2024 Honda Forza 750 พี่ใหญ่บิ๊กสกู๊ตเตอร์ระดับพรีเมียมในคลาส 750cc ในตอนนี้กำลังมีกระแสอยู่ไม่น้อยเกี่ยวกับการเปิดตัวในประเทศไทย และในครังนี้มาดูกันว่ารายละเอียดของตัวรถมีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง
เริ่มต้นกันที่ส่วนของการออกแบบภายนอกตัวรถจะมีความใกล้เคียงกับน้องๆ ในตระกูล Forza ตั้งแต่คลาส 125cc. ไปจนถึงตัว 350cc. ที่จำหน่ายอยู่ในโซนยุโรป โดยมีความแตกต่างกันอยู่ที่ส่วนของไฟหน้าคู่พร้อม Daytime Running Ligh และเปลือกด้านหน้าที่ออกแบบได้อย่างโฉบเฉี่ยวแบบสปอร์ตสปอร์ตสกู๊ตเตอร์ สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์คือไฟเลี้ยว ซึ่งถ้า Forza รุ่นอื่นอยู่ที่กระจกมองช้าง แต่ไฟเลี้ยวของ Forza 750 จะอยู่ใต้ตัวถังด้านหน้า และในส่วนพื้นที่วางเท้าของผู้ขับขี่ที่ออกแบบให้มีพื้นที่กว้างทำตอบโจทย์ผู้ขับขี่ทั้งในเมืองและออกทริปเดินทางไกลอีกด้วย
Honda Forza 750 จะใช้พื้นฐานหลายๆ อย่างร่วมกับ X-ADV และ NC-750X โดยมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2 สูบ ขนาด 750 ซีซี SOHC 8 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ซึ่งให้กำลังสูงสุดที่ 43.1 กิโลวัตต์ที่ 6,750 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดสูงสุดที่ 69 Nm 7,000 รอบ/นาที และที่น่าจะเป็นจุดเด่นที่สุดของโมเดลคือชุดเกียร์ DCT ที่สามารถขับขี่ได้ทั้งแบบออโต้และสามารถเปลี่ยนเกียร์ได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส
ระบบกันสะเทือนแบบ ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบ Upside Down สีทองที่ดูหรูหราและดุดันแบบสปอร์ต ส่วนด้านหลัง monoshock pro link และสวิงอาร์มอลูมิเนียม ยาง gambot ขนาดล้อหลัง 15 นิ้ว และล้อหน้า 17 นิ้ว พร้อมดิสก์เบรกคู่หน้า และดิสเบรกหลังเดี่ยว ทำงานร่วมกับระบบเบรก ABS แบบ Dual Channel
ส่วนของฟังก์ชั่นตัวรถจะมาพร้อมกับหน้าจอ TFT แบบสัมผัสขนาด 5 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน และระบบ HSVCs สั่งงานด้วยเสียง พร้อมการการตั้งโหมดขับขี่ 4 โหมด โดยแบ่งเป็น 3รูปแบบมาตรฐานคือ Standard, Sport และ Rain ส่วนอีกโหมดคือ User ที่สามารถปรับตั่งค่าพละกำลังต่างๆ ได้อย่างอิสระ
นอกจากนี้ตัวรถยังมาพร้อมกับระบบคันเร่งไฟฟ้า Throttle By Wire ระบบ HSTC ที่ปรับได้ 3 ระดับ ระบบ ESS หรือสัญญาณหยุดฉุกเฉิน กุญแจอัจฉริยะ ช่องเก็บของใต้เบาะนั่งขนาดใหญ่ 22 ลิตร ที่เพิ่มช่องเสียบชาร์จ USB มาให้อีก 1 ช่องนอกเหนือจากในคอนโซลหน้าที่มีช่องเสียบ USB แบบ Type-C อยู่แล้วอีก 1 ช่อง
สุดท้ายนี้ 2024 Honda Forza 750 วางจำหน่ายในโซนยุโรปด้วยกันทั้งหมด 4 สี คือ สีดำ (Matte Ballistic Black), สีแดง (Candy Chromosphere Red), สีน้ำเงิน (Matte Jeans Blue) และสีเทา (Iridium Grey Metallic) ด้วยราคาจำหน่ายที่ 11,960 ปอนด์ หรือประมาณ 526,000 บาท ส่วนการทำตลาดในประเทศไทยในตอนก็มีโอกาสสูงมาที่จะเข้ามาแต่จะเมื่อไหร่นั้นก็คงต้องรอลุ้นกันต่อไปอย่างไวสุดๆ ก็งาน Motor Expo แต่อย่างช้าหน่อยคงต้อง Motor Show ปีหน้า ส่วนราคาที่วางขายไม่น่าจะห่างจาก X-ADV มากนัก และคาดว่าจะอยู่ประมาณ 380,000 – 430,000 บาท