ในที่สุด Nissan MICRA EV เจเนอเรชันที่ 6 ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเสียทีและบอกได้ว่าเลยว่าคันนี้จำหน่ายเฉพาะโซนยุโรปเท่านั้น
สำหรับNissan MICRA EV เป็น 1 ใน 4 รุ่นรถอีวีของค่ายเพื่อนที่แสนดีเน้นทำตลาดยุโรปภายในปี 2027 ประกอบด้วย Nissan LEAF, JUKE และ A-Segment เจเนอเรชันใหม่
หน้าตาภายนอกคล้ายกับ March หรือ MICRA เจเนอเรชันที่ 4 รุ่นก่อนปรับโฉมโลโก้ Nissan จะอยู่เหนือกระจังหน้าดีไซน์แนวนนอนขนาดเล็กประกบด้วยไฟหน้า LED ทรงกลม พร้อมไฟนอนดวงเล็ก 3 ดวงซ่อนในโคม กับ ไฟแนวตั้งมุมกันชนหน้า อาจเรียกว่าเจ้าหน้ากบนั่นเอง
ด้านข้างมาพร้อมหลังคารถสีดำ คิ้วกรอบกระจกส่วนบนโครเมียมสีเงินผสมผสานกับขอบกระจกส่วนล่างสีดำ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวสีดำ ที่เปิดประตูดึงก้านที่คู่หน้าและด้านหลังแบบเปิดยกก้านติดกระจกเสา C พร้อมคิ้วกันกระแทกที่ประตูขนาดใหญ่พร้อมคิ้วชายล่างที่กลมกลืน ด้านท้ายมาพร้อมไฟท้าย LED รูปตัว C ที่เสา C คลุมหลังคาด้วยสีเดียวกับตัวรถ ผสมกับหลังคารถสีดำ ฝาครอบล้อและที่จับประตูดีไซน์พื้นๆบ้านๆและล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ขนาด 195/55R18
ตัวรถอาจใกล้เคียง Renault 5 E-Tech จากแพลตฟอร์ม CMF B-EV / AmpR Small ที่พัฒนาโดยกลุ่ม Renault-Nissan-Mitsubishi Alliance และยังสามารถใช้ร่วมกันกับรถในสังกัดได้เช่น Renault 5 E-Tech และ Renault 4ever ตั้งแต่ ความยาว 3,922 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,808 มิลลิเมตร ความสูง 1,498 มิลิลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,540 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1,400 – 1,524 กิโลกรัม
ภายในแน่นอนแล้วว่าเหมือน Renault 5 E-Tech ราวกับแกะเพียงแต่เปลี่ยนตราเป็น นิสสัน และทำสีสันให้ต่างจากต้นฉบับทั้งมาตรวัดความเร็วดิจิทัลขนาด 10.1 นิ้ว จอสัมผัสรองรับความบันเทิงการเชื่อมต่อขนาด 10.1 นิ้ว เชื่อมต่อแบบไร้สายกับ Apple CarPlay หรือ Android Auto
รวมถึง Google built-in เรียกใช้งาน Google Maps, Google Assistant และ Google Play ดาวน์โหลดแอปได้ รวมไปถึงเพลง พอดแคสต์ พร้อมลำโพงคุณภาพจาก Harman/Kardon
พร้อมไฟส่องสว่างภายใน Ambient Light 48 สี ที่ชาร์จมือถือไร้สาย ถาดยางสีดำสำหรับวางของเป็นภาพภูเขาไฟฟูจิในช่องเก็บของระหว่างเบาะนั่งคู่หน้า ช่องเสียบ USB เบาะนั่งหลังพับได้แบบ 60/40 มีพื้นที่วางของมากถึง 326 ลิตรกรณีไม่พับเบาะและถ้าพับเบาะมีพื้นที่มากถึง 1,106 ลิตร
ขุมพลังนั้นยกมาจาก Renault 5 E-Tech ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าให้ความเร็วสูงสุด 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมงพร้อมความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบ NMC ตั้งแต่ขนาด 40 kWh สูงสุด 109 แรงม้า แรงบิด 225 นิวตันเมตร ให้ระยะทางไกลสุด 310 กิโลเมตร (WLTP) หรือ 365 กิโลเมตร (NEDC) ชาร์จได้ทั้ง AC และ DC โดยชาร์จ DC รองรับกำลังสูงสุด 80 kw 15-80% ภายใน 30 นาที
และขนาดความจุแบต 52 kWh แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิด 245 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 9 วินาที ให้ระยะทางไกลสุด 408 กิโลเมตร (WLTP) หรือ 480 กิโลเมตร (NEDC) ชาร์จได้ทั้ง AC และ DC โดยชาร์จ DC รองรับกำลังสูงสุด 100 kw 15-80% ภายใน 30 นาที
ให้ทุกกิจกรรมสนุกสนานโดยไร้ข้อจํากัดด้วย V2L (Vehicle-to-load) ทำให้มีพลังงานไฟฟ้าพร้อมใช้งาน และอำนวยความสะดวกต่อความต้องการพลังงานไฟฟ้าของผู้ใช้มาพร้อมระบบเบรกแบบสร้างพลังงานใหม่ Regenerative Braking สามารถปรับได้ด้วยแป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ขณะที่ระบบ e-Pedal ยังสามารถขับขี่ด้วยแป้นเดียวได้
รองรับการใช้งานฟังก์ชั่น V2G (vehicle-to-grid) ต่อพ่วงรถเข้ากับกับกริดไฟฟ้าเพื่อจ่ายไฟคืนสู่ระบบ พร้อมช่วงอิสระ 4 ล้อ ด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังแบบมัลติลิงค์ พร้อมความปลอดภัยรอบคันด้วย ADAS ด้วย Nissan ProPilot assist ประกอบด้วย
- รักษาช่องทางเดินรถ Lane Keeping Assist
- ควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control
- เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Autonomous Emergency Braking
- เตือนเมื่อออกนอกเลน Lane Departure Warning
- ช่วยควบคุมความเร็วอัจฉริยะ Intelligent Speed Assist
- เตือนความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ Driver Monitoring System
- เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน Blind Spot Warning
- ช่วยเปลี่ยนเลน Lane Change Warning
- เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย Rear Automatic Emergency Braking
- เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert
- ส่งเสียงเตือน เมื่อมีรถหรือวัตถุเคลื่อนไหวเข้ามาใกล้ขณะเปิดประตูด้านข้าง Occupant Safe Exit alert
Nissan MICRA EV ทำตลาดยุโรปในช่วงปลายปี 2025 มาพร้อมสีภายนอก 14 สีทั้งสีโมโนโทนและทูโทน เช่น สีขาว Pure White, สีบอรนซ์เงิน Elegant Silver, สีดำ Mystery Black, สีเขียว Noble Marine, สีน้ำเงิน Authentic Blue และ สีแดง Rebel Red
ท้าชนทั้ง OPEL (Vauxhall) Corsa Electric, Peugeot E-208 ,MINI Electric พร้อมด้วยคู่แข่งใหม่อย่าง Volkswagen ID.2 และ CUPRA RAVAL
ที่มา Nissan
