หลังจากทำความรู้จักกับแบรนด์รถลุยในเครือ GWM อย่าง TANK ก็ได้รับความสนใจจากสาวกขาลุยที่ต้องการอยากได้รถเอสยูวีเพื่อกิจกรรมสันทนาการ
หลังจากนำ TANK 500 มาโชว์เวอร์ชันพวงมาลัยซ้ายในช่วงปลายปีที่แล้วปีนี้ครบรอบหนึ่งปีของแบรนด์ TANK ในไทย จึงนำกลับมาโชว์กันอีกครั้งในเวอร์ชันพวงมาลัยขวาหน้าตาไม่ต่างกันมาพร้อมรูปทรงรถยนต์ที่สง่างามและทรงพลัง ด้านหน้าเด่นด้วยกระจังหน้าโครเมียมขนาดใหญ่ พร้อมไฟหน้า Full LED สอดรับกระโปรงหน้าทรงดุดัน และมีให้เลือกทั้งแบบยางอะไหล่ห้อยท้ายประตูบานใหญ่หรือใต้ท้องรถ ล้ออัลลอยมีหลายขนาดตั้งแต่ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/60 R18 ขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 265/55 R19 และ 20นิ้ว พร้อมยาง 265/50 R20 มิติตัวถังที่ใหญ่กว่าตัวรถยาว 5,070 มม. กว้าง 1,934 มม. สูง 1,905 มม. มีระยะฐานล้อ 2,850 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 224 มม. และความจุถังน้ำมัน 80 ลิตร ลุยน้ำได้ลึกสุด 800 มม.แบบแชสซีส์ขั้นบันไดหรือ Body on Frame
ภายในทันสมัยแต่โดดเด่นด้วยหน้าจอดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว หน้าจอกลางแบบสัมผัสขนาด 14.6 นิ้ว และหน้าจอควบคุมด้านหลัง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านหุ้มหนัง นาฬิกาเข็มแบบเดียวกับรถยุโรปแบรนด์หรู หัวเกียร์อัตโนมัติทรงหรูด้วยคริสตัลลวดลายเพชรและเป็น 5 กับ 7 ที่นั่งที่หรูสบายด้วยวัสดุหุ้มหนัง ลำโพงคุณภาพระดับพรีเมียม และเบาะหนังที่ให้ความรู้สึกเรียบง่ายแต่หรูหราเหนือระดับ
รถยนต์ฟูลไซซ์เอสยูวีคันนี้มีขุมพลังหลากหลายตั้งแต่เบนซินเทอร์โบคู่ Mild Hybrid 48V V6 3.0 ลิตร GW6Z30 ให้กำลังมากสุด 353 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 500 นิวตันเมตรที่ 1,500-4,500 รอบ/นาที สำหรับมอเตอร์ไฟฟ้าของรุ่น MHEV นี้เป็นแบบ Belt-driven integrated starter generator ยังมีขุมพลัง Full Hybrid หรือ HEV กับเบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร GW4N20 HEV ให้กำลังรวมมากถึง 350 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 615 นิวตันเมตร จากภาคเครื่องยนต์ได้ 244 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ 3-in-1 และมีรุ่น Plug In Hybrid ด้วยขนาด 2.0 ลิตรเบนซินเทอร์โบโดยให้กำลังจากภาคเครื่องยนต์ 244 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่ให้กำลัง 175 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร และความจุแบตเตอรี่ 19.94 kWh เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังมากสุด 420 แรงม้า แรงบิด 750 นิวตันเมตร สามารถวิ่งไกล 50 กม./การชาร์จหนึ่งครั้ง
ทั้งสามขนาดจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ร่วมด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะรุ่นใหม่ล่าสุด อาทิ TANK Turn ที่ช่วยให้การเลี้ยวในที่แคบเป็นไปได้อย่างง่ายดาย พร้อมด้วยระบบล็อกเฟืองไฟฟ้าด้านหน้าและด้านหลังที่ส่งถ่ายกำลังของล้อเพื่อช่วยป้องกันการลื่นไถล และยังมีโหมดการขับขี่แบบออฟโรดอีกมากมายซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้อัตโนมัติตามสภาพพื้นถนน ลุยมั่นใจกับมุมเงย 29.6º พร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะสามารถรับรู้ฟังก์ชันต่างๆ ตามการนำทาง เช่น ระบบเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ ระบบช่วยเหลือการเปลี่ยนเลนและการเปลี่ยนฉุกเฉิน ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ และระบบช่วยหยุดรถเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง ช่วยเสริมความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่พร้อมลุยในทุกเส้นทาง จับตา TANK 500 เอสยูวีรุ่นใหญ่ฟาดฟันกับ Toyota Land Cruiser Prado จะประเดิมขายไทยรุ่นแรกหรือไม่มาลุ้นกัน และยังเป็นรถประกอบในไทยเป็นที่แรกของโลกที่ประกอบนอกประเทศจีน