More

    Mitsubishi Triton มาดใหม่แต่งโทนดำเพิ่มออปชันเริ่ม 569,000 บาท

    Mitsubishi ลุยตลาดรถช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้เปิดตัว Mitsubishi Triton MY2025 ปรับครบทุกรุ่นย่อยทุกรูปแบบการใช้งาน

    Mitsubishi

    เริ่มที่รุ่นท็อปสุด Mitsubishi Triton Athlete ที่งานนี้ขายรุ่นเดียวคือรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ 4 ประตู Double Cab ด้วยภาพลักษณ์หล่อเดิม

    ทั้งชุดกระจังหน้าสีเดียวกับตัวรถพร้อมตราโลโก้ทรีไดมอนด์สีเงินและตัวอักษร Mitsubishi ขอบกระจังหน้าสไตล์ Dynamic Shield ไฟหน้า LED 3 ดวงพร้อมไฟ DRL LED 3 ดวงบนขอบฝากระโปรงหน้าพร้อมขอบตกแต่งสีดำเข้ม ชุดไฟตัดหมอกหน้า LED ที่ทั้งหมดอยู่ในชุดกันชนหน้าเท่ถึงใจด้วยการ์ดเสริม ล้ออัลลอยสีดำเข้ม 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/60 R18 ตกแต่งด้วยคิ้วขอบล้อสีดำ

    ราวหลังคาสีดำ กับสปอร์ตบาร์ทูโทนสีดำ/เงิน สปอยเลอร์บนขอบกระบะท้ายพร้อมไฟท้าย LED แนวตั้งดีไซน์ใหม่รูปตัว H ที่เปิดประตูท้ายสีดำ กันชนหลังสีดำ

    Mitsubishi

    ภายในเพิ่มออปชันด้วยระบบฟอกอากาศ nanoeTMX  สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ตลอดการเดินทาง เพิ่มความสะดวกสบายในห้องโดยสารขึ้น ทันสมัยด้วยชุดมาตรวัด LCD พร้อมจอแสดงข้อมูล MID ขนาด 7 นิ้ว แผงคอนโซลกลางมีช่องวางแก้วน้ำที่รองรับแก้วขนาดใหญ่ 2 ใบพร้อมกล่องเก็บของที่รองรับขวดพลาสติกขนาด 600 มิลลิเมตร ได้มากถึง 4 ขวด

    กล่องเก็บของด้านหน้าช่องวางสมาร์ทโฟนและช่องเก็บของขนาดเล็กอื่นๆ มีความกว้างขวางที่ใช้งานได้สะดวกแผงควบคุมด้านหน้าและคอนโซลกลางยังมีช่องต่อ USB ด้านหน้าแบบ Type-C / Type-A จุดละ 1 ตำแหน่งด้านหน้าและด้านหลัง 1 จุด แท่นชาร์จไร้สายอยู่ที่ด้านล่างของแผงควบคุม จอสัมผัสขนาดใหญ่ทั้งแบบ 9 นิ้วเชื่อมต่อทั้ง Android, Auto Apple Carplay ไร้สาย รองรับ FM/AM/MP3 พร้อมระบบนำทางในตัวจอและเทคโนโลยี MITSUBISHI CONNECT พร้อมลำโพงติดรถ 6 จุด

    Mitsubishi

    เบาะนั่งคนขับปรับด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมดันหลังปรับด้วยไฟฟ้า และ 6 ทิศทางปรับด้วยมือวัสดุหุ้มเบาะกึ่งหนังแท้ เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิ ซ้าย-ขวา พร้อมช่องแอร์หมุนเวียนอากาศบนหลังคาตอนหลัง มือจับหลังคา 8 ตำแหน่งพวงมาลัยสามก้านแบบมัลติฟังก์ชันปรับได้ 4 ทิศทาง

    เพิ่มสีสันด้วยโทนการตกแต่งสีดำ/ส้มในส่วนของชุดคอนโซลหน้าและแผงประตูวัสดุบุหนังสัมผัส พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้าน เบาะนั่งทูโทนหุ้มกึ่งหนังแท้ ส้ม/เทาเข้ม 

    และ ระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control: ACC) ผู้ขับขี่สามารถตั้งค่าความเร็วตามที่กำหนด และระบบจะใช้เรดาห์ในการคำนวณเพื่อรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าตามที่เหมาะสม เพิ่มฟังก์ชัน Stop&Go  สามารถชะลอความเร็วของรถให้เองโดยอัตโนมัติจนถึงจุดหยุดนิ่ง 

    Mitsubishiทางด้านรุ่น 2 ประตูยกสูง MEGA CAB PLUS ทั้งรุ่น PRO กับ ULTRA รุ่น 4 ประตูยกสูง Double Cab PLUS ทั้งรุ่น PRIME ULTRA และขับเคลื่อน 4 ล้อ 4 ประตู Double Cab PRIME มีการปรับเปลี่ยนออปชันภายนอกด้วการตกแต่งด้วยชิ้นส่วนสีดำเงารอบคัน เพื่อเพิ่มความเข้ม เท่ และดุดันมากกว่าเดิม ด้วยไดนามิก ชิลด์สีดำเงา กรอบไฟตัดหมอกสีดำเงา กระจกมองข้างสีดำเงา

    Mitsubishiมือเปิดประตูด้านนอกสีดำเงา มือเปิดกระบะท้ายสีดำเงา กันชนหลังสีดำตกแต่งด้วยสีไทเทเนียมรมดำ บันไดข้างสีดำ ตกแต่งสีไทเทเนียมรมดำ รุ่น Mega Cab Plus PRO เปลี่ยนเป็นไฟหน้า LED 3 ดวงพร้อมไฟ DRL LED 3 ดวงบนขอบฝากระโปรงหน้า

    และล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้วในรุ่น ULTRA PLUS เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน  ส่วนรุ่นอื่นๆได้ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 265/65 R17 ในรุ่น PRIME และขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 265/70 R16 ในรุ่น PRO 2 ประตู

    Tritonภายในทุกรุ่นเหมือนเดิมยกเว้นรุ่นยกสูง PLUS ULTRA 2 ประตูกับ 4 ประตู ยกระดับความพรีเมียมไปอีกขั้น ด้วยระบบฟอกอากาศ nanoeTMX ที่ติดตั้งอยู่กับระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระ ซ้าย-ขวา มีคุณสมบัติในการสร้างอากาศบริสุทธิ์ ยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ให้ความสดชื่น และลดอาการอ่อนเพลียในการเดินทาง มาพร้อมเบาะที่นั่งหนังสังเคราะห์มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อน (Heat Guard) ให้ความสะดวกสบายและปลอดภัยมากยิ่งขึ้นให้ตั้งแต่รุ่น PRIME และ ULTRA ทุกตัวถังรถ

    เพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันมากยิ่งขึ้น อาทิ ระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control: ACC) ผู้ขับขี่สามารถตั้งค่าความเร็วตามที่กำหนด และระบบจะใช้เรดาห์ในการคำนวณเพื่อรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าตามที่เหมาะสม และฟังก์ชัน Stop&Go สามารถชะลอความเร็วของรถให้เองโดยอัตโนมัติจนถึงจุดหยุดนิ่ง เพิ่มเติมจากเทคโนโลยีความปลอดภัย Diamond Sense ในรุ่น 4 ประตู Double Cab ยกสูง PLUS ULTRA

    และเพิ่มระบบล็อกความเร็ว Cruise Control ในรุ่น Mega Cab Plus ULTRA รุ่น Double Cab Plus PRIME และรุ่น Double Cab 4WD PRIME

    Mitsubishiทางด้านรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อมาตรฐานทั้ง 2 ประตู MEGA CAB ACTIVE และ 4 ประตู Double Cab PRO โดยเฉพาะรุ่น 4 ประตู ดับเบิลแค็บ PRO มาในลุคใหม่ เข้มเต็มขั้นยิ่งกว่าเดิม ด้วยไฟหน้า และไฟเดย์ไทม์ LED แบบใหม่ พร้อมเสริมความเข้ม ด้วยชิ้นส่วนตกแต่งสีดำเงา ไดนามิก ชิลด์สีดำเงา และกรอบไฟตัดหมอกสีดำเงา กระจกมองข้างสีดำเงา มือเปิดประตูด้านนอกสีดำเงา มือเปิดกระบะท้ายสีดำเงา และกันชนหลังสีดำตกแต่งด้วยสีไทเทเนียมรมดำ พร้อมกระทะล้อขนาด ขนาด 15 นิ้ว พร้อมยาง 215/70R15

    พร้อมออปชันครบครันทั้งชุดมาตรวัดพร้อมจอแสดงข้อมูล MID 3.5 นิ้ว แผงคอนโซลกลางมีช่องวางแก้วน้ำที่รองรับแก้วขนาดใหญ่ 2 ใบพร้อมกล่องเก็บของที่รองรับขวดพลาสติกขนาด 600 มิลลิเมตร ได้มากถึง 4 ขวด แผงควบคุมด้านหน้าและคอนโซลกลางยังมีช่องต่อ USB ด้านหน้าแบบ Type-C / Type-A จุดละ 1 ตำแหน่งด้านหน้า

    จอสัมผัสขนาดใหญ่ 10 นิ้ว รองรับ FM/AM/MP3 รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto ลำโพงติดรถ 2 และ 4 จุด วัสดุหุ้มเบาะมาแบบไวนิลหนังเทียมและผ้ากำมะหยี่ เครื่องปรับอากาศธรรมดาแบบ Full Mode Control 5 ตำแหน่ง มือจับหลังคา 2 และ 3 ตำแหน่ง พวงมาลัยสามก้านแบบมัลติฟังก์ชันปรับได้ 4 ทิศทาง

    Mitsubishi

    ขุมพลังเป็นดีเซลเทอร์โบแปรผันคลีนดีเซลไฮเปอร์เพาเวอร์ (Hyper Power Engine) พัฒนาให้มีพละกำลังที่ทรงพลังและตอบสนองได้ดียิ่งขึ้นกับขนาด 2.4 ลิตร รหัส 4N16 ที่มีให้เลือกทั้งดีเซลเทอร์โบคู่คลีนดีเซลไฮเปอร์เพาเวอร์ (Twin Turbo Hyper Power Engine) 4N16 High Power ให้กำลัง 204 แรงม้าที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิด 470 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,750 รอบต่อนาที

    จับคู่กับเกียร์อัตโนัมติ 6 สปีดพร้อมโหมดการขับขี่แบบ Sport เลือกได้ทั้งระบบขับเคลื่อนสองล้อยกสูงและขับเคลื่อนสี่ล้อ Super Select 4WD II มีการตรวจจับแรงบิดด้วยระบบลิมิเต็ดสลิปที่เฟืองท้าย (Limited Slip Differential: LSD) ช่วยกระจายกำลังด้วยอัตราส่วนร้อยละ 40 ที่ล้อหน้าและร้อยละ 60 ที่ล้อหลัง สร้างความมั่นใจในสมรรถนะการยึดเกาะถนนและประสิทธิภาพในการเข้าโค้ง มีระบบการขับเคลื่อนให้เลือก 4 รูปแบบ ได้แก่ 2H, 4H, 4HLc และ 4LLc

    พร้อมด้วยโหมดการขับขี่ 7 โหมด ครอบคลุมการขับขี่ทั้งแบบออนโรด และแบบออฟโรด โหมดการขับขี่ Normal (ทั่วไป) และแบบ Eco (ประหยัด) Gravel (ทางลูกรัง)  Snow (ถนนลื่น พื้นปกคลุมด้วยหิมะ หรือขณะฝนตกหนัก) Mud (ลุยโคลน) Sand (พื้นทราย) Rock (พื้นหินตะปุ่มตะป่ำ) พร้อมควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) เพิ่มสมรรถนะการเข้าโค้งด้วยการควบคุมการขับเคลื่อนและแรงดันเบรกที่ล้อด้านในและนอกโค้งให้มีความสมดุลอย่างมีประสิทธิภาพในรุ่น Athlete 4×4

    Mitsubishiดีเซลเทอร์โบรหัส 4N16 Mid Power ให้กำลัง 184 แรงม้าที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิด 430 นิวตันเมตรที่ 2,250 ถึง 2,500 รอบต่อนาทีจับคู่กับเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดโหมดการขับขี่แบบ Sport ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนจากเครื่องยนต์ เลือกได้ทั้งรุ่น PRO ขับเคลื่อน 2 ล้อ มาตรฐานตอนเดียว PRO ขับเคลื่อน 4 ล้อตอนเดียว รุ่น 2 ประตูยกสูง PLUS และ 4 ประตูยกสูง PLUS และรุ่น 4 ประตูขับเคลื่อน 4 ล้อ

    โดยรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Easy Select 4WD มีการตรวจจับแรงบิดด้วยระบบลิมิเต็ดสลิปที่เฟืองท้าย (Limited Slip Differential: LSD) ช่วยกระจายกำลังด้วยอัตราส่วนร้อยละ 40 ที่ล้อหน้าและร้อยละ 60 ที่ล้อหลัง สร้างความมั่นใจในสมรรถนะการยึดเกาะถนนและประสิทธิภาพในการเข้าโค้งและสามารถเลือกใช้ระบบขับเคลื่อน 2H, 4H และ 4L ตอบโจทย์การใช้งานในเส้นทางที่หลากหลาย มีระบบป้องกันล้อหมุนฟรี แอคทีฟลิมิเต็ดสลิป (Brake Control Type) ซึ่งช่วยควบคุมแรงดันเบรกของล้อที่หมุนฟรี พร้อมส่งและกระจายกำลังไปยังอีกล้อหนึ่ง จึงช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่บนพื้นผิวถนนที่ลื่น

    Mitsubishi

    และดีเซล 4N16 Low Power 150 แรงม้าที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิด 330 นิวตันเมตรที่ 1,500 ถึง 3,000 รอบต่อนาทีจับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด กับความปลอดภัย Diamond Sense ที่มีแตกต่างกันในแต่ละรุ่นทั้ง

    • ระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ ACC (Adaptive Cruise Control)
    • ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ASC (Active Stability Control)
    • ป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล TCL (Traction Control System)
    • ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA (Hill Start Assist)
    • เตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว FCM (Forward Collision Mitigation System)
    • สัญญาณเตือนจุดอับสายตา BSW (Blind Spot Warning)
    • สัญญาณเตือนขณะเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
    • เตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
    • กล้องมองภาพรอบคัน MAM (Multi Around Monitor)

    Mitsubishi

    พร้อมระบบความปลอดภัยพื้นฐานทั้งเบรก ABS กระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) ลดกำลังเครื่องยนต์ (BOS) เพื่อช่วยเบรก เสริมแรงเบรก (BA) ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC) ไฟกระพริบฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อเบรกกะทันหัน (ESS) ปรับไฟสูง-ต่ำ อัตโนมัติ (AHB) ถุงลมนิรภัย 3 จุด กับ 7 จุดรอบคัน (รวมหัวเข่าใต้คนขับ) เซนเซอร์กะระยะการจอดหน้าและหลัง และใหม่!! ไฟหน้าปรับระดับสูงต่ำทุกรุ่นโดย Mitsubishi Triton MY2025 มีราคาจำหน่ายดังนี้

    • 4 ประตู Double Cab Athlete AT ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,299,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 1,000 บาท)
    • 4 ประตู Double Cab Prime ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,039,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 23,000 บาท)
    • 4 ประตู Double Cab PLUS ULTRA AT 1,059,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 32,000 บาท)
    • 4 ประตู Double Cab PLUS PRIME AT  959,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 21,000 บาท)
    • 4 ประตู Double Cab PLUS PRIME 914,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 21,000 บาท)
    • 4 ประตู Double Cab PRO 722,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 10,000 บาท)
    • 2 ประตู Mega Cab PLUS ULTRA AT 959,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 13,000 บาท)
    • 2 ประตู Mega Cab PLUS PRO 749,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 9,000 บาท)
    • 2 ประตู Mega Cab ACTIVE 622,000 บาท
    • 2 ประตู Single Cab PRO AT ขับเคลื่อน 4 ล้อ 759,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 10,000 บาท)
    • 2 ประตู Single Cab PRO ขับเคลื่อน 4 ล้อ 709,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 10,000 บาท)
    • 2 ประตู Single Cab PRO 184 แรงม้า 609,000 บาท
    • 2 ประตู ACTIVE Cab & chassis 569,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 4,000 บาท)
    (ยกเลิกทำตลาดทั้งรุ่น Double Cab Athlete 2WD AT, Double Cab ULTRA AT 4WD, Double Cab PLUS ULTRA MT, Double Cab PLUS PRO MT, Mega Cab PLUS ULTRA MT, Mega Cab PLUS Prime MT, Mega Cab PRO MT และ Single Cab ACTIVE MT)

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts