ถึงแม้งาน Motor Expo 2022 จะปิดม่านลงด้วยยอดจองรวม 42,768 คัน เพิ่มขึ้น 22.8 % โดยแยกในส่วนยอดจองรถยนต์อยู่ที่ 36,679 คัน เพิ่มขึ้น 16.1 %
นับเป็นสัญญาณดีต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ในเมืองไทยทำให้โตต่อเนื่องมาตลอดถึงม้าจะวิกฤตภายในและภายนอกประเทศเข้ามาแต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการขายรถยนต์แม้แต่น้อยอย่างล่าสุดทาง Suzuki ประกาศตัวเลขยอดจองของค่ายในงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 หรือ Thailand International Motor Expo 2022 ด้วยตัวเลข 2,464 คัน อยู่ในอันดับที่ 6 ของ 10 ที่สุดยอดจองสูงสุดในงาน โดยหัวหอกในการสร้างยอดจองมหาศาลนั้นก็คือ
1.SUZUKI SWIFT 1,003 คัน เป็นยอดจองอันดับ 1 ของค่าย
2. SUZUKI CELERIO รถทรงกล่องขนาดจิ๋วที่โกยยอดจองเป็นอันดับ 2 ได้ 381 คัน
3. SUZUKI CARRY มินิทรั๊คสารพัดประโยชน์ตอบโจทย์ธุรกิจได้ยอดจอง 326 คัน เป็นอันดับ 3
4. NEW SUZUKI ERTIGA SMART HYBRID เอ็มพีวีเล็กน้องใหม่ได้ยอดจอง 310 คัน
5. SUZUKI XL7 ได้ยอดจอง 295 คัน
6. SUZUKI CIAZ ได้ยอดจอง 93 คัน
7. SUZUKI ERTIGA 56 คัน
โดย มร. มิโนรุ อามาโนะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 หรือ Thailand International Motor Expo 2022 ยอดจองรถยนต์ซูซูกิภายในงานครั้งนี้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย โดยมียอดจองรวมอยู่ที่ 2,464 คัน จากกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้าที่มอบความไว้วางใจและเลือกเป็นเจ้าของรถยนต์ซูซูกิ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง SUZUKI SWIFT สปอร์ตแฮทช์แบ็กยังเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่เข้าไปอยู่ในใจคนไทยและได้รับการยอมรับอย่างต่อเนื่อง พิสูจน์ได้จากการที่เป็นรถที่มียอดจองสูงที่สุดของซูซูกิ และถูกเติมเต็มความต้องการที่หลากหลายและแตกต่างของผู้บริโภค นับว่าเป็นงานมหกรรมยานยนต์ครั้งนี้ จัดแสดงรถยนต์ที่สร้างบรรยากาศการซื้อ-ขาย ระหว่างผู้บริโภคและผู้จำหน่ายได้เป็นอย่างดีเพราะมีผู้เข้าร่วมชมงานอย่างคับคั่ง
ด้าน นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับซูซูกิก็ให้ความสำคัญในการเข้าร่วมงานมหกรรมยานยนต์มาอย่างต่อเนื่องโดยจะมุ่งมั่นนำเสนอความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุมกลุ่มรถยนต์นั่งทุกเซกเมนต์ในตลาด รวมถึงการแนะนำ “NEW SUZUKI ERTIGA SMART HYBRID มีส่วนช่วยสำคัญในการสร้างยอดขายให้เพิ่มมากขึ้น และยังคงคำนึงถึงความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า ที่จะได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีและมีคุ้มค่า รวมไปถึงมุ่งมั่นทุ่มเทในการพัฒนาในการยกระดับงานด้านบริการหลังการขายด้วยกลยุทธ์ในการดูแลและเข้าถึงลูกค้าด้วยความจริงใจ ใส่ใจที่จะมอบบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า ภายใต้แนวคิด “SUZUKI Cause We Care – เหนือกว่าความใส่ใจ คือความเข้าใจทุกความต้องการ
อีกทั้งยังนำเสนอแคมเปญพิเศษ “SUZUKI SUPER FLASH DEAL” ที่สร้างโอกาสให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ซูซูกิ ช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค แม้ในตลาดจะมีการแข่งขันที่สูงมาก แต่ด้วยแนวทางการทำตลาดของซูซูกิ ที่มุ่งเน้นการเข้าถึงผู้บริโภคทั้งเรื่องงานขายและงานบริการ รวมไปจนถึงการแนะนำผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาด สามารถสร้างอัตราเติบโตให้กับแบรนด์ได้เป็นอย่างดีเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
