More

    KIA EV5 อีวีวิ่งไกล 555 กม. เปิดขายออสซี่เริ่ม 1.275 ล้านบาท

    ออสเตรเลียเป็นรายล่าสุดเปิดตัวเอสยูวีไฟฟ้ารุ่นใหม่กับ KIA EV5 ด้วยค่าตัวถูกกว่ารุ่นพี่ KIA EV9 โดยขายเพียง 4 รุ่นย่อยทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง 2 รุ่น และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ 2 รุ่น

    ภายนอก Exterior

    KIA

    KIA EV5 รถใหม่ลำดับที่ 3 ของตระกูล EV ต่อจากรุ่น EV6 และ EV9 ประเดิมขายจีนตั้งแต่ปี 2023 ถอดแบบมาจากต้นแบบในร่างคอมแพ็คเอสยูวี ตั้งแต่กระจังหน้าดีไซน์เอกลักษณ์แบบหน้าเสือ หรือ digital tiger face ทรงทึบรับกับคิ้วขอบกระจังหน้าในรูปแบบแถบไฟ LED รูปตัวแอล พร้อมไฟหน้า LED 3 จุดซ่อนอยู่ข้างใน พาดยาวใต้โลโก้ KIA กับไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL แบบ LED รับกับกันชนหน้าดีไซน์เล่นระดับติดตั้งคิ้วใต้กันชนหน้า

    กระจกมองข้างทรงปกติ พร้อมไฟเลี้ยว LED ราวหลังคาเนียนเรียบกับหลังคารถ เสา A ไปจนถึงเสา C ตกแต่งด้วยสีดำและเสา D ขนาดใหญ่ทาด้วยสีเดียวกับตัวรถ ไฟท้าย LED แนวยาวเรียวทรงรูปตัวซี กันชนหลังลงตัวเสริมคิ้วสีเงินออกแนวบึกบึน สปอยเลอร์บนกระจกหลังดีไซน์ดุดัน เสาอากาศครีบฉลาม ราวหลังคา

    ฝาท้ายเปิดปิดด้วยระบบไฟฟ้ากับซันรูฟแบบ Panoramic บริเวณด้านหน้าและด้านหลัง มาพร้อมซุ้มล้อและคิ้วชายล่างประตูตกแต่งสีดำเงาที่เปิดประตูดีไซน์เรียบเนียนแบบ Flush type ทำงานอัตโนมัติและล้ออัลลอย 19 นิ้วพร้อมยาง 235/55R19 กับ 20 นิ้วพร้อมยาง 255/45R20 มาพร้อมซุ้มล้อและคิ้วชายล่างประตูตกแต่งสีดำด้าน ที่เปิดประตูดีไซน์เรียบเนียนแบบ Flush type ทำงานแบบธรรมดา และล้ออัลลอยขนาดใหญ่เลือกได้ตั้งแต่ขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 225/60 R18

    ตัวรถสร้างจากพื้นฐาน Electric Global Modular Platform (E-GMP) เป็นแพลตฟอร์มพัฒนาร่วมกับเพื่อนร่วมชายคาเดียวกันทั้ง Hyundai IONIQ 5 Hyundai IONIQ 6 Genesis GV60 และ KIA EV9 ตั้งแต่

    • ความยาว 4,615 มิลลิเมตร
    • ความกว้าง 1,875 มิลลิเมตร
    • ความสูง 1,715 มิลลิเมตร
    • ฐานล้อ 2,750 มิลลิเมตร
    • ระยะต่ำสุดจากพื้น 166 กับ 175 มิลลิเมตร
    • น้ำหนักรถ 1,870-2,130 กิโลกรัม

    ภายใน Interior

    KIAภายในคอนโซลหน้าดีไซน์แนวนอนพร้อมจอคู่ขนาดใหญ่แบบลอยตัวที่มีทั้งมาตรวัดดิจิทัล 12.3 นิ้วและจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว และ รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ไร้สาย อัปเดทซอฟต์แวร์แบบ OTA  พร้อม Kia Connect ระบบนำทางและตรวจสอบสถานะรถ เครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวาพร้อมแอร์หลัง มีระบบอุ่นเบาและยังสามารถสั่งสตาร์ทรถในระยะไกลได้ Remote Smart Parking

     

    ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระ 2 โซนพร้อมช่องระบบปรับอากาศสําหรับผู้โดยสารแถวที่ 2 จอแสดงผลสำหรับระบบปรับอากาศภายในห้องโดยสารขนาด 5 นิ้ว ที่ให้ข้อมูลและเนื้อหาที่ครอบคลุมแก่ผู้ขับขี่เพื่อสร้างประสบการณ์แบบอิมเมอร์ซีฟที่เหนือชั้น ด้วยเมนูคำสั่งที่ไม่ซับซ้อน ช่วยให้สามารถใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ที่เกี่ยวกับ EV ได้ง่ายยิ่งขึ้น

    KIA

    พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 4 ก้าน พร้อมปุ่มการใช้งานที่ง่ายๆ เบรกมือไฟฟ้าพร้อมปุ่ม Auto Hold มาพร้อมมาพร้อมแผงปิดสัมภาระอเนกประสงค์ที่สามารถปรับตั้งให้กลายเป็นโต๊ะทานข้าวสำหรับการรับประทานอาหารของสมาชิกในครอบครัวได้ทั้งแบบในรถและแบบเอาท์ดอร์ สบายแบบสองตอนห้าที่นั่ง เบาะนั่งตอนที่ 2 นั่งสบายพับได้แบบ 60/40 พร้อมพื้นที่สัมภาระท้ายจุของได้จุใจมีช่องเก็บของใต้พื้นตัวรถ

    ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charger) ลําโพง 6 จุด ทุกรุ่น เบาะนั่งหุ้มหนังสังเคราะห์ BIO PU และหุ้มผ้าพร้อมฝั่งคนขับปรับไฟฟ้า ไฟเรืองแสง Ambient Light ภายในห้องโดยสาร เบาะนั่งหุ้มหนังสังเคราะห์ BIO PU คู่หน้าปรับไฟฟ้าในบางรุ่น

    บางรุ่นมาพร้อมลำโพง Harman Kardon™ รอบคัน 8 จุด กับ ระบบแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกหน้า (HUD) ไฟเรืองแสง Ambient Light  64 สีเบาะนั่งผู้ขับแบบ Relaxation ปรับด้วยไฟฟ้าพร้อมฟังก์ชันนวดหลังและจดจำตำแหน่งผู้ขับ ระบายอากาศ และทําความอุ่นเบาะนั่งคู่หน้า โต๊ะอเนกประสงค์แบบพับได้บริเวณหลังเบาะผู้โดยสารและลิ้นชักอเนกประสงค์พร้อมฟังก์ชันปรับอุณหภูมิ 5-55 องศาเซลเซียส

    สมรรถนะ Performance

    KIA

    ขุมพลังไฟฟ้ามาพร้อมสองทางเลือกสามความแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ให้ความเร็วสูงสุด 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เริ่มที่

    รุ่น AIR Standard Range มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหน้า ด้วยความจุแบตเตอรี่ 64.2 kWh ให้กำลังสูงสุด 217 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จ 490 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC หรือ 400 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 8.5 วินาที

    ชาร์จมีทั้งแบบกระแสตรง DC รองรับการชาร์จสูงสุด 350 kW ชาร์จเร็ว 10-80% ภายใน 36 นาที และ ส่วนรองรับการชาร์จสูงสุด 50 kW ชาร์จเร็ว 10-80% ภายใน 57 นาที การชาร์จกระแสสลับ AC ชาร์จช้า รองรับกำลังไฟในการชาร์จ 7 kW 10-80% ภายใน 9.43 ชั่วโมง โดยหัวชาร์จแบบ CCS Type 2 และ AC แบบ Type 2

    KIAรุ่น AIR Long Range มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหน้า ด้วยความจุแบตเตอรี่ 88.1 kWh ให้กำลังสูงสุด 217 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จ 665 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC หรือ 555 กิโลเมตร (WLTP) อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 8.9 วินาที

    รุ่น Earth Exclusive AWD และรุ่น GT-Line AWD มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ ให้กำลังมากสุด 308 แรงม้า แรงบิด 480 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จ 620 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC หรือ 500 กิโลเมตร (WLTP) ในรุ่น Earth และ 470 กิโลเมตร (WLTP) ในรุ่น GT-Line  จากความจุแบตเตอรี่ 88.1 kWh อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 6.1 วินาที.ในรุ่น Earth และ 6.3 วินาทีในรุ่น GT-Line

    ในรุ่น Earth Exclusive AWD และรุ่น GT-Line AWD ชาร์จมีทั้งแบบกระแสตรง DC รองรับการชาร์จสูงสุด 350 kW ชาร์จเร็ว 10-80% ภายใน 38 นาทีและ 50 kW ภายใน 72 นาที ส่วนการชาร์จกระแสสลับ AC ชาร์จช้า รองรับกำลังไฟในการชาร์จ 11 kW 10-80% ภายใน 8.10 ชั่วโมง โดยหัวชาร์จแบบ CCS Type 2 และ AC แบบ Type 2

    KIAสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้หลากหลายทั้งแบบ Normal Mode / ECO Mode / Sport Mode และ Smart Mode ช่วยเพิ่มความสนุกสนานและความสปอร์ตในการขับขี่จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 1 speed Reduction Gear พร้อมระบบ i-Pedal – One Pedal Driving Function ยังชาร์จ V2L สามารถต่อกระแสไฟ จากรถยนต์ไปพ่วงใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆได้

    ความปลอดภัย Safety

    • ระบบเบรก ABS+EBD พร้อมระบบ Multi-Collision Brake (MCB)
    • ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESC)
    • เซนเซอร์ช่วยเหลือการเข้าจอดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
    • ช่วยควบคุมให้รถอยู่ในช่องจราจร (LFA และ LKA)
    • ป้องกันการชนด้านหน้า (FCAA) พร้อม Junction Assist
    • แจ้งเตือนมีผู้โดยสารอยู่ด้านหลัง (Rear Seat Alert)
    • แสดงภาพรอบทิศทาง Surround View Monitor (SVM)
    • เซนเซอร์ช่วยเหลือการเข้าจอดด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง (Parking Distance Warning Front, Side and Rear)
    • สวิตช์ควบคุมเด็กเปิดประตูหลังแบบไฟฟ้า

    และเทคโนโลยีความปลอดภัย DRIVE WiSE เพิ่มเติมทั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ซึ่งทำงานร่วมกับ

    • ระบบควบคุมความเร็วและระยะห่างจากรถคันหน้าอัตโนมัติ Smart Cruise Control with Stop & Go
    • ช่วยควบคุมให้รถอยู่ในช่องจราจร (Lane Following Assist และ Lane Keeping Assist)
    • ป้องกันการชนด้านหน้าพร้อมตรวจจับรถยนต์ คน และจักรยาน พร้อม Junction Assist (Forward Collision Avoidance Assist)
    • ช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Collision Avoidance Assist)
    • แสดงภาพมุมอับสายตาบนหน้าจอ Blind-Spot View Monitor (BVM)
    • ช่วยเหลือเพื่อความปลอดภัยขณะลงจากรถ (Safe Exit Assist)
    • แจ้งเตือนและหลีกลี่ยงการชนขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Collision Avoidance (RCCA)

    KIA

    KIA EV5 ประกอบที่เมืองเหยียนเฉิง ประเทศจีน มีทั้งหมดห้าสีทั้งสีขาวมุก Snow White Pearl สีดำ Starry Night Black สีเทา Shale Grey สีเขียว Iceberg Green สีน้ำเงิน Frost Blue พร้อมราคารวมค่า Drive-Away เริ่ม $56,770-$75,990 หรือราว 1,275,000-1,705,000 บาท มา 4 รุ่นย่อย

    • รุ่น AIR Standard Range RWD
    • รุ่น AIR Long Range RWD
    • รุ่น Earth Long Range AWD
    • รุ่น GT-Line Long Range AWD

    ที่มา Carexpert

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts