กรมสรรพสามิตเรียกแบงก์การันตี NETA ไทย เพิ่มอีก 50 ล้านบาท – ย้ำต้องผลิตรถชดเชย 19,000 คันภายในปีนี้
หลังจากที่บริษัทแม่ของ NETA ในประเทศจีนเผชิญวิกฤตการณ์ด้านการเงินและเข้าสู่กระบวนการล้มละลาย กลายเป็นประเด็นที่คนไทยให้ความสนใจอย่างมาก ล่าสุด กรมสรรพสามิต ได้ดำเนินการเข้มงวดมากขึ้นกับ NETA ไทย หรือ Auto (Thailand)ซึ่งเป็นบริษัทในประเทศไทย โดย เรียกให้เพิ่มวงเงินค้ำประกัน (Bank Guarantee) อีก 50 ล้านบาท พร้อมย้ำเงื่อนไขสำคัญว่า ต้องผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชดเชยให้ครบ 19,000 คันภายในสิ้นปี 2568 ตามเงื่อนไขของโครงการ EV 3.0
ทำไมกรมสรรพสามิตถึงเรียกแบงก์การันตีเพิ่ม ?
กรมสรรพสามิตระบุว่า การเพิ่มแบงก์การันตีในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ “สร้างความมั่นใจ” และ ลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของบริษัทแม่ในจีน ถึงแม้ว่า NETA Auto Thailand จะเป็นนิติบุคคลจดทะเบียนในประเทศไทยและดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้อง แต่เนื่องจากได้รับสิทธิประโยชน์จากมาตรการ EV 3.0 จึงต้องมีหลักประกันที่เพียงพอว่าบริษัทจะสามารถ ส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าตามจำนวนที่รับเงื่อนไขไว้ ได้จริง
เป้าหมายคือ “19,000 คัน” ภายในปี 2568
ภายใต้เงื่อนไขของโครงการ EV 3.0 NETA ได้รับเงินสนับสนุนและสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากรัฐบาลไทย โดยมีข้อผูกพันว่าจะต้องผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) จำนวน 19,000 คัน ภายใน สิ้นปี 2568 หรือในอีกประมาณ 6 เดือนนับจากนี้
ข้อมูลล่าสุด ณ กลางปี 2568 ระบุว่า NETA Auto Thailand ได้ผลิตรถไปแล้วกว่า 4,000 คัน และมีแผนจะเดินสายการผลิตที่โรงงานในระยองอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้
ความเป็นไปได้ต่อไป
แม้ว่า NETA Auto Thailand จะยืนยันความมั่นคงในการดำเนินธุรกิจ และกรมสรรพสามิตเองก็ยังให้โอกาสดำเนินการต่อภายใต้กฎหมายไทย แต่ผู้บริโภคควรติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผู้ที่กำลังพิจารณาซื้อรถ EV ของ NETA ในช่วงนี้ เพื่อประเมินความเสี่ยงและตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกันต่าง ๆ ให้รอบคอบ
ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ