ฮ่องกงเป็นที่แรกของโลกที่จะเปิดตัว ZEEKR 009 เอ็มพีวีลักชัวรีพลังอีวีล้วนสุดหรูเวอร์ชันพวงมาลัยขวาอย่างเป็นทางการก่อนจะเปิดตัวที่เมืองไทย
นอกจากนี้ ZEEKR 009 MY2025 เพิ่มรุ่น 7 ที่นั่งจากเดิมจะมีทั้งรุ่น 4 ที่นั่ง Grand และรุ่น 6 ที่นั่งไว้ขายในตลาดโลกรวมถึงประเทศบ้านเกิดอย่างจีน
ภายนอก Exterior
ภาพรวมคงเดิมเพิ่มเติมด้วยแถบโครเมียมที่ใต้กันชนหน้า คิ้วขอบประตูส่วนบนกับคิ้วชายล่างด้านข้างและด้านหลัง ด้วยกระจังหน้าดีไซน์คล้ายกับ Rolls-Royce แนวตั้งโครเมียมและที่ช่องระบายอากาศแนวตั้ง ติดตั้งโลโก้ขอบฝากระโปรงหน้า ประดับด้วยไฟหน้าส่องสว่าง DRL แบบ LED แบบยูคว่ำ ที่มีหลอดไฟมากสุด 154 ดวง และไฟหน้า LED แนวนอน 3 ดวงทรงเลขเจ็ด ฝากระโปรงหน้าดีไซน์มีขอบสองข้างและเรียบเนียนในส่วนด้านหน้า
ด้านข้างอลังการดับดีไซน์ทั้งรูปแบบเสา A จนถึงเสา D กระจกเล็กบริเวณเสา A ดีไซน์กระจกเสา B ที่เล่นระดับต่อเนื่องจนถึงเสา C กระจกมองข้างทรงสปูนทรงใหญ่ ประตูสไลด์ไฟฟ้าเปิดได้สองข้าง หลังคาพาโนรามิกซันรูฟแบบคู่สองบานทั้งบานเล็กฝั่งคนขับตอนหน้าและบานใหญ่ฝั่งผู้โดยสาร เสาอากาศแบบครีบฉลาม
ด้านท้ายเห็นไฟท้าย LED ที่มีหลอดไฟมากถึง 402 ดวง แนวยาวสองฝั่งติดตราตัวอักษร ZEEKR แบบเว้นช่องเรืองแสงในชุดฝาท้ายขนาดใหญ่พร้อมสปอยเลอร์หลัง ล้ออัลลอยลายสปอร์ตปัดเงาขนาด 19 นิ้วพร้อมยาง 255/50R19 และขนาดใหญ่ 20 นิ้ว พร้อมยาง 265/45R20 คันนี้สร้างจากแพลตฟอร์ม SEA (Sustainable Experience Platform) ของ GEELY พื้นฐานร่วมกันกับ Volvo EM90 โดยตัวรถมี
- ความยาว 5,217 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 2,024 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,812-1,864 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 3,205 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 2,830 กิโลกรัม
ภายใน Interior
เพิ่มรุ่น 7 ที่นั่งแบบ 2+2+3 โดยเบาะนั่งตอนที่ 2 มาในแบบ Sofaro first-class airline seats พร้อมระบบระบายอากาศ มีโต๊ะพับสำหรับนั่งทำงาน ปรับด้วยไฟฟ้า 12 จุด พร้อมนวดและยังสามารถให้เบาะตอนที่ 2 อยู่ชิดกันหริอแยกกันเป็นทางเดินตรงกลางเข้าไปนั่งเบาะตอนที่ 3 ได้โดยมาในแบบ 3 ที่นั่ง มีพื้นที่บรรทุกของด้านท้ายเมื่อพับเบาะตอนที่ 3 มากถึง 1,826 ลิตร หุ้มด้วยหนัง NAPPA และสวิตช์ควบคุมบนแผงประตูแบบ Smart Bar ขนาด 3.4 นิ้ว
มาพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนแผงคอนโซลหน้า AR-HUD ขนาด 35.95 นิ้ว มีที่ชาร์จมือถอไร้สาย เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกอุณหภูมิสามโซนพร้อมไส้กรองเครื่องปรับอากาศทรงประสิทธิภาพสูงและระบบฟอกอากาศแบบแอคทีฟซึ่งสามารถขจัดฝุ่นละออง PM2.5 ได้มากถึง 95% ติดตั้งลำโพง YAMAHA 20 จุด รวมถึงลำโพงที่ติดตั้งไว้ในพนักพิงศีรษะของเบาะด้วย กำลังขับรวม 2,460W ไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light
พร้อมออปชันเสริมสบายทั้ง กระจกมองหลังดิจิทัล พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันปรับได้ 4 ทิศทางด้วยระบบไฟฟ้า ตกแต่งที่นั่งให้ดูดีขึ้นกระจกกันเสียงรบกวนหนา 2 ชั้น ติดตั้งตรงที่นั่งแถว 3 คอนโซลหน้าดีไซน์เรียบง่าย พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้าน ประกอบด้วยมาตรวัดความเร็วแบบสี LCD แนวนอน 10.25 นิ้ว พร้อมจอสัมผัสระบบความบันเทิงขนาด 15.4 นิ้ว ใหม่หน้าจอบนหลังคาขนาด 17.3 นิ้ว ชัดแบบ High-Definition พร้อมระบบปฏิบัติการ ZEEKR 0s แบบ Snapdragon รองรับเชื่อมต่อ 5G
ขุมพลัง Performance
เพิ่มรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังมาจากเดิมจะมีเฉพาะรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ จากสถาปัตยกรรมไฟฟ้าแบบ 800 โวลต์ ยกมาจากฝาแฝด Volvo EM90 เริ่มที่
- รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังมาพร้อมความจุแบตเตอรี่แบบ Lithium Nickel Manganese Cobalt Pack จาก CATL ขนาดใหญ่ 116 kWh ให้กำลังถึง 272 แรงม้า แรงบิด 343 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 738 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC สามารถชาร์จกระแสตรง DC iระดับ 10 ถึง 80% ภายในเวลา 28 นาที และชาร์จกระแสสลับ AC โดยให้อัตราเร่ง 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 8.3 วินาที
- รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อให้กำลังรวม 544 แรงม้า แรงบิดรวม 686 นิวตันเมตร มาพร้อมกับความจุแบตเตอรี่ Lithium Nickel Manganese Cobalt Pack จาก CATL ขนาด 116 kWh วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จ 702 กิโลเมตรตามมาตรฐาน CLTC ในรุ่น WE Edition
- รุ่นท็อปสุด ME Edition มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ มาพร้อมกับความจุแบตเตอรี่ Lithium Qilin battery pack จาก CATL ขนาด 140 kWh แรงม้ารวมแรงบิดรวมเท่ากับรุ่น WE Edition แต่วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จ 822 กิโลเมตรตามมาตรฐาน CLTC
รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อทั้งคู่สามารถชาร์จกระแสตรง DC ระดับ 10-80% ภายในเวลา 28 นาที และชาร์จกระแสสลับ AC โดยให้อัตราเร่ง 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 4.5 วินาที และความเร็วสูงสุด 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มาพร้อมช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ และโช้คถุงลม Air Suspension สามารถลดความสูงของตัวรถได้ ความปลอดภัยจัดเต็มด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS พร้อมระบบขับขี่อัตโนมัติ ที่มีกล้องเจ็ดตัว กล้องมองรอบทิศทางสี่ตัว เรดาร์อัลตราโซนิกระยะใกล้ 12 ตัว และเรดาร์คลื่นพิสัยไกลหนึ่งตัวที่สแกนบริเวณโดยรอบอย่างต่อเนื่อง
ZEEKR 009 MY2025 เปิดตัวที่ฮ่อกง 19 กรกฎาคม โดยเปิดตัวแบบ Global Launch ทางด้านเมืองไทยเตรียมพบกันเร็วสุดปลายเดือนสิงหาคม หรือช้าสุดกันยายนปีนี้ คาดราคาจำหน่ายเริ่มต้น 3,300,000-3,500,000 บาท ทางด้านสีภายนอกมีทั้งหมด 5 สีได้แก่
- สีเทา Azure Grey (สีใหม่)
- สีเขียว Aurora Green (สีใหม่)
- สีดำ Midnight Black
- สีขาว Midnight White
- สีน้ำเงิน Starry Blue
ที่มา Autohome