Yamaha NMax Turbo เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศ อินโดนีเซีย ไปเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ และล่าสุดมีกระแสข่าวลือว่าจะมีการเปิดตัวที่ประเทศไทยในเดือนสิงหาคมนี้..!
ล่าสุดได้มีกระแสข่าวลือว่า Yamaha NMax Turbo จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ประเทศไทยในเดือนสิงหาคมนี้..! และในครั้งนี้เรามาดูกันว่านอกจากการอัปเดตโฉมใหม่แล้ว เทคโนโลยี และสมรรถนะรายละเอียด จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง
สำหรับการอัปเดตเรียกได้ว่ามีความเปลี่ยนแปลงไปไม่น้อยเลยสำหรับภายนอกจะเห็นว่าตัวรถมีการปรับโฉมใหม่ในส่วนของไฟหน้าและไฟเลี้ยวดีไซน์เหมือนรูปตัว M โดยส่วนของไฟหลักจะเป็นไฟ LED โปรเจคเตอร์สองดวง มีไฟ DRL เป็นเส้นตรง และขนาบข้างด้วยไฟเลี้ยว LED ส่วนของด้านท้ายก็ปรับเปลี่ยนใหม่แยกชัดเจนระหว่างไฟท้ายกับไฟเลี้ยว
สำหรับขนาดตัว New NMax จะมีความสูงที่เพิ่มขึ้นโดยมีขนาดตัวอยู่ที่ 740 มม. x 1,935 มม. x 1,200 มม. (กว้าง x ยาว x สูง) ขณะที่รุ่นปัจจุบันที่จำหน่ายในประเทศไทยจะมีขนาดตัวอยู่ที่ 740 มม. x 1,935 มม. x 1,160 มม. ส่วนระยะความสูงจากพื้นถึงเครื่องยนต์จะอยู่ที่ 135 มม. สูงขึ้นจากเดิม 10 มม. ความสูงของเบาะนั่งจะอยู่ที่ 770 มม. สูงขึ้นจากเดิม 5 มม. และระยะฐานล้อยังเท่าเดิมคือ 1,340 มม. อย่างไรก็ตามจะเห็นว่ามิติตัวรถมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย แต่ตัวรถจะดูเหมือนมีความเพรียวบางมากกว่าเนื่องจากพาร์ทชิ้นส่วนถูกออกแบบให้มีเส้นสายที่เป็นเหลี่ยมสันมากขึ้นนั่นเอง
ขุมพลังเรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นสำคัญของ All New Yamaha NMax เลยก็ว่าได้เพราะมาพร้อมกับการอัปเดทใหม่เป็นเครื่องยนต์ Blue Core 155 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้พละกำลังสูงสุด 15.36 แรงม้า ที่ 8,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 14.2 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบต่อนาที พร้อมด้วยระบบวาล์วแปรผัน VVA ซึ่งมาควบคู่กับเทคโนโลยี Yamaha Electric CVT (YECVT) มาเสริมความเป็นสปอร์ตมากขึ้นด้วยการให้ความรู้สึกการขับขี่แบบเทอร์โบ
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ โหมดการขับขี่ 2 โหมด คือ T Mode: Town Commuting (สำหรับใช้งานเมื่อขับขี่ในเขตเมือง) และ S Mode: Sport Touring (สำหรับใช้งานเมื่อขับขี่ที่ต้องการอัตราเร่งมากขึ้น เช่น เมื่อเดินทางออกนอกเมือง) พร้อมด้วย Turbo Y-Shift ที่จะมอบประสบการณ์การเร่งความเร็วด้วย 3 ระดับ: 1: ต่ำ, 2: ปานกลาง, 3: สูง ซึ่งควบคุมได้โดยการกดปุ่ม Y-Shift
ส่วนของช่วงล่างยังคงใช้เป็นโช้คอัพหน้าเทเลสโคปิก และโช้คอัพหลังแบบมีซับแทงก์ ระบบเบรกเป็นดิสก์เบรก หน้า/หลัง พร้อมด้วยระบบเบรก ABS แบบ Dual Channel มีวงล้อ หน้า/หลัง ขนาด 13 นิ้ว สวมด้วยยางหน้าขนาด 110/70 – 13 M/C 48P หลังขนาด 130/70 – 13 M/C 63P
สำหรับฟีเจอร์ใช้งานมาพร้อมระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (TCS) มาตรวัดความเร็วแบบ Full LCD ดีไซน์ใหม่ และหน้าจอสี TFT แสดงระบบนำทางโดยแอป Garmin Street Cross นอกจากนี้ยังมาพร้อมการเชื่อมต่อกับ Y-connect ช่องเสียบปลั๊กชาร์จขนาด 12V 1A และช่องเก็บสัมภาระใต้เบาะขนาด 25 ลิตร
สำหรับราคาและการวางจำหน่าย All New NMax คาดว่าจำหน่ายด้วยกันสองรุ่น คือ รุ่น Turbo TECH MAX และ รุ่น Turbo ส่วนราคาคาดว่าอาจะมีการปรับเพิ่มจากเดิมเล็กน้อยโดยคาดว่าจะมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นประมาณ 98,000 บาท ส่วนการเปิดตัวในประเทศไทยช่วงปลายเดือนสิงหาคมนั้นจะเป็นไปตามข่าวลือหรือไม่คงต้องตามตามรอลุ้นกันอีกสักนิด..!
ติดตามข่าวสารยานยนต์ : car2day.com
Page Facebook : Car2Day
Youtube : youtube.com/@Car2day