ออสเตรเลียเป็นที่แรกของโลกเปิดตัว Nissan Navara เจนที่ 12 หยิบยืมพื้นฐาน Mitsubishi Triton ขัดเกลาดีไซน์และสมรรถนะให้เข้ากับความเป็น Nissan

Nissan Navara เจเนอเรชันที่ 12 มาในรหัส D27 ร่าง 4 ประตู Double Cab ประกอบจากโรงงาน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส แหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ประเทศไทย
ดีไซน์มาในสไตล์ Nissan Frontier
ต่างจากต้นฉบับ Triton หนีไม่พ้นกระจังหน้าใหม่ทรงเหลี่ยมแบบ แบบวี-สตรัท (V-strut) บึกบึนพร้อมตะแกรงรังผึ้งขนาดใหญ่ติดตราโลโก้ Nissan พร้อมช่องระบายอากาศ 3 ช่องบนขอบกระจังหน้าสไตล์ Hardbody ยุค 90 การออกแบบกระจังหน้าเชื่อมต่อไปจนถึงชุดการ์ดเสริมกันชนหน้าในตัว พร้อมไฟหน้า LED ไฟ LED Daytime บนชุดไฟหน้าฝากระโปรงหน้ามีขอบ พร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED
ด้านข้างไม่ต่างจาก Triton ด้วย เสาอากาศเสาสั้น กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED ที่เปิดประตูดึงก้าน บันไดข้าง ล้ออัลลอยลายเข้ม 18 นิ้ว พร้อมยาง Highway Terrain ขนาด 265/60 R18 ด้านท้ายติดตั้งไฟ LED แนวตั้งดีไซน์ใหม่รูปตัว C เข้ากันกับฝาท้ายทรงเท่ติดตราอักษร Navara ขนาดใหญ่ และกันชนหลังสีเข้ม
ด้านรุ่น PRO4-X ดุดันด้วยโทนสีแดง Lava Red ตั้งแต่ตราโลโก้ Nissan และ Navara หน้า-หลัง ช่องระบายอากาศ 3 ช่องบนขอบกระจังหน้า ราวหลังคาบิ๊วอิน คิ้วขอบล้อสีดำขลิบส้มแดงดุดัน และล้ออัลลอย 6 ก้านสีดำดุมล้อมีโลโก้แดงขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง All Terrain 265/65R17 ด้วยตัวรถรุ่นสี่ประตู Double Cab มีมิติดังนี้
- ความยาว 5,320 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,865-1,930 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,795 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 3,130 มิลลิเมตร
- ความสูงจากใต้ท้องรถ 228 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 2,120-2,140 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำมัน 75 ลิตร
- มิติกระบะภายใน ความยาว 1,555 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,545 มิลลิเมตร ความสูง 525 มิลลิเมตร

ภายในยกมาจาก Mitsubishi Triton มาทั้งหมด
เพียงเปลี่ยนตรามาเป็น Nissan ตั้งแต่ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านปรับได้ 4 ทิศทาง ชุดมาตรวัด LCD พร้อมจอแสดงข้อมูล MID ขนาด 7 นิ้ว แท่นชาร์จไร้สายอยู่ที่ด้านล่างของแผงควบคุม จอสัมผัสขนาดใหญ่ทั้งแบบ 9 นิ้วเชื่อมต่อทั้ง Android, Auto Apple Carplay ไร้สาย รองรับ FM/AM/MP3 พร้อมระบบนำทางในตัวจอ ลำโพงติดรถ 6 จุด ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระ ซ้าย-ขวา สร้างอากาศบริสุทธิ์ ให้ความสดชื่น และลดอาการอ่อนเพลียในการเดินทาง พร้อมช่องแอร์หมุนเวียนอากาศบนหลังคาตอนหลัง
แผงคอนโซลกลางมีช่องวางแก้วน้ำที่รองรับแก้วขนาดใหญ่ 2 ใบพร้อมกล่องเก็บของที่รองรับขวดพลาสติกขนาด 600 มิลลิเมตร ได้มากถึง 4 ขวด กล่องเก็บของด้านหน้าช่องวางสมาร์ทโฟนและช่องเก็บของขนาดเล็กอื่นๆ มีความกว้างขวางที่ใช้งานได้สะดวกแผงควบคุมด้านหน้าและคอนโซลกลางยังมีช่องต่อ USB ด้านหน้าแบบ Type-C / Type-A จุดละ 1 ตำแหน่งด้านหน้าและด้านหลัง 1 จุด และมือจับหลังคา 8 ตำแหน่ง

เบาะนั่งคนขับปรับด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมดันหลังปรับด้วยไฟฟ้า และ 6 ทิศทางปรับด้วยมือวัสดุหุ้มเบาะหนังผสมหนังกลับสีดำ ในส่วนของชุดคอนโซลหน้าและแผงประตูวัสดุบุหนังสัมผัส พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน พร้อม My NISSAN Connected Car Services ควบคุมสั่งการจากแอปพลิเคชันผ่านมือถือตั้งแต่การโทรฉุกเฉิน การติดตามรถที่ถูกขโมย สั่งล็อก/ปลดล็อกประตูรถและสั่งเปิดการทำงานของเครื่องปรับอากาศจากระยะไกล
พิเศษในรุ่น PRO4-X เพิ่มสีสันด้วยโทนการตกแต่งสีดำ/แดงลาวา ทั้ง แผงประตู เบาะนั่งทูโทนหุ้มกึ่งหนังแท้ผสมหนังกลับ พร้อมที่วางแขนเดินด้ายแดง ปั้มตรา PRO4-X ไว้ที่เบาะนั่งและที่ท้าวแขน แผงคอนโซลหน้าหุ้มหนังสัมผัสเดินด้ายแดง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนังเดินด้ายแดง ติดตราโลโก้สีแดง ฐานคอนโซลกียร์ติดกรอบสีแดง พร้อมถุงเกียร์ ถุงเบรกมือคันโยกหุ้มหนังเดินด้ายแดง

ขุมพลังใช้เครื่องยนต์ดีเซลค่าย Mitsubishi
ด้วยรหัส 4N16 ขนาด 2.4 ลิตร ดีเซลเทอร์โบคู่ไฮเปอร์เพาเวอร์ (Twin Turbo Hyper Power Engine) ให้กำลัง 204 แรงม้าที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิด 470 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,750 รอบต่อนาที สามารถลากจูงได้ถึง 3,500 กิโลกรัม
จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่แบบ Sport ขับเคลื่อนสี่ล้อ Super Select 4WD II มีการตรวจจับแรงบิดด้วยระบบลิมิเต็ดสลิปที่เฟืองท้าย (Limited Slip Differential: LSD) ช่วยกระจายกำลังด้วยอัตราส่วนร้อยละ 40 ที่ล้อหน้าและร้อยละ 60 ที่ล้อหลัง
สร้างความมั่นใจในสมรรถนะการยึดเกาะถนนและประสิทธิภาพในการเข้าโค้ง มีระบบการขับเคลื่อนให้เลือก 4 รูปแบบ ได้แก่ 2H, 4H, 4HLc และ 4LLc พร้อมด้วยโหมดการขับขี่ 7 โหมด ครอบคลุมการขับขี่ทั้งแบบออนโรด และแบบออฟโรด ทั้ง
- โหมดการขับขี่ Normal (ทั่วไป)
- Eco (ประหยัด)
- Gravel (ทางลูกรัง)
- Snow (ถนนลื่น พื้นปกคลุมด้วยหิมะ หรือขณะฝนตกหนัก)
- Mud (ลุยโคลน) Sand (พื้นทราย)
- Rock (พื้นหินตะปุ่มตะป่ำ)
ยังมีขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Easy Select 4WD (2H, 4H และ 4L) ในบางรุ่น พร้อมควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) เพิ่มสมรรถนะการเข้าโค้งด้วยการควบคุมการขับเคลื่อนและแรงดันเบรกที่ล้อด้านในและนอกโค้งให้มีความสมดุลอย่างมีประสิทธิภาพ

มาพร้อมกับระบบป้องกันล้อหมุนฟรี แอคทีฟลิมิเต็ดสลิป (Active LSD -Brake Control Type) ซึ่งช่วยควบคุมแรงดันเบรกของล้อที่หมุนฟรี พร้อมส่งและกระจายกำลังไปยังอีกล้อหนึ่ง จึงช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่บนพื้นผิวถนนที่ลื่น พร้อมกับมอบประสบการณ์ขับขี่ก้าวข้ามทุกอุปสรรค รองรับการบรรทุกหนัก ทั้งยังช่วยรับและกระจายแรงในกรณีที่เกิดการปะทะ ช่วยปกป้องให้ทุกการขับขี่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้นด้วย
ระบบบังคับเลี้ยวจะเป็นแบบ Rack & Pinion พร้อมพาวเวอร์ช่วยผ่อนแรงแบบไฟฟ้า (Electric Power Steering: EPS) ช่วยให้ขับขี่คล่องตัว ควบคุมได้ดังใจ ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้นพร้อมคอยล์สปริงและโช้คอัพ ด้านหลังเป็นแบบแหนบแผ่นซ้อน ลุยได้มั่นใจทุกรูปแบบตั้งแต่มุมไต่หรือมุมเงย Approach Angle 30.4 องศา มุมจาก Departure Angle 22.8 องศา และมุมคร่อม break-over angle 23.4 องศา

ความปลอดภัยมาครบ
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Emergency Lane Keeping (ELK)
- ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Emergency Lane Assist (ELA)
- ควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Departure Prevention (LDP)
- เตือนด้านหน้าขณะออกจากช่องจอด Front Cross Traffic Alert (FCTA)
- เตือนและแสดงป้ายจราจร Traffic Sign Recognition (TSR)
- เตือนความเมื่อยล้าขณะขับขี่ Driver Attention Alert (DAA)
- ตรวจวจับพฤติกรรมเสี่ยงจะเกิดเหตุขณะขับขี่ Driver Monitor System (DMS)
- จำกัดความเร็วอัจฉริยะ Intelligent Speed Limiter (ISL)
- ล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control: ACC)
- เตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (Forward Collision Mitigation system: FCM)
- สัญญาณเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning: BSW)
- สัญญาณเตือนขณะเปลี่ยนเลน (Lane Change Assist: LCA)
- เตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (Rear Cross Traffic Alert: RCTA)
พร้อมระบบความปลอดภัยพื้นฐานทั้ง เบรก ABS กระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) ลดกำลังเครื่องยนต์ (BOS) เพื่อช่วยเบรก เสริมแรงเบรก (BA) ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC) ไฟกระพริบฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อเบรกกะทันหัน (ESS) ปรับไฟสูง-ต่ำ อัตโนมัติ (AHB) ถุงลมนิรภัย 8 จุดรอบคัน เซนเซอร์กะระยะการจอดหน้าและหลัง
ตรวจวัดลมยาง Tire Pressure Monitoring System (TPMS) ช่วยบังคับการลากจูง Trailer Stability Assist (TSA) กล้องมองภาพรอบคัน (Multi Around Monitor: MAM) ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Active Stability Control: ASC) ป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (Traction Control System: TCL) ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist: HSA)

Nissan Navara ขาย 2 เกรดทั้งรุ่น PRO4-X และ ST-X เตรียมเผยราคาและขายตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2026 ทางด้านไทยเตรียมพบเจนใหม่จากพื้นฐานรหัส D23 Version 2 มาพัฒนาใหม่หมด คาดพบกันในปีหน้า
ที่มา Nissan










