ในที่สุด Mitsubishi Motors เลือกฟิลิปปินส์เป็นที่แรกของโลกเปิดตัวต้นแบบรุ่นใหม่ Mitsubishi DST Concept มาในร่างเอสยูวีขนาดกลางจากพื้นฐานตัวถังโมโนค็อกที่งาน Philippine International Motor Show 2024
ด้วยดีไซน์ที่คล้ายกับ Mitsubishi XFORCE ดูสปอร์ตขึ้น เริ่มที่ไฟหน้า DRL แบบ LED พร้อมไฟหน้า LED ใต้โคมไฟ DRL มาในแบบรูปตัว T-Shaped โลโก้ทรีไดมอนด์สีเงินในกรอบสามเหลี่ยมกับกระจังหน้าขนาดใหญ่แบบ Dynamic Shield ด้านท้ายมาแบบไฟท้ายรูปตัวทีแบบ T-Shaped LED ดีไซน์ด้านข้างออกแบบให้มีความกระฉับกระเฉงเส้นสายลงตัวออกแบบกระจกเสา C มีช่องเล็กๆ 4 ช่องดีไซน์ทรงพลังดุดันและโดดเด่น กระจกมองข้าง ล้ออัลลอยลายดีไซน์เล่นระดับ
ภายในกว้างขวางทำให้ผู้โดยสารรู้สึกสบายเริ่มที่แผงคอนโซลหน้าเรียบง่ายหุ้มด้วยวัสดุหนังสัมผัสที่อ่อนนุ่มสร้างความรู้สึกถึงคุณภาพโดยแผงคอนโซลหน้าออกแบบเชื่อมกันกับแผงประตูคู่หน้ากันอย่างลงตัวนอกจากนี้ติดตั้งหลังคาพาโนรามิกเพื่อรับแสงแดดอ่อนๆส่องเข้ามาในห้องโดยสารช่วยให้ความเพลิดเพลินผ่อนคลายและโล่งกว้างตลอดการเดินทาง
มาพร้อมจอคู่แนวเดียวกันประกอบด้วยมาตรวัดความเร็วจอสี LCD พร้อมจอกลางระบบความบันเทิงและการเชื่อมต่อที่ทันสมัยคาดว่าทั้ง 2 จอจะใช้ขนาด 12.3 นิ้ว แสดงข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการขับขี่ เช่น สภาพถนน เข็มทิศ พร้อมจอมาตรวัดออฟโรดอเนกประสงค์ เพื่อสร้างการขับขี่ที่ปลอดภัยและสะดวกสบาย พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 2 ก้านทรงหัวตัดท้ายตัด
แผงเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติคอนโซลเกียร์ดีไซน์เก๋ออกแบบอย่างต่อเนื่องเข้ากับชุดคอนโซลหน้าพื้นที่วางขาพื้นที่หลังคาที่โล่งโปร่งสบายๆพร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระมากขึ้นด้วยเบาะหลังพับได้ในตอนที่ 2 กับตอนที่ 3 มาแบบ 3 ตอน 7 ที่นั่งและมีเบรกมือไฟฟ้า พร้อม Auto Hold
ขุมพลังยังไม่มีการเปิดเผยเนื่องด้วยเป็นรถต้นแบบแต่ระบบการขับขี่มีโหมดการขับขี่มากถึง 5 โหมดด้วยกันทั้ง NORMAL (ถนนทั่วไป), WET (ถนนเปียก), GRAVEL (ถนนลูกรัง), TARMAC (ถนนลาดยาง), MUD (ถนนโคลน) แบบเดียวกับ Mitsubishi XFORCE
ต้นแบบ Mitsubishi DST Concept จะกลายเป็นร่างทรงให้กับเอสยูวีรุ่นใหม่ของค่ายหวังท้าชนกับ Honda CR-V Toyota Innova ZENIX เสริมทัพไลน์สายลุยทั้งน้องเล็ก Mitsubishi XFORCE Mitsubishi Pajero Sport และเอ้มพีวีตัวเก่ง Mitsubishi XPANDER ทั้งรุ่นปกติและรุ่น XPANDER Cross
ภายใต้แผน “Challenge 2025” หรือแผนธุรกิจระยะกลางรอบ 3 ปี (ปีงบประมาณ 2566-2568) มุ่งสู่เป้าหมายยอดจำหน่ายรถยนต์ที่ 1.1 ล้านคัน ด้วยรถใหม่เปิดตัว 16 รุ่น ภายใน 5 ปีข้างหน้าเน้นกลุ่มตลาดอาเซียนโดยจะเปิดตัวในช่วงปี 2025 และเมืองไทยอาจเป็นหนึ่งในอาเซียนที่จะเปิดตัว
ที่มา Carwatch
