เมืองไทยถูกต่างประเทศเปิดตัวตัดหน้าหลังสิงคโปร์เปิดตัวไปล่าสุด ออสเตรเลีย ตัดหน้าไทยอีกครั้งกับ Toyota Camry เก๋งหรูรุ่นล่าเจเนอเรชันที่ 9
แน่นอนว่าหน้าตาออสเตรเลียหน้าเดียวกับสิงคโปร์และไทย สำหรับ Toyota Camry เจนใหม่ขายเพียงขุมพลังฟูลไฮบริดตามนโยบายที่เน้นขายรถแนวนี้เป็นหลัก
ภายนอก Exterior
รูปลักษณ์ดีไซน์คล้ายกับ Toyota Crown, Prius และ Lexus ตั้งแต่ชุดกระจังหน้ากริตเตอร์ขอบใหญ่ปีกซ้ายขวาดีไซน์เอกลักษณ์ค่ายสามห่วงพร้อมตราโลโก้สอดรับกับชุดไฟหน้า Signature Hammerhead LED พร้อม ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL แบบ LED รูปตัวเลขเจ็ดและไฟเลี้ยววิ่ง กันชนหน้าออกแบบให้มีช่องระบายอากาศขนาดใหญ่และมีช่องเว้ามุมกันชนซ้าย-ขวาแบบสปอร์ตมีไฟตัดหมอกหน้า LED
มุมมองด้านข้างยังมีความคล้ายกับ Toyota Camry เจนที่ 8 ทั้งเส้นสายข้างประตู กระจกมองข้างทรงสปูน คิ้วขายล่าง ไฟท้าย LED แบบ Slim Three-Dimensional Linear ดีไซน์เรียวรูปตัวซีพร้อมคิ้วกรอบป้ายทะเบียนสีดำและสีเดียวกับตัวรถติดตัวอักษร Camry มีตรา HEV กันชนหลังออกแบบให้มีความสปอร์ตและด้านข้างเล่นระดับอย่างดูดีและมีลิ้นสปอยเลอร์ในตัว พร้อมหลังคาพาโนรามิกซันรูฟบานใหญ่ 2 บาน ล้ออัลลอยให้เลือกทั้งขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 215/55R17 และขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 235/45R18 ตัวรถยังคงสร้างจากพื้นฐาน TNGA-K เช่นเดิม
- ความยาว 4,920 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,840 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,445 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,825 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 1,585 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำมัน 50 ลิตร
ภายใน Interior
หรูขึ้นดูดีมีกลิ่นอายความเป็น Lexus ตั้งแต่ชุดอคนโซลหน้าดีไซน์เป็นหนึ่งเดียวทั้งชุดมาตรวัดดิจิทัลขนาด 7 กับ 12.3 นิ้วจอสัมผัสขนาดใหญ่กลับมาวางตำแหน่งแบบไม่ลอยตัวขนาด 8 กับ 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย มีระบบนำทาง Satellite navigation และ DAB+ digital radio
ลำโพงให้เลือกทั้งแบบ 6 จุด และลำโพงคุณภาพจาก JBL 9 จุด มีจอแสดงข้อมูลเหนือคอนโซลหน้าหรือ Head Up Display 10 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านทรงเดียวกับ Toyota Crown มีที่ชาร์จมือถือไร้สาย ช่องเสียบ USB Type-C รวม 5 จุด เครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิ 3 โซนพร้อมช่องแอร์ด้านหลังและระบบกรองอากาศภายในห้องโดยสาร NANOE X
เบาะนั่งหุ้มวัสดุกึ่งหนังแท้ทั้งแบบสีดำและเบาะผ้าตามบุคลิก พร้อมระบบอุ่นและระบายอากาศสำหรับเบาะคู่หน้า คู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมระบบความจำเบาะฝั่งคนขับ พร้อมพนักพิงศีรษะเบาะหน้าด้านซ้ายพับเก็บได้ เพิ่มการมองเห็นให้กับผู้โดยสารด้านหลัง เบาะหลังปรับด้วยไฟฟ้าพร้อมที่ท้าวแขนติดตั้งแผงควบคุมหน้าจอสัมผัสแบบดิจิทัลปรับแอร์แยกจากกัน เปิด-ปิดระบบความบันเทิงพร้อมลดความอับชื้นด้วยพัดลมใต้เบาะและพนักพิงผ่อนคลายและสะดวกสบายตลอดการเดินทาง และมีแบบเบาะหลังพับได้ 60/40
พื้นที่สัมภาระด้านท้าย 524 ลิตร กระจกหน้าแบบลามิเนตแตกเฉพาะจุดกันเสียงรบกวนและเสียงลมไม่ให้เข้ามาในห้องโดยสารช่วยให้การเดินทางสงบและราบรื่น
สมรรถนะ Performance
เพิ่มทางเลือกสำหรับสาวกชอบความเร้าใจด้วยเบนซิน Dynamic Force Hybrid ขนาด 2.5 ลิตร VVT-IE รหัส A25A-FXS ให้กำลังถึง 188 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 221 นิวตันเมตร ที่ 3,200-5,200 รอบต่อนาทีในภาคเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวขับเคลื่อนล้อหน้าเพลาหน้า Permanent Magnet Synchronous Motor รุ่น 1VM โดยให้กำลัง 136 แรงม้า แรงบิด 208 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุแบตเตอรี่ 251.6 V ความจุไฟฟ้า 4.0 Ah (1.006 kWh)
เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังรวมถึง 231 แรงม้าจับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อม Sequential Shift โหมดการขับขี่ Drive Mode Select (DMS) ให้เลือกทั้ง Sport, Eco, Normal และ EV ประหยัดน้ำมัน 25 กิโลเมตรต่อลิดร มาตรฐาน ADR cycle พร้อมช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ และพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS ที่ให้วงเลี้ยวแคบสุด 5.7 เมตร
ความปลอดภัย Safety
พร้อมระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense ครบครันด้วย
- Pre-Collision System with Pedestrian Detection (PCS) Pedestrian, cyclist, motorcyclist, oncoming vehicle detection เตือนการชนด้านหน้าพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน นักปั่นจักรยาน ขี่มอเตอร์ไซค์ รถที่วิ่งสวนมา
- Intersection collision avoidance assist หลีกเลี่ยงการชนที่ทางแยก
- Autonomous emergency braking (AEB) เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ
- Wrong-pedal mitigation ป้องกันการเหยียบคันเร่งผิดจังหวะ
- Dynamic Radar Cruise Control (DRCC) แปรผันความเร็วอัตโนมัติโดยใช้เรดาห์ตรวจจับรถคันหน้า
- Lane Tracing Assist (LTA) ช่วยรักษาตำแหน่งรถในช่องทาง
- Lane Departure Alert with Steering Assist (LDA) ช่วยเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมฟังก์ชันหน่วงพวงมาลัยกลับอัตโนมัติ
- Auto High Beam (AHB) ปรับไฟสูงอัตโนมัติลดความสว่างของไฟสูงโดยอัตโนมัติเมื่อพบรถสวน
- Parking Support Brake (PKSB) ช่วยเตือนขณะจอดรถพร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติ
- Blind Spot Monitor (BSM) แจ้งเตือนมุมอับสายตา
- Rear Cross Traffic Alert (RCTA) แจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งเข้ามาทางด้านข้างขณะถอยหลัง
- Safe Exit Assist (SEA) ป้องกันการออกจากรถ ขณะมีรถแล่น
- Road Sign Assist (RSA) จดจำป้ายจราจร
ความปลอดภัยพื้นฐานทั้ง Panoramic View Monitor (PVM) กล้องมองภาพรอบคัน Parking Sensor สัญญาณกะระยะการจอดรถรวม 8 จุด ถุงลมนิรภัยรอบคัน 8 จุด Vehicle Stability Control (VSC) ควบคุมการทรงตัว Traction Control System (TRC) ป้องกันการลื่นไถล Hill Start Assist Control (HAC) ออกตัวบนทางลาดชัน เบรก ABS กระจายแรงเบรก EBD และช่วยเบรก BA
Toyota Camry ขายถึง 3 รุ่นย่อยทั้งรุ่น Ascent, Ascent Sport และรุ่นท็อป SL ในราคาไม่รวมค่า on-roads เริ่ม $39,990- $53,990 หรือราว 905,000-1,225,000 บาท
มีทั้งสีขาว Glacier White, สีขาว Frosted White, สีบอรนซ์เงิน Silver Pearl, สีเทา Liquid Mercury, สีดำ Eclipse Black, สีแดง Jasper Red, สีน้ำตาล Precious Bronze และสีน้ำเงิน Saturn Blue ส่วนเมืองไทยพบกัน 10 ตุลาคม
ที่มา CAREXPERT