“มาตรฐานค่าไอเสีย” ถูกกำหนดเป็นระดับ Euro emissions standards หรือจะเรียกสั้น ๆ ว่า Euro (ยูโร) ได้มีการเริ่มใช้ตั้งแต่ยุค 90 เพื่อควบคุมมลพิษจากรถยนต์ ซึ่งในประเทศไทยของเราก็ได้มีการปรับระดับตามมาตรฐานสากลตั้งแต่แรกเริ่มได้จนถึงระดับ ยูโร 4 แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังล้าหลังเขาอยู่ดี เพราะเค้าได้ขึ้นค่ามาตรฐานไอเสียเป็น ยูโร 5 – 6 กันทั่วโลกตั้งแต่ปี 2009 แล้ว ซึ่งพี่ไทยของเราก็ยังไม่ขยับ ยังคงทนสูดควันไอเสียกันมายาวนานนับ 10 ปี ด้วยค่ามาตรฐานเดิมๆ
มาวันนี้ ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม ที่ตอนนี้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยมีทั้งเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ สิ่งแวดล้อมต่างๆ เทียบเท่าพอๆกับประเทศไทยซะแล้ว ซึ่งล่าสุดทางการเวียดนามได้ออกประกาศยืนยันที่จะเตรียมขึ้นมาตรฐานค่าไอเสียรถทุกชนิดใหม่ ให้เป็น “ยูโร ระดับ 5” อย่างเข้มงวด ซึ่งมีผลกับรถใหม่ทุกรุ่นที่จะนำเข้ามาขายในภายภาคหน้า ในต้นปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 เป็นต้นไป สำหรับรถยนต์ที่ได้มีการผลิตในประเทศนั้น จะมีการอนุโลมให้ยังอยู่ในระดับ 4 ซึ่งจะให้จัดซื้อจัดขายผลิดจนหมดอายุใบอนุญาตได้เลย
เมื่อให้เทียบกับประเทศไทยของเรานั้น ยังคงไม่มีการเคลื่อนไหวในเรื่องนี้สักเท่าไร หลังจากที่ได้เกิดเหตุการณ์ค่าฝุ่น Pm 2.5 ที่สูงมากมาหลายปีแล้วก็ตาม ทางภาครัฐก็ยังไม่มีมาตรการวิธีการเพิ่มการควบคุมระดับค่าไอเสียออกมาอย่างชัดเจน ซึ่งทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ล้าหลังกว่าประเทศเพื่อนบ้านเป็นไหนๆ
มาตรฐานไอเสียยูโรระดับ 5 จะมีการเข้มงวดกับเครื่องยนต์ดีเซลเป็นพิเศษ โดยรถยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ทุกคัน ต้องติดตั้งตัวกรองฝุ่นละออง (DPF) และจำกัดค่า NOx ให้ลดลงเหลือ 28% เมื่อเทียบกับยูโรระดับ 4 และเป็นครั้งแรกที่มีการจำกัดปริมาณฝุ่นละอองสำหรับเครื่องยนต์เบนซินที่เป็นแบบจุดระเบิดด้วย
สำหรับรถบางรุ่นที่มีจำหน่ายในประเทศไทยปัจจุบัน ได้มีการควบคุมการผลิตออกมาให้ผ่านมาตรฐานไอเสียระดับ Euro 5 กันบ้างแล้ว ซึ่งตรงนี้ถือเป็นการพัฒนาและรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยตัวของแบรนด์เอง ซึ่งรถที่ได้มีการจำกัดค่ามาตรฐานยูโรระดับ 5 ก็จะมี จำพวก รถอีโค่คาร์ทั้งหลาย รถเก๋งเบนซิน กับรถยุโรปหรู ส่วนรถกระบะหลายค่ายก็จะมีเครื่องยนต์ดีเซลระดับยูโร 5 เตรียมไว้แล้ว แค่ยังรอดูความชัดเจนของนโยบายมาตรฐานตามระดับยูโร 5 ของทางภาครัฐแบบเป็นรูปธรรมอีกครั้งนึง
ซึ่งบริษัทรถยนต์ที่ได้มีการควบคุมค่ามาตรฐานไอเสียทั้ง 8 ยี่ห้อ จะได้แก่ BMW, Isuzu, Mazda, Mercedes-Benz, Mitsubishi, MG, Suzuki และ Toyota โดยแบ่งเป็น อีโค่คาร์ 27 รุ่น และรถเก๋งขนาดกลางและใหญ่ 11 รุ่น และรถนำเข้า 19 รุ่น
เคยมีข่าวแว่วมาว่าประเทศไทยได้มีการเตรียมจะใช้มาตรฐานยูโร 5 ในปี 2567 ตามมติการเลื่อนเวลาเปลี่ยนมาตรฐานไอเสีย จากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม เพื่อให้รถใหม่ที่จะเปิดตัวในอนาคต รวมถึงโรงกลั่นน้ำมัน มีความพร้อมครบทั้งวงจร ให้สามารถรองรับข้ามมาตรฐานไปถึงระดับยูโร 6 ได้เลยซึ่งจะประกาศใช้ในปีถัดไป ส่วนมาตรฐานของน้ำมันยูโร 5 จะเริ่มประกาศใช้จริงจังในปี 2567 ตามไปด้วย
จนกว่าจะถึงตอนนั้น ก็คงจะได้เห็นค่ายรถยนต์ต่างๆ ออกมาแข่งขันกันในเรื่องนี้กันก่อนที่จะมีการประกาศออกมาอย่างชัดเจนจากทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างแน่นอน
