ในขณะที่คู่แข่งจากเยอรมันทั้ง Mercedes-Benz และ BMW ต่างส่งรุ่นใหม่เทหน้าตักเพื่อเรียกคะแนนให้สาวกกลับมาสนใจมากขึ้นมีหรือที่ Volvo จะอยู่เฉย
นอกจากรถใหม่ทั้ง Volvo C40 Recharge Pure Electric และ Volvo EX90 Pure Electric ที่มาโชว์แบบ Sneak Preview รับชมผ่านทางวีดีโอในงาน Motor Expo 2022 แล้ว Volvo ยังแนะนำรถใหม่ที่จะเผยตัวจริงกันในงานฯ กับ Volvo Recharge Plug In Hybrid Series MY2023 ปรับอีกครั้งหลักเพิ่งจะเปิดตัวรุ่น MY2022.5 อัพพลังอัพระยะทางไกลเกือบทุกรุ่น โดยรุ่นที่ปรับก็คือ Volvo S60 Recharge T8 Plug-in Hybrid, Volvo V60 Recharge T8 Plug-in Hybrid, Volvo XC40 Recharge T5 Plug-in Hybrid
เริ่มกันที่ Volvo S60 Recharge T8 Plug-in Hybrid และ Volvo V60 Recharge T8 Plug-in Hybrid สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปเริ่มที่ตราสัญลักษณ์ Volvo ที่ด้านหน้ารถยนต์ถูกออกแบบให้นูนขึ้นในแบบ 3 มิติ กันชนหน้าและกันชนท้ายมีลูกเล่นสะดุดตามากขึ้นพร้อมเก็บรายละเอียดของท่อไอเสียให้เนียนไปกับด้านท้ายของตัวรถ, ล้อขนาด 19 นิ้ว แบบ 5 ก้าน ดีไซน์ Triple Spoke Black Diamond Cut พร้อมยาง 235/40R19 และในรุ่น V60 รุ่นเริ่มต้นได้ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 235/45R18 เสริมบุคลิกให้รถดูทรงพลัง ส่วนภายใน คันเกียร์คริสตัลโดย Orrefors® ใหม่เพิ่มสัมผัสที่พรีเมียมยิ่งขึ้นในรุ่น S60 รุ่นท็อป พร้อมเครื่องฟอกอากาศในระบบควบคุมคุณภาพอากาศที่ป้องกันไม่ให้ฝุ่น PM 2.5 ที่เป็นอันตรายผ่านเข้ามาในห้องโดยสารได้ถึง 95 เปอร์เซ็นต์ ให้คุณภาพอากาศที่ดีกว่าไม่ว่าสภาพอากาศภายนอกจะเป็นอย่างไร
โดยมาพร้อมกับพลังเบนซิน Drive-E AWD Plug-In Hybrid 2.0 ลิตร รหัส B4204T53 ผสานการทำงานของ Turbocharger ที่ไม่มี Supercharger ให้กำลังสูงสุด 317 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 400 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ 3,000-5,400 ต่อนาที พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ 143 แรงม้าที่ 15,900 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 309 นิวตันเมตร และเมื่อรวมกันจึงได้พละกำลังแรงถึง 460 แรงม้า แรงบิดสูงถึง 709 นิวตันเมตร ติดตั้งแบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุใหม่ 18.8 kWh ให้ความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม. พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Geartronic ขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD แบ่งเป็นล้อหน้าขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ล้อหลังขับเคลื่อนด้วยพลังมอเตอร์ไฟฟ้า แต่ว่าการชาร์จหนึ่งครั้งวิ่งได้ไกลสุดในโหมด Pure mode โหมดไฟฟ้าอย่างเดียว วิ่งได้ไกลสุด 90.2 กม. (เดิม 49 กม.) ตามมาตรฐาน NEDC
ทางด้าน Volvo XC40 Recharge T5 Plug-in Hybrid ปรับหน้าตาใหม่ Facelift แบบเดียวกับ Volvo XC40 และ C40 Recharge Pure Electric ตั้งแต่ ไฟหน้า LED แบบ T-shaped รวมถึงส่องสัญญาณไฟ Welcome Light ต้อนรับเมื่อผู้ขับแตะที่มือจับประตูรถ ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 235/50 R19 ลายเดียวกับรุ่น Pure Electric และขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 235/55R18 กระจังหน้าพร้อมโลโก้ Iron Mark กันชนหน้าออกแบบใหม่ที่ไฟตัดหมอกหน้า LED วงเล็กลง ไฟท้าย L Shaped LED พร้อมกันชนหลังเพิ่มคิ้วสิเงินใต้กันชน พร้อมเสริมประสิทธิภาพให้การตรวจจับเท้าเตะเพื่อเปิด/ปิดฝากระโปรงหลังทำได้สะดวกยิ่งขึ้นด้วยเซนเซอร์ที่มีรัศมีกว้างขึ้น พร้อมสีบอรนซ์ทองใหม่ Bright Dusk ภายในปรับใหม่ในส่วนของแผงตกแต่งลาย Topography ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากภูมิทัศน์ของเทือกเขาในประเทศสวีเดน ในห้องโดยสารสี Charcoal พร้อมเครื่องฟอกอากาศในระบบควบคุมคุณภาพอากาศที่ป้องกันไม่ให้ฝุ่น PM 2.5 ให้คุณภาพอากาศที่ดีกว่าไม่ว่าสภาพอากาศภายนอกจะเป็นอย่างไร
พร้อมขุมพลังเบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร 3 สูบ รหัส B3154T5 ให้พลังสูงถึง 180 แรงม้าที่ 5,800 รอบ/นาที แรงบิด 265 นิวตันเมตรที่ 2,500-5,000 รอบ/นาที จับคู่กับ Lithium-ion battery ขนาดความจุ 10.7 kWh ให้กำลัง แรงม้า 82 แรงม้า 4,000 รอบ/นาที แรงบิด 160 นิวตันเมตร และเมื่อทำงานร่วมกันรีดพลังถึง 262 แรงม้า แรงบิด 425 นิวตันเมตรจับคู่กับเกีบร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีด ถ้าเลือกใช้งานแบบไฟฟ้าล้วนจะสามารถวิ่งได้ไกลสุดประมาณ 44 กิโลเมตร ทำอัตราเร่ง 0-100 ได้ภายในระยะเวลาเพียง 7.3 วินาทีเท่านั้น และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนตัวแบตเตอรี่นั้น สามารถชาร์จให้เต็มได้เร็วที่สุด 2.5 ชั่วโมงผ่านระบบชาร์จเร็ว แต่ถ้าเป็นสายชาร์จปกติ จะใช้ระยะเวลาราว 3.5-6 ชั่วโมง ขับเคลื่อนล้อหน้าแบบมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว
นอกจากนี้ยังได้ติดตั้ง iCUP (Infotainment and Connectivity Unit Program) ระบบเชื่อมต่อและมัลติมีเดียเพื่อความบันเทิง อำนวยความสะดวกให้การใช้งาน Google Maps, Google Assistance และ Google Play ทำได้ผ่านหน้าจอแบบทัชสกรีนในรถขนาด 9 นิ้ว หรือจะใช้งานแอปพลิเคชัน Volvo Car app เพื่อควบคุมรถจากระยะไกลเพื่อสั่งให้ล็อกและปลดล็อก ปรับอุณหภูมิห้องโดยสารล่วงหน้า เช็คสถานะการชาร์จและปริมาณแบตเตอรี่ และอัปเดตโปรแกรมของรถโดยอัตโนมัติผ่านทางดาวเทียม (Over-the-air update)
พร้อมความปลอดภัยทั้งเพื่อการปกป้องและป้องกันผ่านระบบ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) ซึ่งรวมถึง ระบบ Blind Spot Information System (BLIS) ให้การเตือนในขณะเปลี่ยนเลน, ระบบ Adaptive Cruise Control with Queue Assist ช่วยคุณรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันหน้าด้วยการปรับความเร็วของรถ, ระบบ Lane Keeping Aid รักษาตำแหน่งรถให้อยู่ตรงกลางเลน, ระบบ Collision Avoidance & Mitigation Support with Auto Brake ตรวจจับและแก้ไขการไถลลื่นเพื่อดึงรถกลับมาสู่ตำแหน่งบนถนนที่ปลอดภัยกว่าได้ หลีกหลีกเลี่ยงการชนและทำการเบรกอัตโนมัติหากผู้ขับไม่สามารถตอบสนองได้, ช่วยหยุดรถได้อย่างสมบูรณ์แบบในภาวะที่ผู้ขับขี่ไม่มีการตอบสนอง, การแจ้งเตือน Cross Traffic Alert พร้อมระบบเบรกอัตโนมัติช่วยเหลือผู้ขับขี่ในขณะถอยรถในมุมมองที่จำกัด โดยระบบสามารถตรวจจับยานพาหนะที่ตัดผ่านมาทางด้านหลัง และเบรกอัตโนมัติหากจำเป็น
ในส่วนไลน์อัพมีการตัดรุ่นและเปลี่ยนชื่อรุ่นย่อยโดยตัดรุ่น S60 Recharge Plug-in Hybrid Inscription Expression ราคา 2,190,000 บาท และเปลี่ยนชื่อรุ่นพร้อมราคาจำหน่ายดังนี้
– Volvo S60 Recharge Ultimate T8 Plug-in Hybrid Dark จำหน่ายในราคาเดิม 2,590,000 บาท (มาแทน S60 Recharge Plug-in Hybrid R-Design)
– Volvo V60 Recharge Plus T8 Plug-in Hybrid Dark จำหน่ายในราคาเดิม 2,290,000 บาท (มาแทน V60 Recharge Plug-in Hybrid R-Design Expression)
– Volvo V60 Recharge Ultimate T8 Plug-in Hybrid Bright จำหน่ายในราคาเดิม 2,690,000 บาท (มาแทน V60 Recharge Plug-in Hybrid Inscription)
– Volvo XC40 Recharge Plus T5 Plug-in Hybrid Dark จำหน่ายในราคาเดิม 2,090,000 บาท (มาแทน XC40 Recharge T5 R-Design Expression)
– Volvo XC40 Recharge Ultimate T5 Plug-in Hybrid Bright จำหน่ายในราคาเดิม 2,390,000 บาท (มาแทน XC40 Recharge T5 R-Design และ T5 Inscription)
– Volvo S90 Recharge Ultimate T8 Plug-in Hybrid Bright จำหน่ายในราคาเดิม 3,290,000 บาท (มาแทน S90 Recharge Plug-in Hybrid Inscription)