More

    MG IM6 Long Range 750 กม. เปิดราคาเร้าใจเริ่ม 1.4999 ล้านบาท

    MG เผยรุ่นย่อยใหม่ของ MG IM6 Premium intelligent e-SUV ด้วยรุ่น Long Range ทางเลือกใหม่ในเวอร์ชันขับเคลื่อนล้อหลังอย่างเป็นทางการ

    MG

    รุ่นย่อยใหม่ MG IM6 Long Range ชูจุดเด่นเป็นหนึ่งในพรีเมียมอีวีรุ่นที่ “วิ่งได้ไกลและชาร์จได้ไวที่สุดในคลาส”

    ภายนอกตอบโจทย์การใช้งาน

    ตั้งแต่กระจังหน้าทรงทึบดีไซน์ใหม่ออกแบบคิ้วชายล่างต่อเนื่องชิ้นเดียวรวมถึงคิ้วมุมกันชนหน้าซ้าย-ขวารูปตัว C ไฟหน้า LED และไฟ DRL แบบ LED รูปตัวแอลมาแบบรมดำด้านข้างเท่ด้วย

    หลังคากระจกพาโนรามิก กระจกมองข้างพับและปรับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยว กระจกรถแบบไร้กรอบ Frameless แบบโอเปร่า ที่เปิดประตูแบบเก็บซ่อนในตัวรถ (Hidden Door Handle) คิ้วชายล่างประตูสีดำ ไฟท้าย LED รมดำดีไซน์รูปตัวเอยาวจากซ้ายไปขวารับกับฝาท้ายมีสปอยเลอร์ในตัวพร้อมฝาท้ายไฟฟ้าพร้อมระบบเตะเปิดอัตโนมัติ ไล่ฝ้ากระจกหลังและล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 20 นิ้วตกแต่งรมดำ พร้อมยางหน้า 235/50R20 และยางหลัง 255/45R20 พร้อมมิติตัวรถดังนี้

    • ความยาว 4,904 มิลลิเมตร
    • ความกว้าง 1,988 มิลลิเมตร
    • ความสูง 1,669 มิลลิเมตร
    • ความยาวฐานล้อ 2,950 มิลลิเมตร
    • ระยะต่ำสุดจากพื้น 145 มิลลิเมตร
    • น้ำหนักรถ 2,320 กิโลกรัม
    • ที่จุสัมภาระด้านหน้า 32 ลิตร

    MG

    ภายในเรียบง่าย

    มีจอลอยตัวขนาดใหญ่แบบ Intelligent Immersive Touch Screens  2 จอขนาดใหญ่ ประกอบด้วย หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิทัลขนาด 26.3 นิ้ว และหน้าจอกลางแบบสัมผัสขนาด 10.5 นิ้ว สำหรับควบคุมส่วนต่างๆ ภายในรถ เชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android แบบไร้สาย ระบบสั่งการอัจฉริยะ IM OS เชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ รองรับการชาร์จ แบบไร้สายกำลังไฟสูงสุด 50 วัตต์ (Wireless Charger)

    ระบบลำโพงรอบทิศทาง 20 จุด ประกอบด้วย ลำโพงรอบทิศทาง 16 จุด และลำโพงบริเวณหลังคา 4 จุด พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB TYPE C จำนวน 2 จุด Interactive Ambient Light ที่สามารถเปลี่ยนได้ 256 เฉดสี

    กระจกไฟฟ้า One Touch Up-Down กระจกมองหลังแบบ Streaming Media Rearview Mirror กระจกที่นั่งด้านหลังแบบ Privacy Glass ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกโซนอิสระ พร้อมระบบกรองอากาศ PM 2.5 ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง กุญแจอัจฉริยะ Keyless Entry พร้อมการ์ด NFC สำหรับแปะเพื่อล็อครถและปลดล็อครถ

    MG

    ให้ความนุ่มนวลและสบายในทุกที่นั่งด้วยเบาะนั่ง POPO Sofa ทรงขนมปังพร้อมสัมผัสพรีเมียมโดยหุ้มด้วยวัสดุสังเคราะห์ เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อม Lumbar Support และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง โดยเบาะคู่หน้าเป็นแบบระบายความร้อน พร้อมระบบนวดสำหรับผู้ขับขี่

    เบาะนั่งด้านหลังพนักพิงพับได้ 60:40 พื้นที่สัมภาระด้านท้ายมีความจุ 596 ลิตร และ 1,640 ลิตรกรณีพับเบาะพร้อมที่เก็บสัมภาระเพิ่มเติมที่ท้ายรถได้อีก 69 ลิตรและเบาะนั่งหน้าฝั่งคนนั่งปรับไฟฟ้าเอนเบาะได้สุด 121 องศาและพนักพิงเบาะนั่งหลังเพิ่มมุมอีก 19-37 องศา

    เพิ่มเติมความพิเศษด้วย IM MAG HUB อุปกรณ์เสริมติดแม่เหล็กภายในตัวรถ เพื่อใช้ติดตั้งแอคเซสเซอรี่ต่าง ๆ อาทิ โคมไฟ กระจกแต่งหน้า ไฟอ่านหนังสือ ฯลฯ จำนวน 5 ตำแหน่ง เพื่อครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์การใช้งานรถอย่างแท้จริง

    MG

    ระยะทางวิ่งได้ไกลสุดในคลาส

    จากสถาปัตยกรรม 800V ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มมาตรฐานที่ออกแบบโดยเฉพาะ มีความสามารถในการชาร์จไฟได้ไวและเพิ่มระยะทางในการขับ โดยรุ่นใหม่วิ่งไกลสูงถึง 750 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (NEDC)

    ชาร์จไวทันใจด้วยเทคโนโลยีขับเคลื่อนแรงดันไฟฟ้าสูงถึง 875 โวลต์ รองรับการชาร์จแบบกระแสตรงสูงสุด 396 kW ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และลดความกังวลในการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของคนไทยด้วยเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 10-80% เพียง 18 นาที และชาร์จกระแสสลับ AC  สูงสุด 11 kW

    ใช้ความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน NCM ขนาด 100 kWh เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังให้พละกำลังสูงสุด 407 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร  อัตราเร่ง 0–100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 5.4 วินาที  ทำความเร็วสูงสุด 235 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมโหมดการขับขี่ 6 โหมด ได้แก่ Eco/Comfort/Sport/Snow/Custom และ Super Eco ซึ่งจะดึงไฟสำรองจากแบตเตอรี่มาใช้อีก 80 กิโลเมตร สำหรับในยามฉุกเฉิน

    มีระบบ Cooling system เจเนอเรชั่นใหม่ ที่สามารถระบายความร้อนได้ 15 องศาเซลเซียส ภายในเวลาเพียง 30 วินาที พร้อม ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 2 ระดับ และ V2L เปลี่ยนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้สามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าสูงสุด 6.6 kW

    MG

    ช่วงล่างมั่นใจ

    ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ Double Wishbone และด้านหลังแบบอิสระมัลติลิงค์ (รุ่นนี้ไม่มีระบบ Active Damping Control พร้อมระบบถุงลม) แต่ยังมีระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้ออัจฉริยะ (Intelligent Four-Wheel Steering System) ทำให้การเปลี่ยนเลน มีเสถียรภาพแม้ในช่วงความเร็วสูง รวมถึงทำให้การกลับรถในที่แคบได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

    รัศมีวงเลี้ยว 5.1 เมตร ทำให้ขับเลี้ยวและเข้าออกในพื้นที่แคบได้อย่างง่ายดาย ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมช่องระบายความร้อน ระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย

    MG

    มอบความมั่นใจด้วยความปลอดภัย

    มาพร้อมระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย มอบความมั่นใจในทุกการขับขี่ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM ซึ่งรวมระบบ ADVANCED DRIVER ASSISTANCE SYSTEM (ADAS) หรือระบบอำนวยความสะดวกช่วยควบคุมการขับขี่ และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ทั้งยังผ่านการทดสอบและรับรองมาตรฐานระดับ 5 ดาวจาก China NCAP และดีไซน์เพื่อรองรับ EURO-NCAP

    • ตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ DMS (Driver Monitor System)
    • ช่วยเบรกอัตโนมัติ AEB (Automatic Emergency Braking)
    • ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
    • ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keeping Assist)
    • ช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)
    • ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
    • ช่วยเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ DLC (Demand Lane Change)
    • ช่วยเสริมการมองเห็นของผู้ขับขี่แบบรอบด้าน PVSS (Proactive Vision Supplement System)
    • ช่วยเปลี่ยนเลนอย่างปลอดภัย LCA (Lane Change Assist)
    • ช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
    • ช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
    • ช่วยเบรกขณะถอย RCTB (Rear Cross Traffic Braking)
    • ช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning)

    ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง (FOLLOW ME HOME) Intelligent Scene Modes มีฟังก์ชัน Pet Mode Rainy Night Mode และ Nap Mode จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ(Speed Sensing Door Lock) เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 360 องศา พร้อมสัญญาณเตือนระยะด้านหน้าและหลัง

    ระบบอัจฉริยะแสดงผลในที่มืดและฝนตก (Intelligent Rainy Night Mode) ที่ผสานการทำงานของกล้องรอบคัน การปรับค่าช่วงล่างถุงลมอัตโนมัติ ช่วยลดปัญหาทัศนวิสัยในการมองเห็นระหว่างการขับขี่ ระบบบันทึกภาพหน้ารถ เบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake) ป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)

    ป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-Lock Brake System) กระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake Force Distribution) เสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist) ควบคุมการทรงตัว VDC (Vehicle Dynamic Control System) ควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)

    ป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System) ช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HHC (Hill Hold Control) ช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control) สัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal) ตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)

    MG

    MG IM6 Long Range  เปิดตัวและขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 สิงหาคมที่งาน Big Motor Sale 2025 ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1,599,900 บาท และเปิดราคาพิเศษลดลงจากเดิม 100,000 บาท เหลือ 1,499,900 บาท มีสีตัวถังให้เลือก 5 สี ได้แก่

    • สีชมพู Ferdinand Pink
    • สีขาว Raphael Beige
    • สีดำ Ares Black
    • สีเทา Rembrandt Grey
    • สีใหม่!! สีฟ้า Nevis Blue

    พร้อมข้อเสนอพิเศษ

    • MG SHIELD ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี
    • ฟรี MG HOME CHARGER พร้อมติดตั้ง
    • ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนระดับพรีเมียม นาน 5 ปี
    • ฟรี ค่าบริการระบบปฏิบัติการ i-SMART นาน 5 ปี
    • ฟรี บริการค่าจดทะเบียน กรอบป้ายทะเบียน และชุดพรมปูพื้น
    • สิทธิพิเศษ การบริการ MG PREMIUM FAST LANE
    • สิทธิพิเศษ การบริการ MG PREMIUM CALL CENTRE
    • ดอกเบี้ยพิเศษ 99% นาน 48 เดือน
    • รับประกันแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุม ตลอดอายุการใช้งาน (LIFETIME WARRANTY)
    • รับประกันคุณภาพรถยนต์นาน 5 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts