หลังประสบความสำเร็จจากทำราคาคุ้มค่าของ Mazda 2 ESSENTIAL ล่าสุดเปิดตัว Mazda CX-3 ESSENTIAL ปรับอีกครั้งในร่างเดิม 10 ปี
Mazda CX-3 ESSENTIAL เอสยูวีหนึ่งเดียวของตลาดที่มาพร้อมขุมพลังสันดาป SKYACTIV เน้นปรับลุคใหม่มาดใหม่ให้ตรงใจคนเมืองในราคาที่สมเหตุผลและคุ้มค่า
บนพื้นฐานเดิมทั้ง กระจังหน้าซิกเนแจอร์วิงสีดำ กระจกมองข้างสีดำ ซุ้มล้อสีดำเงา ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 215/50R18 ในรุ่น Signature ไฟหน้า Projector แบบ LED พร้อมไฟ LED Daytime ไฟท้าย LED Signature เริ่มให้ในรุ่น Ultra Plus ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED ในรุ่น Signature กันชนหน้า-หลังสปอร์ต ไฟหน้า Projector ในรุ่น Prime และออปชันใหม่ในรุ่น Ultra ไฟท้ายสีขาวแดง เริ่มให้ในรุ่น Prime, Ultra
ล้ออัลลอยสีขนาด 16 นิ้วพร้อมยาง 215/60 R16 เริ่มให้ในรุ่น Prime, Ultra และ Ultra Plus คิ้วชายล่างโครเมี่ยมที่มุมกันชนหน้า ประตูรถ เริ่มให้ในรุ่น Ultra Plus และรุ่น Signature และหลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้าในรุ่น Signature
ภายในห้องโดยสารก็ยังคงรักษาเอกลักษณ์ด้วยความประณีต พิถีพิถันใส่ใจในทุกรายละเอียด และมาพร้อมความโดดเด่นไม่ซ้ำใคร ด้วยคอนโซลหน้าหุ้มด้วยหนังสีฟ้าเทา ตกแต่งด้วยด้ายสีคอปเปอร์ พร้อมกรอบช่องแอร์สีคอปเปอร์ ผสานกันอย่างลงตัวกับเบาะหนังสีดำและผ้า Grand Luxe Suede ในรุ่น Signature ออกแบบฟังก์ชันการใช้งานและจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ ในตำแหน่งที่เหมาะสมโดยยึดหลักปรัชญามนุษย์เป็นศูนย์กลาง เพื่อให้ผู้ขับไม่ต้องละสายตาจากถนน
เทคโนโลยีการเชื่อมต่อไร้ขีดจำกัด Mazda Connect ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัว ที่รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบเสียบสายทั้งคู่ ทุกรุ่น เดิม Apple CarPlay ไร้สายในรุ่น Ultra Plus และ Signature โดยแสดงข้อมูลผ่านหน้าจอสี Center Display แบบทัชสกรีน ขนาด 7 นิ้ว และลำโพง 6 จุดรอบคันยกเว้นรุ่น Signature นอกจากนี้ยังมอบความเหนือกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกันด้วยระบบเสียง Bose รอบทิศทางพร้อมลำโพง 7 ตำแหน่งในรุ่น Signature
เพิ่มสุนทรียภาพให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารไปตลอดการเดินทาง ปุ่มควบคุม Center Commander พร้อมคอนโซลกลางพร้อมพนักวางแขนพร้อมที่วางแก้ว 2 ตำแหน่ง พนักวางแขนด้านหลังตรงกลางพร้อมที่วางแก้ว 2 ตำแหน่ง เบรกมือไฟฟ้า (EPB) พร้อมระบบ Auto Hold พนักพิงเบาะหลังสามารถแยกพับ 60:40 อิสระออกจากกัน
เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง 2 ตำแหน่งและควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Sports Paddle Shift ในรุ่น Signature ตัดไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติเริ่มที่รุ่น Ultra และ Ultra Plus ตัดที่ปัดน้ำฝนปัดอัตโนมัติ Rain Sensor เริ่มที่รุ่น Ultra และ Ultra Plus ตัดระบบ Cruise Control เริ่มที่รุ่น Prime และ Ultra ตัดที่ชาร์จมือถือไร้สาย เริ่มที่รุ่น Ultra และ Ultra Plus ตัดกุญแจรีโมทอัจฉริยะ Smart Keyless เป็น กุญแจรีโมท Keyless Entry ในรุ่น Prime พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนังเริ่มที่รุ่น Ultra Ultra Plus และรุ่น Signature และวัสดุตกแต่งกรอบช่องแอร์จากเดิมสีเงิน/ดำ มาเป็นสีดำ/เงินในรุ่น Prime
เครื่องยนต์ยังคงเดิมด้วยเบนซิน SKYACTIV-G 2.0 ลิตร รหัส PE 156 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 204 นิวตันเมตรที่ 2,800 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-Drive 6 สปีด เปลี่ยนเกียร์ทันใจด้วย Activematic
สามารถเลือกโหมดขับขี่ Sport ได้จากปุ่ม Drive Selection พร้อมระบบหยุดการทำงานเครื่องยนต์ชั่วคราวขณะจอดนิ่ง i-STOP ควบคุมการขับขี่ด้วยระบบพวงมาลัยพาวเวอร์แบบไฟฟ้า (EPAS) พร้อมความปลอดภัยครบครัน ทั้ง ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ G-Vectoring Control (GVC) ช่วยให้ควบคุมแรงบิดเครื่องยนต์ ส่งผลให้การขับขี่ทางโค้งราบรื่น พร้อมระบบความปลอดภัย i-Activsense ด้วยออปชันดังนี้
- ระบบช่วยเตือนเมื่อผู้ขับเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (DAA) (เฉพาะรุ่น Signature)
- เตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ (SBS) (เฉพาะรุ่น Signature)
- ช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง (SCBS-R) (เฉพาะรุ่น Signature)
- ช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance (Advanced SCBS) (เฉพาะรุ่น Ultra Plus และ Signature)
- เตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน (LDWS) (เฉพาะรุ่น Signature)
- ปรับไฟสูงอัตโนมัติ (HBC) (เฉพาะรุ่น Signature)
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ แบบ Stop & Go (MRCC with Stop & Go) (เฉพาะรุ่น Signature)
พร้อมออปชันความปลอดภัยเดิมทั้ง เตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน Advanced Blind Spot Monitoring (ABSM) (เฉพาะรุ่น Ultra Plus และ Signature), เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert (RCTA) (เฉพาะรุ่น Ultra Plus และ Signature), 360o View Monitor พร้อมมุมกล้องในแบบ Top View กล้องมองภาพด้านหลัง (เฉพาะรุ่น Ultra Plus และ Signature), เซนเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 จุด (ในรุ่น Ultra, Ultra Plus และ Signature)
ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ (เฉพาะรุ่น Signature), ที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบอัตโนมัติ (เฉพาะรุ่น Signature), สัญญาณไฟกระพริบเมื่อผู้ขับขี่เหยียบเบรกรถอย่างกระทันหัน ESS (EMERGENCY SIGNAL SYSTEM), ถุงลงนิรภัยคู่ (ทุกรุ่น), ถุงลมนิรภัยด้านข้างกับม่านถุงลมนิรภัย (เฉพาะรุ่น Ultra Plus Signature), ล็อกความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control เป็นออปชันมาตรฐาน (เฉพาะรุ่น Ultra Plus) ช่วยควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ DSC (Dynamic Stability Control), ช่วยในการออกตัวรถขณะอยู่บนทางลาดชัน HLA (Hill Launch Assist), ช่วยป้องกันรถเลื่อนไถล TCS (Traction Control System), ป้องกันล้อล็อก 4W-ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบช่วยเบรก BA
Mazda CX-3 ESSENTIAL มาพร้อมสีภายนอก 7 สี ทั้ง สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล (Snowflake White Pearl) สีดำ เจ็ท แบล็ก (Jet Black) สีเทา แมชชีน เกรย์ (Machine Gray) สีแดง โซลเรด คริสตัล (Soul Red Crystal) สีเทา โพลีเมทัล เกรย์ (Polymetal Gray) สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ (Platinum Quartz) สีเทา แอโร เกรย์ (Aero Gray)
รุ่น SIGNATURE มาพร้อมกับหลังคาดำ ซึ่งมีสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ (Platinum Quartz) สีแดง โซลเรด คริสตัล (Soul Red Crystal) สีเทา โพลีเมทัล เกรย์ (Polymetal Gray) และสีเทา แอโร เกรย์ (Aero Gray) ปรับราคาลดลงจากเดิม 71,000 บาท ทุกรุ่นดังนี้
- รุ่น Prime ราคาจำหน่าย 699,000 บาท
- รุ่น Ultra ราคาจำหน่าย 759,000 บาท
- รุ่น Ultra Plus ราคาจำหน่าย 829,000 บาท
- รุ่น Signature ราคาจำหน่าย 899,000 บาท