Kia PV5 รถตู้ไฟฟ้าปรับเปลี่ยนได้แบบโมดูลาร์ สามารถเป็นได้ทั้งแบบรถโดยสาร รถขนส่ง ตู้แช่เย็น หรือรองรับวีลแช์ได้ รวมถึงเป็นรถบ้านขนาดเล็ก โดยขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 161 แรงม้าและวิ่งได้สูงสุด 400 กม./ชาร์จ
รถตู้ไฟฟ้าจะมาพร้อมกับตัวถังหลัก 3 แบบเมื่อเปิดตัว ได้แก่ Passenger, Cargo และ Chassis Cab โดยแต่ละแบบจะมอบตัวเลือกให้ลูกค้าที่หลากหลายในการปรับแต่งรถให้เหมาะกับความต้องการของตนเองได้ ด้วยโครงสร้างแบบโมดูลาร์ของ PBV PVB
แต่ละรุ่นจะใช้แพลตฟอร์ม E-GMP.S ซึ่งเป็นเวอร์ชันดัดแปลงของส่วนรองรับที่พบใน EV6, EV9 ของ Kia เป็นต้น โดยในรุ่นนี้จะใช้พลังงานจากแบตเตอรี่แบบสเก็ตบอร์ด เพื่อให้มีพื้นที่ด้านบนสำหรับตัวถังที่ปรับเปลี่ยนได้ตามสไตล์ต่างๆ
การผลิต PV5 และรุ่นอื่นๆ ที่กำลังจะออกสู่ตลาด จะเกิดขึ้นที่โรงงานที่ออกแบบเอง และวิธีการผลิตนั้นน่าสนใจมาก Kia ใช้ระบบที่เรียกว่า Flexible Body System เพื่อให้ผู้ซื้อเลือกได้ว่าจะสร้าง PV5 อย่างไร บริษัทกล่าวว่าระบบนี้ “คล้ายกับการประกอบจิ๊กซอว์” ซึ่งอาจนำไปสู่การสร้างสรรค์ที่น่าสนใจได้อย่างแท้จริง
ในทำนองเดียวกัน Kia ยังได้จับมือกับผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยานยนต์เพื่อการพาณิชย์เพื่อให้ PV5 มาพร้อมกับห้องโดยสาร รุ่น Crew Cabs แบบ Drop Side, Box Van และ Freezer Box และอื่นๆ ที่ด้านหลัง นอกจากนี้ Kia ยังบอกอีกว่าคุณสามารถใช้ PV5 เป็นรถบ้านได้ด้วย ซึ่งได้มีการแสดงตัวอย่างที่งาน SEMA
ความแตกต่างของแต่ละรุ่นเป็นอย่างไร?
รุ่น Passenger มาพร้อมเบาะนั่งแบบ 3 แถวและประตูท้ายแบบยกขึ้นได้ โดยคุณสามารถนั่งได้สูงสุดถึง 8 คนในรูปแบบ 2-3-3 แต่สามารถพับเบาะนั่งลงเพื่อให้คุณและผู้โดยสารมีพื้นที่มากขึ้น
รุ่น Cargos ออกแบบให้เป็นห้องบรรทุกสัมภาระหลักในกลุ่มนี้ โดยมีให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ แบบมาตรฐาน แบบยาว และแบบหลังคาสูง โดยแบบหลังนี้จะมีแบบ Walk-Through และยังมีหลังคาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานอีกด้วย ด้วยปริมาตรบรรทุกสูงสุด 180 ลูกบาศก์ฟุตและความสูงของขอบท้ายรถอยู่ที่ 419 มม. ซึ่งสามารถใส่ของได้มากอย่างน่าประหลาดใจที่ด้านหลัง
ระบบติดตั้ง L-Track เสริมควรทำให้การยึดสัมภาระเป็นเรื่องง่าย และแหล่งจ่ายไฟฟ้าแบบ V2L (vehicle-to-load) ในพื้นที่เก็บสัมภาระควรช่วยได้เมื่อคุณต้องการพลังงานขณะเคลื่อนที่ นอกจากนี้ Kia ยังมีระบบการรวบรวมข้อมูลเพื่อให้สามารถคาดการณ์การจัดการเรื่องการบำรุงรักษา คอยดูตารางการบริการ และอื่นๆ อีกมากมาย และระบบนี้สามารถอัปเดตผ่านระบบไร้สาย
รุ่น Chassis Cab เป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณต้องการ PV5 ที่มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการเติบโต รุ่นนี้มีห้องโดยสารแบบเดียวกับรุ่น Cargo แต่ไม่มีส่วนหลัง ซึ่งสามารถเลือกปรับแต่งส่วนหลังได้เพื่อให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสำหรับธุรกิจของคุณ
Kia กำลังจะมีรุ่นอื่นๆ เปิดตัวตามออกมา โดยรุ่น Crew จะเป็นรุ่นดัดแปลงภายในของ Kia เอง ซึ่งมีคุณสมบัติที่ก่อนหน้านี้สามารถทำได้โดยการปรับแต่งภายนอกเท่านั้น รุ่น Drop Side, Box Van และ Freezer Box ก็อยู่ระหว่างการผลิตเช่นกัน Kia กล่าวว่าจะมีตัวเลือกอื่นๆ ออกมาอีก ดังนั้นบางทีรถ EV #Vanlyfeeeee อาจจะออกมาในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
แต่มียานพาหนะพิเศษอีกประเภทหนึ่งบนแพลตฟอร์ม เป็นยานพาหนะสำหรับผู้พิการทางรถเข็น (WAV) เป็น PV5 ที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะในใจ: รถที่สามารถรองรับรถวีลแชร์ได้ ประกอบด้วยทางลาดที่สามารถรองรับน้ำหนักได้ 300 กก. และยกออกสู่ทางเท้าได้ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปในรถคู่แข่ง ภายในมีระบบยึดรถเข็นสากลเพื่อให้ผู้โดยสารปลอดภัยและมั่นคงในที่นั่งแถวที่สอง ช่วยให้พวกเขาอยู่ใกล้กับด้านหน้าในขณะที่เพื่อนร่วมทางสามารถนั่งในแถวที่สามได้
หากคุณเคยขับรถ Kia มาก่อน คุณจะจำห้องโดยสารของรุ่น PV5 ได้ไม่ยาก มีทั้งปุ่มควบคุม หน้าจอสัมผัส และสวิตช์เกียร์ที่คุ้นเคย ห้องโดยสารเป็นรถแบบโมดูลาร์ ผู้ใช้จึงสร้างพื้นที่ของตัวเองได้ง่ายกว่ารถทั่วไป ผู้ติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งควรมีอุปกรณ์ต่างๆ มาใช้ในรถ
ภายในห้องโดยสาร ประกอบไปด้วยอุปกรณ์พื้นฐาน จอแสดงผลมาตรวัดขนาด 7 นิ้วและหน้าจอนำทางขนาด 12.9 นิ้ว สามารถติดตั้งแอป Android Automotive เพื่อติดตามรถระหว่างการทำงานได้ โดย Kia ได้ร่วมมือกับ Samsung และใช้แพลตฟอร์ม Internet of Things (IoT) SmartThings Pro หวังว่าลูกค้าของ PVB จะสามารถมีประสบการณ์การเชื่อมต่อมากขึ้นกับ PV5 ซึ่งจะช่วยให้รถตู้สามารถควบคุมและตรวจสอบ HVAC อัจฉริยะที่เข้ากันได้ ระบบป้ายอัจฉริยะ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์ธุรกิจอัจฉริยะและสมาร์ทโฮมอื่นๆ อีกมากมาย
และเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น Kia ได้เปิดตัว AddGear ซึ่งเป็นกลุ่มอุปกรณ์เสริมที่กำหนดค่าได้เพื่อให้พื้นที่ของคุณเป็นมิตรต่อผู้ใช้มากขึ้น อุปกรณ์เสริมจะมีให้เลือกหลายรวมถึงสีภายนอกที่สวยงามและยังใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
PV5 จะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 161 แรงม้า พร้อมแรงบิด 250 นิวตันเมตร โดยพลังงานที่ป้อนให้กับ PV5 นั้นมาจากแบตเตอรี่ 3 แบบให้เลือกใช้ โดย PV5 รุ่น Cargo บรรทุกสินค้านั้นอาจมาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) 43.3 kWh หรือแบตเตอรี่ลิเธียมนิกเกิลแมงกานีสโคบอลต์ (NMC) 51.5 หรือ 71.2 kWh ส่วนรุ่นอื่นๆ นั้นสามารถเลือกได้จากชุด NMC ที่มีความจุสูงกว่าเท่านั้น โดยระยะทางสูงสุดอยู่ที่ 400 กม./ WLTP และด้วยเครื่องชาร์จที่เหมาะสม คุณจะได้ SOC จาก 10-80% ในเวลา 30 นาที
การขาย PV5 จะเริ่มขึ้นในเกาหลีและยุโรปในช่วงปลายปี 2025 และตลาดอื่นๆ ในปี 2026
Source: insideEVs
