อุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดต่างๆ นาๆ บนท้องถนนนอกจากจะทำให้รถเราเสียหายแล้ว ก็อาจจะมีสิ่งอื่นๆที่เสียหายตามมาด้วย แม้กระทั่งทรัพย์สินของทางราชการ หรือทางรัฐบาล ที่เราอาจจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม หลายคนก็คงพอจะทราบกันอยู่แล้วว่า จะต้องมีการชดใช้ค่าเสียหาย แต่ก็ไม่รู้ว่าเราต้องเป็นคนจ่ายหรือถ้าหากทำประกันภัยไว้ ประกันจะจ่ายให้เราหรือไม่ มาดูคำตอบกันค่ะ
ขับรถชนทรัพย์สินของทางรัฐฯ ประกันจ่ายหรือไม่?
ทรัพย์สินสาธารณะของทางการนั้น จะมีหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลอยู่โดยเฉพาะ ดังนั้น หากเกิดความเสียหายด้วยการมีประชาชนหรือผู้ใดมาทำให้เสียหายนั้น จะด้วยความตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ถือว่าเป็นความผิด โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเป็นผู้เข้ามาประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้น จากสาเหตุต่างๆ ต่อให้มีผู้อื่นมาชนคุณ ยังไงคุณก็จะต้องชดใช้ค่าเสียหายนี้ แต่ถ้าหากโชคดี ได้ทำประกันชั้นที่คุ้มครองกรณีแบบนี้เอาไว้ ก็จะเป็นหน้าที่ของทางประกันที่จะต้องชดใช้ค่าเสียหาย ค่าปรับแทนเราในส่วนที่ประกันต้องรับผิดชอบ แต่ถ้าหากมีส่วนต่างตามข้อตกลงของเงื่อนไขประกัน ในส่วนนั้นคุณจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบเองค่ะ
ดังนั้น ประกันที่คุ้มครองครอบคลุมไปถึงเงื่อนไขนี้ก็มีเพียง ประกันรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้น ซึ่ง ประกันรถยนต์ชั้น 2+ หรือ ประกันรถชั้น 3+ จะไม่ได้คุ้มครองในกรณีนี้
***ค่าปรับที่คุณจะต้องจ่ายเมื่อขับรถชนของสาธารณะต่อไปนี้ เป็นเพียงการประเมินราคาเบื้องต้น ซึ่งหากในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงมีความเสียหายที่มากกว่านี้ ก็จะถูกคำนวณตามสภาพและอาจทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมได้
- ขับรถชนเสาไฟฟ้า เสียค่าปรับเท่าไหร่ สำหรับเสาไฟฟ้าบนถนนนั้น ผู้ที่รับผิดชอบตรงจุดนี้ก็จะเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานของการไฟฟ้านครหลวง กรมทางหลวงฯ ซึ่งจะมาประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยหนักเบาก็จะว่ากันไปตามสภาพ จึงจะสามารถประเมินยอดค่าใช้จ่ายแตกต่างกันออกไป เสาไฟฟ้าแต่ละต้นจะมีราคาที่แตกต่างกัน มีค่ารื้อถอน คำนวณจากความสูงของเสาไฟฟ้า อีกทั้งมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพิ่มด้วยเช่น ค่าเดินสายไฟใหม่ ค่าหม้อแปลง ฯลฯ โดยราคาต่อเสาไฟฟ้า 1 ต้นคุณอาจเสียค่าปรับตั้งแต่ 3,500 – 40,000 บาท
- ขับรถชนแบริเออร์ เสียค่าปรับเท่าไหร่? (Barrier)ขั บรถชนแบริเออร์ จะเห็นว่าเกิดขึ้นบ่อยมาก เพราะเป็นอุปกรณ์ที่จะตั้งกลางถนนตรงไหนก็ได้ที่มีการชำรุด หรือกั้นทาง ซึ่งหากเราไม่เคยชินกับทาง หรือไม่เคยเห็นมาก่อน ก็มีโอกาสที่จะชนได้สูง ซึ่งแบริเออร์อยู่ภายใต้การดูแลของรัฐ มีค่าปรับอยู่ที่ประมาณ 800 – 15,000 บาท ต่อชิ้น
- ขับรถชนต้นไม้ พุ่มไม้ทางหลวง เสียค่าปรับเท่าไหร่? กรณีนี้ไม่แตกต่างจากการลักลอบตัดต้นไม้ ยังเสียค่าปรับ จำคุกกันมาแล้วมากมาย เช่นเดียวกัน หากเกิดอุบัติเหตุชนต้นไม้ หรือพุ่มไม้เสียหายขึ้นมา ก็จะต้องถูกปรับอีกเช่นกัน เพราะทางภาครัฐจะมีหน่วยงานที่คอยดูแลตัดแต่งต้นไม้ อยู่เป็นประจำ ก็จะมีงบประมาณค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ด้วย เพราะฉะนั้นเมื่อเกิดความเสียหาย คุณก็ต้องรับผิดชอบ โดยราคาประเมินเบื้องต้นจะอยู่ที่ ต้นละ 2,000 บาท ส่วนจะบวกลบขนาดไหนก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณกวาดไปกี่ต้น ขนาดต้นไม้อีก ฯลฯ
- ขับรถชนป้ายจราจร เสียค่าปรับเท่าไหร่? ผู้ที่ดูแลรับผิดชอบป้ายจราจร ก็จะเป็นหน่วยงานของกรมทางหลวงที่คอยกำกับดูแล เมื่อเกิดอุบัติเหตุขับรถชนป้ายจราจร เจ้าหน้าที่จะมาตรวจสอบสถานที่และส่งเรื่องไปยังกรมทางหลวงให้ประเมินราคาค่าเสียหายที่คุณต้องจ่าย โดยค่าเสียหายจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 – 2,000 บาท โดยจำนวนสุทธิทั้งหมดจะอยู่ที่ว่าคุณขับรถชนไปกี่ป้าย ป้ายจราจรขนาดเท่าใด และเสียหายมากแค่ไหน
- ขับรถชนกรวยจราจร ขับรถชนเสาล้มลุก เสียค่าปรับเท่าไหร่? เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะเห็นได้ทั่วไปเลยว่า ถูกชนยับ เละเทะอยู่เกลื่อนถนนไปหมด ซึ่งต่อให้ตั้งใจหรือไม่ ก็จะต้องจ่ายค่าเสียหายอยู่ดี โดยมีการประเมินราคาแต่ละชนิดตามนี้ ขับรถชนกรวยจราจร ค่าปรับ 200-800 บาท , ขับรถชนแผงกั้นจราจร ค่าปรับ 1,000-5,000 บาท ,ขับรถชนเสาล้มลุก ค่าปรับ 800-3,500 บาท
ขับรถชนของหลวง แต่ไม่มีเงินจ่ายค่าปรับ ผิดกฎหมายหรือไม่?
ต้องบอกเลยว่ายังไงก็ผิด ถ้าหากสร้างความเสียหายให้แก่สิ่งของสาธารณะที่เป็นของทางภาครัฐรับผิดชอบ ถ้าคุณไม่มีเงินจ่ายค่าปรับ จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360 ว่า ผู้ใดทำให้ทรัพย์สินเสียหายแล้วไม่เสียค่าปรับ ซึ่งอาจถูกฟ้องมากกว่านี้ หรือจะต้องมีโทษถึงจำคุก
ขับรถชนของหลวงแล้วหนีได้หรือไม่??
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้ตั้งใจจะหนี เพียงแต่ว่า ใช้ประกันรถยนต์ชั้น 2+ หรือ ประกันรถ 3+ ที่ไม่คุ้มครองในการขับรถชนไม่มีคู่กรณี หรือ ประกันรถชั้น 1 คุ้มครองให้แล้ว แต่ไม่มีเงินจ่ายส่วนต่างที่เหลือ อย่าหนี เพราะสามารถที่จะต่อรองทำข้อตกลงในการชำระค่าปรับได้ เพียงแค่ติดต่อไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบสิ่งนั้น แล้วขอคำปรึกษาผ่อนผันค่าใช้จ่ายต่างๆ ตามกำลังที่จะรับผิดชอบได้ ห้ามหนี เด็ดขาดเพราะจะมีความผิด ตาม มาตรา 438 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งค่าเสียหายทั้งหมดที่คุณต้องจ่ายจะอยู่ที่ศาลตัดสินครับ ดังนั้น อาจจะเป็นค่าเสียหาย 1,000,000 บาท จะมากกว่าหรือน้อยกว่านี้ ทั้งหมดเป็นดุลพินิจของศาล ซึ่งไม่คุ้มค่ะ