิลลิเมตร (เดิม 4,406 มิลลิเมตร)
    • ความกว้าง 1,916 มิลลิเมตร (เดิม 1,910 มิลลิเมตร)
    • ความสูง 1,741 มิลลิเมตร (เดิม 1,715 มิลลิเมตร)
    • ฐานล้อ 2,715 มิลลิเมตร
    • น้ำหนัก 1,914 กิโลกรัม
    • ระยะต่ำสุดจากพื้น 225 มิลลิเมตร (เดิม 195 มิลลิเมตร)

    JAECOO 6T

    Interior & Convenience

    ภายในคล้าย JAECOO 6 EV แต่ปรับเล็กน้อยเริ่มที่พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน เปลี่ยนมาใช้โลโก้ตัวอักษรแทนตัว i พร้อมเกียร์คอที่หลังพวงมาลัย ออกแบบหนังสัมผัสใหม่รูปตัวยูที่แผงคอนโซลหน้า ตกแต่งขลิบสีทองตั้งแต่ช่องแอร์ ขอบพวงมาลัยและลำโพงติดที่แผงประตูรถ

    นอกนั้นเดิมๆทั้งคอนโซลหน้าทรงถึกสี่เหลี่ยมพร้อมออปชันเด่นทั้ง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านทรงท้ายตัด มาตรวัดดิจิทัล LCD ขนาด 9.2 นิ้ว จอสัมผัสขนาดใหญ่ 15.6 นิ้วประมวลแม่นยำด้วยชิฟ Qualcomm Snapdragon 8155 รองรับการเชื่อมต่อ Apple Car Play และ Android Auto

    พร้อมไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารหรือ Ambient Light 64 สี ที่ชาร์จมือถือไร้สาย 50 W เครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวาช่องแอร์ด้านหลัง มีฟังก์ชันกรองฝุ่นละออง PM2.5 พร้อมลำโพง 12 จุดรอบคันจาก Infinity กำลังขับ 320W ระบบเสียงรอบทิศทาง 7.1  Surround Sound (7 ทิศทาง และมี 1 ซับวูฟเฟอร์) ช่องเสียบ USB หน้า-หลัง และหลังคาพาโนรามิกซันรูฟพร้อมม่านบังแดดซันรูฟโดยตัวซันรูฟเปิดเลื่อนและกระดกได้

    JAECOO 6T

    ภายในส่วนกลางบริเวณที่พักแขน (Armrest) ที่มีพื้นที่จัดเก็บของภายในมากมาย พร้อมทั้งยังถูกออกแบบมาให้ช่วยลดความรู้สึกของระยะห่างระหว่างผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้าอีกด้วย แผงประตูยังมีการออกแบบที่กระชับมั่นคง ด้วยมือจับประตูไฟฟ้าแบบซ่อนด้วยสีทูโทนที่เรียบหรู สวิตช์กระจกอิเล็กทรอนิกส์และมือจับประตูภายในที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านความปลอดภัยไปและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยวัสดุที่เกี่ยวเนื่องให้ความรู้สึกสบายในการเดินทาง

    เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้าด้านคนขับปรับ 6 ทิศทาง และคนนั่งปรับไฟฟ้าได้ 4 ทิศทาง ส่วนเบาะหลัง พับได้แบบ 60/40 มีพื้นที่ด้านท้าย 450 ลิตร นั่งสบายทั้งคู่หน้าและคู่หลังพื้นที่วางขาและหลังคาโล่งโปร่งสบาย

    อีกหนึ่งจุดช่วยเพิ่มความสบายให้กับผู้ขับขี่และโดยสารตอนหน้านั้นคือ ฟังก์ชันบันทึกตำแหน่งเบาะที่นั่ง (Memory seat) ระบบรองน่องปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง (4-Way Electric Leg support) สำหรับคนนั่งด้านหน้า ระบบปรับอุณหภูมิหรือเบาะเย็นของเบาะที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าและตอนที่ 2 ของรถ สามารถช่วยระบายอากาศเพิ่มความสบายขณะขับขี่ในทุกสภาพอากาศ

    JAECOO 6T

    Performance & Transmission

    ยกมาจาก JAECOO 6 EV Long Range 4WD ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่เพิ่มมอเตอร์ล้อหน้าเข้ามา 95 แรงม้า แรงบิด 165 นิวตันเมตร ผสมกับมอเตอร์ล้อหลัง 184 แรงม้า แรงบิด 220 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกัน ให้กำลังรวม 279 แรงม้า แรงบิด 385 นิวตันเมตร จากความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 69.77 kWh

    ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ในระยะเวลา 6.6 วินาที (เพิ่มมาเพียง 0.1 วินาทีเมื่อเทียบกับ JAECOO 6 EV) วิ่งได้ไกลสุด 418 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC หรือ 364 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP ความเร็วสูงสุด 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

    พร้อมโหมดการขับขี่  iWD intelligent electric 4-wheel drive ทั้งโหมด 9 โหมดไม่ว่าจะเป็น โหมดประหยัด ECO, โหมดทั่วไป Normal, โหมดสปอร์ต Sport, โหมดคัสตอม Custom รวมโหมดลุยอีก 5 โหมดได้แก่ โหมด All Road, โหมดลื่น Slippery, โหมดทราย Beach (Sand) ,โหมดโคลน Muddy, โหมดหลุมบ่อ Bumpy

    ชาร์จได้ 2 รูปแบบทั้งชาร์จกระแสตรง DC รองรับการชาร์จสูงสุด 80 kW 30-80% ชาร์จภายใน 28 นาที และชาร์จกระแสสลับ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 6.6 kW รองรับการจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิด V2L ขนาด 3.3 kW

    JAECOO 6T

    Handling & Ride

    ครั้งนี้เราเดินทางจากกรุงเทพฯมายังศรีราชา จังหวัดชลบุรีด้วยระยะทางไปกลับ 238 กิโลเมตร มายังมอเตอร์เวย์ หมายเลข 7 ถนนใหญ่ กำลังว่องไวไหลลื่น ไม่อืดแม้คันนี้จะเป็นขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลาทางด้านช่วงล่างคันนี้เป็นอิสระ 4 ล้อ ด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบมัลติลิงก์ เซตมาเน้นนุ่มหนึบขับสบายนั่งไม่โยกเยก

    การเก็บเสียงนั่นเงียบตั้งแต่ 60-130 กิโลเมตรต่อชั่วโมงด้วยการบุวัสดุซับเสียงเพิ่มหลายจุดในพื้นที่ส่วนล่างของรถฉีดโฟมเพิ่มที่ใต้ท้องรถ มีฉนวนซับเสียงซุ้มล้อหน้าและฉนวนเข้าห้องโดยสารเรียกว่าอภิรมย์สราญใจทุกการเดินทาง

    พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS ให้น้ำหนักพอสมควรกึ่งเบากึ่งหนักควบคุมทิศทางพวงมาลัยง่ายสาวมือคล่องแม่นยำควบคุมง่ายและยังสามารถปรับน้ำหนักได้ 3 รูปแบบตรงทุกความต้องการในการขับขี่ ระบบเบรกเป็นดิสก์เบรก 4 ล้อ ตอบสนองการเบรกได้ลึกแต่แม่นยำ ช่วงเบรกหนักในทางตรงทำงานได้มั่นใจขึ้น

    JAECOO 6T

    พอมาถึงสนามออฟโรดปิดที่อาสมหมายกับ Fill Farm Cafe ที่มีทั้งทางเรียบ ทางโคลน หินผสมทราย สลับกับขับขึ้นเนินลงเนินที่มีความสูงชัน ขับลงบ่อน้ำ ได้ลองระบบขับเคลื่อน 4 ล้อผสมกับการทำงานของโหมด All Road และโหมดเฉพาะอีก 3 โหมดทั้ง โหมดลื่น Slippery, โหมดโคลน Muddy และโหมดก้อนหิน หลุมบ่อ Bumpy

    เริ่มที่โหมด All Road ที่ให้ระบบปรับรูปแบบการขับโดยอัตโนมัติเข้ากับสภาพถนนด้วยการทำงานของระบบนี้ขับคล่องสบายทำงานพร้อมกับระบบควบคุมการทรงตัว ESP ลดการปัดลื่นในทางโคลนทางบ่อ หลุมลึก ควบคุมรถดี

    แต่พอมาขับอีกครั้งสลับมาใช้โหมดเฉพาะทั้งโหมดโคลน Muddy,โหมดหลุมบ่อ Bumpy ทั้ง 2 โหมดปิดระบบ ESP อัตโนมัติ และโหมดลื่น Slippery ในเส้นทางเดียวกันที่ใช้โหมด All Road กลับพบว่ามีอาการลื่นไถลท้ายปัดบ้างในเส้นทางโคลนลึกแต่สามารถดึงรถกลับได้

    JAECOO 6T

    ด้วยระยะยื่นหน้าและหลังหรือโอเวอร์แฮงค์ที่เพิ่มจากรุ่น J6 เพียง 813 มิลลิเมตรและด้านหลัง 905มิลลิเมตร ด้วยมุม Approach Angle หรือมุมเงยลดลงจากรุ่น J6 เพียง 27 องศา และมุม Departure angle หรือมุมจาก ลดลงเหลือ 31 องศา และการขึ้นทางลาดชันสูงสุด 29 องศา ทำให้ผ่านอุปสรรคได้ง่ายๆทุกสถานีที่ขับ

    ปิดท้ายด้วยการขับลงบ่อน้ำด้วยตัวรถลุยน้ำลึก 625 มิลลิเมตร (เพิ่มจาก J6 25 มิลลิเมตร) แต่บ่อน้ำลึกที่สนามลึก พอควร สามารถฝ่าได้ด้วยการควบคุมคันเร่ง การควบคุมทิศทางพวงมาลัยการเบรกและพลังอีวีที่ให้มา ต้องอาศัยฝีมือและความระมัดระวังเป็นพิเศษ

    JAECOO 6T

    Safety & Feature

    ให้มาครบแต่ด้วยนโยบายของต่างประเทศมีผลทำให้ถูกไปตัด 5 รายการไม่ว่าจะเป็น เตือนก่อนเปิดประตูรถ DOW (Door Open Warning) ช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน ELK (EMERGENCY LANE KEEPING ASSIST) ช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCW (Lane Change Warning เตือนการชนด้านหลัง RCW (Rear Collision Warning) และ ช่วยเตือนขณะถอยรถยนต์ RCTA (Rear Cross Traffic Alert) นอกนั้นให้ครบเหมือน J6

    • เตือนการออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
    • ป้องกันการออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)
    • เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน BSM (Blind Spot Monitoring)
    • เตือนการชนด้านหน้า FCW (Front Forward Collision Warning)
    • หยุดรถอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Brake)
    • เตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ FDA (Front Departure Alert)
    • ควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ ACC (Adaptive Cruise Control) พร้อม Stop&Go
    • ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (TRAFFIC JAM ASSIST)
    • ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKAS (Lane Keep Assist System)
    • ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน จำกัดความเร็วอัจฉริยะ ISL (Intelligent Speed Limiter)
    • ช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
    • อ่านป้ายจราจร TSR (Traffic Sign Recognition)

    กล้องมองภาพรอบคัน 540 องศา กล้องบันทึกภาพแบบ built-in เซนเซอรช่วยจอดรถด้านหน้าและด้านหลัง ระบบเบรก ABS กระจายแรงเบรก EBD ช่วยเบรก BAS ลดกำลังขับเคลื่อนเพื่อช่วยเบรก BOS ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP ป้องกันล้อหมุนฟรี TCS รักษาเสถียรภาพการทรงตัว เบรกแบบนุ่มนวล CST เบรกสร้างพลังงานคืน CRBS ออกตัวบนทางลาดชัน HAC ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC ตรวจสอบแรงดันลมยาง TPMS ถุงลมนิรภัยรอบคัน

    JAECOO 6T

    Verdict

    การเสริมทัพของ JAECOO 6 EV ด้วย JAECOO 6T Long Range 4WD ทำให้ลูกค้าชาวไทยมีตัวเลือกมากขึ้นแม้การขับขี่การใช้งานทั่วไปจะคล้าย JAECOO 6 EV ต่างที่เสริมโป่งข้างมาทำให้ดูดุยิ่งขึ้น ภายในเหมือน J6 แต่ปรับเล็กน้อยดูสากลขึ้นมาอีก แต่ดันมาตกม้าตายอีตอนฝาท้ายไม่ไฟฟ้าและกล่องอเนกประสงค์รับน้ำหนักได้ 10 กิโลกรัมในชุดฝาท้ายที่เปิดง่ายแต่ปิดยากมาก

    ช่วงล่างเซตมาต่างจาก J6 พอสมควรเน้นนุ่มนำหนึบตาม ขุมพลัง 279 แรงม้าวิ่งฉิวพอควร เรื่องลุยหายห่วงลุยได้ไม่แพ้เอสยูวีเครื่องสันดาปจากแพลตฟอร์ม Body on Frame ระบบขับสี่และโหมดการขับขี่เทียบชั้นสายลุยไฮเอนด์แต่ความสูงใต้ท้องรถเพิ่มมาอีก 30 มิลลิเมตร ลุยได้สบายไม่กังวลเหมือนตอน J6 หนึ่งความดีที่ยกมาจาก J6 ก็คือพวงมาลัยที่น้ำหนักเบา กล้องรอบคันที่ให้ความชัดละเอียดในการมองเห็นทั้งทางเรียบและทางลุย

    อีกเรื่องอยากให้ระยะทางวิ่งต่อการชาร์จมากขึ้นระดับ 500-600 กิโลเมตร ก็จะดูดีขึ้นหน่อยด้านราคาจำหน่ายคาดว่าไม่เกิน 1,100,000 บาท และจะโดนใจสาวกมากน้อยแค่ไหนนั้นพบกันที่งาน Motor Expo 2025 ตั้งแต่ 28 พฤศจิกายน เป็นต้นไป

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts