หลังจากที่คว้าชัยชนะมาได้ทั้งหมด 53 ครั้ง และแชมป์โลกอีก 4 สมัย สลักไว้ในชื่อของตัวเอง Sebastian Vettel ก็ได้ประกาศวางมือจากการแข่งขัน Formula 1 หลังสิ้นสุดปีนี้ ดังนั้นก่อนที่เขาจะจากไป เรามาลองย้อนดู 10 ชัยชนะที่น่าประทับใจของนักแข่งเยอรมันผู้นี้กันเสียหน่อย
- Indian GP 2011
มันเป็นรายการที่ Vettel โชว์ความแข็งแกร่งของเขาที่ผนึกกำลังกับ Red Bull ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เจ้าตัวขึ้นนำการแข่งขันจากตำแหน่งโพล หลบหลีกเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่จะทำอันตรายต่ออันดับของเขา พาตัวเองออกจากระยะ DRS และควบคุมเรซจากหัวแถวได้อย่างสมบูรณ์แบบ
“เป็นผลงานที่โดดเด่นที่สุดของ Vettel ในฤดูกาลนี้” Autosport ให้ความเห็นหลังจากที่ Vettel คว้าโพล ทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุด นำทุกรอบการแข่งขัน และคว้าชัยชนะไปในที่สุด กับสนามแข่งใหม่ Buddh International Circuit
มีเพียงแค่ Jenson Button ในรถ McLaren เท่านั้นที่ตามหลัง Vettel ได้อยู่ในระยะ 10 วินาที ในขณะที่อันดับ 3 อย่าง Fernando Alonso จาก Ferrari ถูกทิ้งห่างจาก Vettel ออกไปถึง 24.3 วินาที
- Abu Dhabi GP 2013
ในสนามนี้ Vettel นั้นถูกแย่งโพลไปโดย Mark Webber เพื่อนร่วมทีมของเขา แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับนักแข่งเยอรมันแต่อย่างใด เขาออกสตาร์ทและชิงขึ้นเป็นผู้นำไปได้ตั้งแต่โค้งแรก ในขณะที่นักแข่งออสซีกลับถอยหลังลงไปติดท้ายรถ Mercedes ของ Nico Rosberg แทน
สิ่งที่น่าประทับใจคือ ความสามารถของ Vettel ในการบริหารยางอันแสนบอบบางอ่อนไหวของ Pirelli “เขาขยับขึ้นไปอีกระดับ” Christian Horner ทีมบอส Red Bull กล่าวด้วยความประทับใจ “การจับความรู้สึกจากยางและยังไปได้อย่างรวดเร็วของเขานั้นเป็นอะไรที่สุดยอดมาก”
ถึงแม้ว่า Webber จะแซง Rosberg ขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ได้ อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่อาจตามเพื่อนร่วมทีมของเขาได้ทัน แถมยังถูกทิ้งห่างออกไปถึงครึ่งนาทีหลังเข้าเส้นชัยอีกด้วย “Seb นั้นมาจากคนละโลกกับเราแล้วล่ะวันนี้” เป็นคำกล่าวของ Webber หลังจบการแข่งขัน
- Malaysian GP 2015
การคว้าชัยชนะครั้งแรกย่อมเป็นความรู้สึกที่พิเศษ และมันยิ่งพิเศษขึ้นไปกับการคว้าชัยชนะในรถสีแดงเพลิงของ Ferrari, Vettel นั้นต้องพบกับปีที่ยากลำบากในปี 2014 หลังจากที่เข้าสู่ยุคของเครื่องยนต์ไฮบริด เขาถูกเพื่อนร่วมทีมอย่าง Daniel Ricciardo ถลุงยับ ทำให้นักแข่งเยอรมันตัดสินใจสละเรือไปขึ้นเรือรบของ Ferrari แทน
ในปี 2014 Ferrari เองก็ไม่ได้ดูดีนัก ทีมแข่งจากอิตาลีจบฤดูกาลในอันดับ 4 แต่เมื่อเข้าสู่ปี 2015 พร้อมกับการมาของ Vettel พวกเขาขยับเข้าใกล้ Mercedes ที่ยืนอยู่เหนือกว่าคู่แข่งอย่างมากในเวลานั้น และเพียงสนามที่ 2 ของฤดูกาล Vettel ก็เอาชนะคู่หู Mercedes ได้ ด้วยความช่วยเหลือจากกลยุทธ์พิทเล็กน้อย (ใช่ครับ อ่านไม่ผิด)
ในช่วงต้นของการแข่งขันนั้นมีเซฟตี้คาร์ออกมา และ Mercedes ทั้ง 2 คันนั้นตัดสินใจเข้าพิทไปในช่วงนั้น แต่ทางด้าน Ferrari ตัดสินใจไม่เข้าพิทซึ่งทำให้ Vettel ขึ้นมาเป็นผู้นำ
ส่วนสำคัญอีกอย่างที่ช่วยให้กลยุทธ์ของ Ferrari ครั้งนี้สำเร็จคือ อัตราการสึกหรอของยางที่ Ferrari ดูดีกว่า Mercedes นั่นทำให้ค่ายตราดาวต้องเข้าพิทถึง 3 ครั้ง ในขณะที่ค่ายม้าลำพองเข้าพิทเพียง 2 ครั้ง เป็นผลให้ Lewis Hamilton และ Nico Rosberg ไล่ตาม Vettel ไม่ทัน
“นี่มันเหมือนกับ Sebastian Vettel คนที่คว้าแชมป์โลก 4 สมัย ได้กลับมาแล้ว” Autosport กล่าวหลังจบการแข่งขันซึ่ง Vettel เข้าเส้นชัยนำห่างอันดับ 2 ไป 8.6 วินาที
- Singapore GP 2013
เป็นอีกครั้งที่ Vettel-Red Bull แสดงความแข็งแกร่งที่ไม่อาจเทียบออกมา เพราะหลังจากที่ Rosberg ขึ้นมาท้าทาย Vettel ที่โค้งแรกไม่สำเร็จ หลังจากนั้น Vettel ก็เป็นฝ่ายคุมเกมจนกระทั่งจบการแข่งขัน
ช่วงเวลาที่ไร้เทียมทานของ Vettel เกิดขึ้นใน 31 รอบสุดท้าย หลังจากที่เซฟตี้คาร์ออกมาเคลียร์รถของ Daniel Ricciardo ที่เกิดอุบัติเหตุออกไป เขานำห่างออกไป 3.2 วินาที ในรอบแรก ห่างออกไป 5.6 วินาที ในรอบต่อมา และขยับออกไปอีกเป็น 8.3 วินาที ในรอบต่อมา ซึ่งเป้าหมายก็คือ การทิ้งระยะไว้ให้มากพอที่จะออกมาอยู่หน้า Fernando Alonso คู่แข่งสำคัญในอันดับ 5 ที่คาดว่าเขาจะไม่เข้าพิทอีกแล้ว
Vettel นั้นมีเพซที่น่ากลัวมาก ในท้ายที่สุดเขาสามารถเข้าพิทในขณะที่เหลืออีก 17 รอบ แล้วยังออกมานำการแข่งขันเช่นเดิม แถมจบการแข่งขันโดยทิ้งอันดับ 2 ไปถึงมากกว่าครึ่งนาที และยังมีเวลาต่อรอบเร็วที่สุดติดไม้ติดมือกลับออกไปด้วย
“แทร็คสิงคโปร์ได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของการผสมผสานระหว่าง Vettel และตัวแข่ง RB9 ขั้นสุด อาจจะเป็นครั้งแรกในปีนี้” Autosport ให้ความเห็น
- British GP 2018
Vettel และ Ferrari ชนะการแข่งขันถึง 10 ครั้ง ในระหว่างปี 2017 และ 2018 แต่ชัยชนะที่ British GP 2018 น่าจะเป็นชัยชนะที่เซอร์ไพรส์มากที่สุด
ด้วยคาแร็คเตอร์แทร็คของซิลเวอร์สโตนที่เต็มไปด้วยโค้งความเร็วสูง มันเข้ากับรถของ Mercedes เป็นอย่างมาก และปีก่อนหน้านั้น Ferrari เองก็มีปัญหาอย่างมากกับการทำผลงานที่นี่ อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ Hamilton ถึงขั้นต้องใส่สุดจริง ๆ ถึงจะคว้าโพลมาได้ โดยเฉือน Vettel ไปเพียง 0.044 วินาที
Vettel ออกสตาร์ทขึ้นนำได้ซึ่งเป็นอะไรที่สำคัญมากในการคว้าชัยชนะที่นี่ ในขณะที่ด้านหลังนั้น Kimi Raikkonen เพื่อนร่วมทีมสังกัด Ferrari ได้มีการเฉี่ยวชนกับ Hamilton
Vettel พยายามยืดระยะห่างออกไปจาก Valtteri Bottas ในรถ Mercedes อีกคัน โดยที่ต้องบริหารยางไปด้วย แต่จุดเปลี่ยนมาถึงเมื่อรถ Sauber ของ Marcus Ericsson เกิดการชนและมีการตีธงเหลืองทั่วสนาม Vettel เข้าพิทมาเพื่อเปลี่ยนยางในขณะที่ Bottas นั้นเลือกที่จะไม่เข้าพิท ทำให้นักแข่งฟินน์ขยับขึ้นมาเป็นผู้นำ
สถานการณ์นั้นดูจะไม่เป็นใจให้กับ Ferrari อีก เมื่อ Carlos Sainz และ Romain Grosjean ชนกันทันทีหลังรีสตาร์ท ส่งผลให้เมื่อเคลียร์แทร็คเสร็จ มันเหลือการแข่งขันอีกเพียงแค่ 11 รอบ เท่านั้น
Bottas เองก็หัวแข็งไม่ใช่น้อย เจ้าตัวแม้จะใช้ยางมีเดียมที่สึกหรอกว่ายางซอฟต์ใหม่ของ Vettel แต่นักแข่งฟินน์ก็ป้องกันตำแหน่งได้อย่างดีในช่วงแรก แต่แล้วในรอบที่ 47 Vettel ก็โจมตี Bottas ไม่ให้ทันตั้งตัวและแซงขึ้นไปได้สำเร็จ และนั่นเป็นการแซงที่สำคัญมากที่ทำให้ Vettel คว้าชัยชนะในวันนั้นไปได้
“ผมพยายามตามเขาถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ในอากาศสะอาด แต่มันยากขึ้นทุกครั้งที่ผมขยับเข้าใกล้มาก ๆ” Vettel กล่าว “การโจมตีครั้งสุดท้าย ผมสามารถทำให้เขาประหลาดใจได้ ผมคิดว่า ‘เอาล่ะ เราต้องยัดแล้ว’ เพราะยิ่งผมอยู่หลังเขานานเท่าไร ยางผมก็ยิ่งแย่ลงเท่านั้น”
อ้างอิง : motorsport.com
อ่าน >>> 10 อันดับชัยชนะที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ Sebastian Vettel ใน F1 (Part 2)
