ตลาดรถเล็ก B-Segment หรือ Eco Car นั่นระอุขึ้นอีกครั้งเมื่อ Toyota เลือกไทยเป็นที่แรกของโลกเปิดตัว Toyota Yaris ATIV เจเนอเรชันใหม่
โดยเป็นมาการแทน Toyota VIOS (Toyota Yaris ATIV) เจนที่แล้วที่ครองตลาดมายาวนานถึง 9 ปี และตั้งแต่เปิดตัวมามียอดจองทะลุ 8,000 คัน นับตั้งแต่เปิดตัวมา 10 กว่าวันและงานนี้หมายมั่นปั้นมือที่จะโค่นเพื่อนร่วมชาติอย่าง Honda City เจเนอเรชันที่ 5 ที่ครองตลาดไปก่อนหน้านี้ให้ได้ วันนี้จึงจับสองเก๋งเล็กรุ่นท็อปสุดเครื่องยนต์เบนซินล้วนมา Face2Face เพื่อประกอบการตัดสินใจเริ่มที่
ภายนอกบ่งบอกตัวตนอย่างโดดเด่น
Toyota Yaris ATIV รุ่น Premium Luxury มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงใหม่หมดในสไตล์ Fastback Sedan ด้านหน้ามาพร้อมโลโก้สามห่วงขนาดใหญ่ในชุดกระจังหน้าสีดำเงาทั้งด้านบนและด้านล่าง พร้อมวัสดุตกแต่งช่องดักอากาศด้านหน้าและกันชนหลังสีดำเงา พร้อมไฟหน้า LED และไฟ DRL แบบ LED Light Guiding ในโคมเดียวกันรูปตัว J มองๆไปคล้ายๆ Toyota VIOS เจนที่แล้วด้านข้างมาพร้อมกระจกโอเปร่ากับคิ้วโครเมียม ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 195/60R16 ไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่พร้อมไฟเลี้ยววิ่ง Sequential Light แต่ไม่มีไฟตัดหมอกหน้า LED เสาอากาศครีบฉลาม กระจกมองข้างสีดำ
ด้าน Honda City Turbo รุ่น RS คมหล่อด้วยไฟหน้า Projector พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกหน้า LED ในชุดกันชนหน้าทรงสปอร์ต กระจังหน้าสีดำ Gross Black พร้อมสัญลักษณ์ RS ในชุดกระจังหน้า กระจกมองข้างทรงสปูน ปรับและพับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวในตัว เสาอากาศครีบฉลามสีดำ ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 16 นิ้วพร้อมยาง 185/55 R16 ด้านท้ายมีไฟท้าย LED สปอยเลอร์หลังแบบ Gloss Black พร้อมสัญลักษณ์ RS ติดมาด้วยในชุดกันชนหลังสุดเท่
มิติตัวรถที่ใหญ่สมส่วน
Toyota Yaris ATIV รุ่น Premium Luxury สร้างจากพื้นฐาน DNGA นำพื้นฐานของ Daihatsu DN F-Sedan concept มาพัฒนาให้กลายเป็นเก๋งเล็กสมบูรณ์แบบด้วยความยาว 4,425 มม. ความกว้าง 1,740 มม. ความสูง 1,480 มม. ฐานล้อ 2,620 มม. ความสูงใต้ท้องรถ 160 มม. น้ำหนักรถ 1,060 กก. และความจุถังน้ำมัน 40 ลิตร ด้าน Honda City Turbo รุ่น RS มีความยาว 4,553 มม. ความกว้าง 1,748 มม. ความสูง 1,467 มม. ฐานล้อ 2,589มม. ความสูงใต้ท้องรถ 135 มม. น้ำหนักรถ 1,165 กก. และความจุถังน้ำมัน 40 ลิตร
เมื่อนำมาเทียบกันแล้วกับพบว่า Toyota Yaris ATIV Premium Luxury และ Honda City Turbo RS ได้เปรียบในบางจุด ตั้งแต่ความยาวทาง City ยาวกว่า ATIV 128 มม. City กว้างกว่า ATIV 8 มม. ATIV สูงกว่า City 13 มม. ATIV มีระยะฐานล้อยาวกว่า City 31 มม. ความสูงจากใต้ท้องรถ ATIV มากกว่า City 25 มม. น้ำหนักรถ ATIV น้อยกว่า City 105 กก. แต่ความจุถังน้ำมันเท่ากัน
ภายใน ATIV ให้ความหรูเทียบเท่ารถพรีเมียม
ภายใน Toyota Yaris ATIV Premium Luxury เน้นออกไปทางหรูดุจรถยนต์นั่งพรีเมียมตั้งแต่แผงคอนโซลหน้าดีไซน์ใหม่บริเวณผิวสัมผัสด้วยดีไซน์คล้ายกับ Toyota Veloz หุ้มหนังสังเคราะห์ Premium Soft Touch เบาะนั่งกึ่งหนังแท้สีแดง มอบความรู้สึกพึงพอใจเหนือระดับให้กับลูกค้าที่มองหาความหรูหราภายในห้องโดยสาร ชิ้นส่วนตกแต่งภายนอกสีเทาเมทัลลิก จอสัมผัสขนาดใหญ่ 9 นิ้ว ดีไซน์ลอยตัว รองรับ Apple Car Play และ Android Auto ช่องต่อ USB ด้านหลัง พร้อมลำโพงตั้งแต่ 6 จุด จาก Pioneer พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้าน หัวเกียร์ดีไซน์คล้ายกับ Toyota Veloz มาตรวัดดิจิตอลแบบจอสี TFT 7 นิ้ว เบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อม Auto Hold ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมระบบตรวจวัด กรองฝุ่น PM 2.5 พร้อมช่องแอร์ด้านหลัง ตำแหน่งที่วางแก้วน้ำ แก้วกาแฟ รับกับขนาดแก้วกาแฟของเมืองไทย มีถึง 4 ตำแหน่งรอบคัน กระจกแต่งหน้าขนาดใหญ่พิเศษ พร้อมไฟ LED สีขาว รุ่นท็อปสุดให้ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร (Ambient light) 64 เฉดสี ออกแบบติดตั้งอยู่บริเวณแผงหน้าปัด กุญแจแบบ Smart พร้อม Push Start
พร้อม T-Connect ที่จะคอยดูแลผู้ขับขี่ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านระบบต่างๆ เช่น ระบบติดตามรถหาย (Theft Track) การแจ้งเตือนการบำรุงรักษาผ่านระบบดิจิทัล (Digital Maintenance Reminder) การจองผ่านระบบดิจิทัล (Digital booking) ระบบช่วยเหลือฉุกเฉิน SOS และบริการผู้ช่วยส่วนตัว (Concierge service)
ทางด้าน Honda City Turbo RS เน้นความสปอร์ตด้วยโทนดำแดง ข้าวของที่ติดรถมาอาจไม่เยอะเท่า ATIV Premium Luxury ตั้งแต่แผงคอนโซลหน้าแบบ Piano Black มือจับเปิดประตูด้านในตกแต่งโครเมียม มาตรวัดเรืองแสงสีแดงพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID หน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 8 นิ้ว Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay สั่งการด้วยเสียง SIRI เชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ Honda CONNECT พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชันสามก้าน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียง ปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติที่ไม่มีแอร์ด้านหลังแต่สิ่งที่เหนือกว่า ATIV นั่นคือระบบลมไล่ฝ้ากระจกหน้ามาให้ เบาะหนังกลับดีไซน์ใหม่ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง กุญแจแบบ Smart Key มี Push Start แต่เบรกมือยังเป็นคันโยก และยังที่สามารถสั่งสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศ Remote Start Engine ผ่านทางแอป Honda Connect
ขุมพลัง City มาเหนือเมฆ
ถึงแม้หน้าตาใหม่หมดทั้งภายนอก ภายใน แต่ขุมพลังนั้น Toyota Yaris ATIV Premium Luxury กลับเลือกที่จะใช้ขุมพลังเดิม 1.2 ลิตร 4 สูบ Dual VVT-IE แต่พัฒนาใหม่ให้มีเรี่ยวแรงมากขึ้นด้วยรหัส 3NR-VE ปริมาตรความจุกระบอกสูบ 1,197 ซีซี. ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก 72.5 มม. X 72.5 มม. อัตราส่วนกำลังอัด 13.5:1 ให้ความแรง 94 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 110 นิวตันเมตรที่ 4,400 รอบ/นาที ให้ค่า CO2 100 กรัม/กิโลเมตร ตาม ECO Sticker จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i โหมดการขับขี่ ECO / Normal / Power บนพวงมาลัย โดยเท่าที่ทีมงาน Car2Day ได้ลองขับเส้นทาง กรุงเทพฯ-พัทยา นั้นกลับให้การตอบสนองที่ไม่ค่อยทันใจเท่าไหร่ ซึ่งรายละเอียดการกรุ๊ปเทสทดสอบขับนั้นสามารถติดตามได้ในคลิ๊ปวีดีโอเร็วๆนี้
ทางด้าน Honda City Turbo RS มีภาษีในด้านพลังถึงแม้ ซีซี น้อยกว่า ATIV 200 ซีซี. กับเบนซิน VTEC Turbo 1.0 ลิตร 3 สูบ รหัส P10A6 ปริมาตรความจุกระบอกสูบ 988 ซีซี. ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก 73.0 มม. X 78.7 มม. อัตราส่วนกำลังอัด 10.0 : 1 ให้กำลังมากถึง 122 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 173 นิวตันเมตรที่ 2,000-4,500 รอบ/นาที ให้ค่า CO2 99 กรัม/กิโลเมตรตาม ECO Sticker จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT 7 สปีด พร้อม Paddle Shift โหมดการขับขี่ ECO โดย City ยังเป็นรถแรงสุดในกลุ่มถึงต้นไม่จัดมากแต่ปลายไหลลื่นโอเคและเกียร์ CVT ขับสนุกไม่ลากรอบทิ้งขว้าง
ทั้งสองรุ่น ขับเคลื่อนล้อหน้าและเติม E20 ได้ ในส่วนช่วงล่างด้านหน้ามาเป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีมและคอยล์สปริงพร้อมเหล็กกันโคลง สำหรับ Toyota Yaris ATIV Premium Luxury แต่ Honda City Turbo RS ด้านหลังมาแค่ทอร์ชั่นบีม อย่างเดียว ทั้งคู่ใช้พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS โดยรัศมีวงเลี้ยวของ ATIV ให้ 4.8 เมตร ส่วน City ให้ 5.0 เมตร
ความปลอดภัย ATIV ผงาดขึ้นที่หนึ่ง
เมื่อมาดูออปชันความปลอดภัยที่สองรุ่นให้มานั้น Toyota Yaris ATIV Premium Luxury ให้เยอะกว่า Honda City Turbo RS โดยเฉพาะ Toyota Safety Sense ทั้ง ระบบความปลอดภัยก่อนการชน Pre-Collision System, ปรับไฟสูงอัตโนมัติ Auto High Beam, เตือนออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยดึงกลับอัตโนมัติ Lane Departure Alert, เตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนตัว Front Departure Alert, ระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งแบบผิดวิธี Pedal Misoperation Control ควบคุมความเร็วแปรผัน Adaptive cruise control แบบ All-Speed, เตือนมุมอับสายตา Blind Spot Monitoring และ ช่วยเตือนขณะถอยรถ Rear Crossing Traffic Alert
ส่วนความปลอดภัยพื้นฐานทั้งให้ครบโดยเฉพาะดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมระบบเบรก ABS กระจายแรงเบรก EBD เสริมแรงเบรก BA ถุงลมนิรภัยรอบคัน 6 จุด ระบบควบคุมการทรงตัว VSC ป้องกันล้อหมุนฟรี TRC ออกตัวบนทางลาดชัน HAC สัญญาณไฟฉุกเฉินขณะเบรกกะทันหัน Emergency Brake Signal กล้องบันทึกภาพหน้ารถ กล้องมองภาพรอบคันทำงานคู่กับ สัญญาณกะระยะการจอดหน้า-หลังรวม 6 จุด
แต่ Honda City Turbo RS กลับไม่มี Honda Sensing ซึ่งไปให้ในรุ่น e:HEV แต่ความปลอดภัยพื้นฐานมีมาให้ทั้ง ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) กระจายแรงเบรก (EBD) ดิสก์เบรกล้อหน้าและดรัมเบรกล้อหลัง ช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist – VSA) ช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA) กล้องมองหลังปรับมุมมองได้ 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control สัญญาณไฟฉุกเฉินขณะเบรกกะทันหัน Emergency Brake Signal และ โครงสร้างตัวถังนิรภัย G-Force Control หรือ G-CON ปกป้องห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทาง
ค่าตัวทั้งคู่ต่างกัน 50,000 บาท
Toyota Yaris ATIV Premium Luxury มาในราคาไม่ถึง 7 แสนบาท กับ 689,000 บาท มีสีภายนอก 7 สีทั้งใหม่ สีส้ม SPICY SCARLET**สีขาว Super White สีเงิน Metal Stream สีเทา Urban Metal สีแดง Red Mica Metallic สีดำ Attitude Black Mica สีขาวมุก Platinum White Pearl (เพิ่มเงิน 7,000 บาท)
Honda City Turbo RS มาในราคา 739,000 บาท มีสีภายนอกถึง 5 สี สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก), สีขาวแพลทินัม (มุก), สีดำคริสตัล (มุก), สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) และ สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) (สีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 10,000 บาท และ สีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 6,000 บาท)
ถึงรถสองคันนี้มีส่วนต่างค่าตัวถึง 50,000 บาท แต่ด้วยความใหม่สดของตัวรถ ภายนอก ภายใน Toyota Yaris ATIV Premium Luxury ให้เยอะกว่า Honda City Turbo RS โดยเฉพาะความปลอดภัย Toyota Safety Sense มี Adaptive Cruise Control ให้ ดิสก์เบรก 4 ล้อ กล้องรอบคันเบรกมือไฟฟ้ากับ Auto Hold และความหรูแบบ Ambient Light 64 สี ฯลฯ คือสิ่งที่เหนือกว่า City และคู่แข่งกลุ่มเดียวกัน ถึงแม้ขุมพลังทาง ATIV จะด้อยกว่า City แต่ถึงอย่างไรถ้าจะเลือกมาเป็นคู่หูให้มาสัมผัสและทดลองขับประกอบการตัดสินใจกัน
