นอกจากการเปิดตัวน้องออลนิวหัวใจใหม่ ISUZU D-MAX MAXFORCE ขนาด 2.2 Ddi แล้ว ด้านพีพีวีหรูได้หัวใจใหม่เข่นกันกับ ISUZU MU-X MAXFORCE
ISUZU MU-X MAXFORCE เครื่องยนต์ใหม่ 2.2 Ddi MAX FORCE มาในร่างเดิมหน้าตาเดิมเพิ่มสีสันด้วยใหม่และทางเลือกใหม่อีก 1 รุ่น
ดีไซน์สปอร์ตทั้งภายนอกจดภายในเริ่มที่ภายนอกปรับตั้งแต่ฝากระโปรงหน้าออกแบบเส้นสายหนาลงตัวพร้อมกระจังหน้าเขี้ยวสองชั้นโฉบเฉี่ยวด้วยไฟหน้า Bi-LED แบบ Dynamic Blade มีไฟ Daytime แบบ LED ในตัวโคมไฟหน้า เร้าใจด้วยชุดกันชนหน้า แบบ Fighter Jet ดุดันพร้อม Air Curtain เพิ่มประสิทธิภาพอากาศพลศาสตร์ พร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED
สอดรับกับเส้นสายด้านข้างอันเป็นเอกลักษณ์เติมอารมณ์สปอร์ตด้วยเสาอากาศครีบฉลาม ราวหลังคาบิ๊วอินสีดำดีไซน์กลมกลืนกับหลังคา กระจกมองข้างไฟเลี้ยว LED ปรับ-พับด้วยไฟฟ้า บันไดข้าง สบายยิ่งกว่าด้วยฝาท้าย Smart Tailgate เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าทำงานร่วมกับระบบ Step Sensor และหยุดเมื่อมีสิ่งกีดขวางด้วยระบบ Jam Protection พร้อมชุดกันชนหลังทรงเดิมออกแบบลิ้นสปอยเลอร์หลัง ไฟท้าย LEDแบบ Dynamic Blade พร้อมผสานดีไซน์สปอร์ตของชุดไฟท้ายด้วยเส้น Embrace Line พร้อมการตกแต่งภายนอกเฉพาะรุ่น
เริ่มที่รุ่น RS ทรงพลังด้วยกระจังหน้า BLACK DIAMOND GRILLE พร้อมสะท้อนความพีคด้วยสัญลักษณ์ RS ด้วยวัสดุ Black Chrome สปอร์ตด้วยล้ออัลลอย RS Design ขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 265/50 R20 เพิ่มความสปอร์ตด้วย Fender Garnish สีดำ ช่องระบายอากาศด้านข้าง Side Garnish สัญลักษณ์ RS หลังคาดำ Black Roof พร้อมสัญลักษณ์ RS โดดเด่นเท่สะดุดตาด้วยสี LIME GREEN คิ้วชายล่างตกแต่งสปอร์ตพร้อมบันไดข้าง
รุ่น Ultimate และ Elegant มาในแนวหรูด้วยกระจังหน้าดีไซน์ Dynamic Grille หรูหราด้วยวัสดุสีดำ Titanium Carbide ขอบสีเงิน ล้ออัลลอยดีไซน์ Dynamic Turbine ขนาด 20 นิ้ว สี Magnetite II พร้อมดีเทลก้านแม็กแบบ 3D พร้อมยาง 265/50 R20 ในรุ่น Ultimate และ ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/60 R18 ในรุ่น Elegant
รุ่น Active มาพร้อมกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ Dynamic Grill ให้อารมณ์สปอร์ตด้วยวัสดุ Dark Gray และล้อลายเดิมขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 255/65 R17
มิติตัวรถมีการปรับเล็กน้อยตั้งแต่ความยาว 4,860 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,870-1,885 มิลลิเมตร ความสูง 1,815-1,875 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,855 มิลลิเมตร ความกว้างฐานล้อหน้าและล้อหลังเท่ากัน 1,570 มิลลิเมตร ความสูงใต้ท้องรถ 230-235 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 1,975-2,175 กิโลกรัม ความจุถังน้ำมัน 80 ลิตร
ภายในมาพร้อมออปชันทันสมัยตั้งแต่มาตรวัดเรืองแสง Integrated MID 7 นิ้ว เชื่อมต่อข้อมูลกับจอสัมผัส Infotainment Display ขนาด 9 นิ้วรองรับการใช้งานทั้งระบบเชื่อมต่อไร้สายทั้ง Android Auto และ Apple CarPlay แสดงผลหลายฟังก์ชันทั้งแสดงองศามุมปีนไต่ ลาดเอียง ทิศทางการเลี้ยวของล้อ ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS ที่หน้าจอ Integrated MID และ Infotainment Display ลุยได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น พร้อมลำโพงรวมทวิตเตอร์หน้า-หลัง 8 จุด พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านดีไซน์ใหม่ปรับได้ 4 ทิศทาง
เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Brake Hold ความสะดวกสบายครบครันมี Ambient Light และ Dome Light หรูมีระดับ เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone แยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมช่องแอร์หลัง Charging Station รองรับการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าหลากหลาย ทั้ง USB Fast Charger Type C และช่องต่อ DC 12V
เบาะนั่งปรับด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทางสำหรับคนขับในรุ่น Elegant, Ultimate และ RS และปรับไฟฟ้า 4 ทิศทางสำหรับคนนั่งในรุ่น Ultimate และ RS พร้อมเบาะนั่งตอนที่ 2 ปรับเอนได้ถึง 22 องศา พับได้ 60/40 แบบพับม้วนเดียวจบและเบาะนั่งตอน 3 สบายพับได้แบบ 50/50 พร้อมพื้นที่สัมภาระด้านท้ายมากถึง 311 ลิตร และพับเบาะตอน 3 มีพื้นที่ความจุมากถึง 1,119 ลิตร และเมื่อพับตอน 2 กับตอน 3 ด้วยกันจะมีพื้นที่ความจุมากถึง 2,138 ลิตร มากที่สุดในรถระดับเดียวกัน
ฟังก์ชันเอาใจคนรักความสะดวกสบายด้วยกุญแจรีโมท ISUZU Genius Entry สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วย Remote Engine Start เฉพาะรุ่น RS และ Ultimate และใช้เปิด-ปิดประตูท้ายไฟฟ้า กระจกบังลมหน้าแบบ IR Cut ช่วยกรองรังสีอินฟราเรด ป้องกันรังสี UVA และ UVB ช่วยลดอุณหภูมิในห้องโดยสาร ไฟส่องสว่างในห้องโดยสารเปิดอัตโนมัติ เมื่อเข้าใกล้รถในระยะ 2 เมตร Welcome Light ล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อเดินออกห่างจากตัวรถเกินระยะ 3 เมตร Walk Away Auto Lock เปิดไฟส่องสว่างได้นาน 30 วินาที หลังดับเครื่องยนต์ Follow Me Home ระบบกรองอากาศเข้าห้องโดยสาร สามารถดักฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ถึงระดับ PM2.5
พร้อมการตกแต่งภายในที่ต่างกันแต่ะละรุ่นเริ่มที่รุ่น RS ยกระดับบรรยากาศภายในห้องโดยสารให้พีคกว่าเดิมด้วยโทนสีดำ พร้อมตกแต่งด้วย Matte Silver Garnish เบาะนั่งดีไซน์สปอร์ตนั่งสบายโอบรับสรีระโดดเด่นด้วยการเดินด้ายสี LIME GREEN และสัญลักษณ์ RS บนหัวเบาะ เบาะกันความร้อนด้วย Cool MAX เร้าใจด้วยบรรยากาศภายในด้วยไฟสร้างบรรยากาศสีแดง Red Ambient Light และคอนโซลสีดำดีไซน์ใหม่เหนือระดับทุกรายละเอียด ตกแต่งด้วย Matte Silver
รุ่น Ultimate และ Elegant ยกระดับความหรูหราภายในห้องโดยสารด้วยโทนสี Truffle Brown – Black ให้ความรู้สึกอบอุ่น High Class เบาะ 7 ที่นั่ง ดีไซน์ สี Truffle Brown ที่นั่งสบายเหนือกว่า โอบรับสรีระ ด้วยวัสดุ Cool Max ช่วยลดการสะสมความร้อน คอนโซลดีไซน์ใหม่! สี Truffle Brown-Black พรีเมียมด้วยวัสดุ Piano Black – Satin Silver บรรยากาศภายในหรูหราไฟสร้างบรรยากาศสีขาว White Ambient Light (เฉพาะรุ่น Ultimate)
รุ่น Active หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับระบบ Wireless Android Auto และ Wireless Apple CarPlay ลำโพงมาตรฐานรวมทวิตเตอร์หน้า 6 จุด เบาะผ้าสีดำ 7 ที่นั่ง มาตรวัดธรรมดาพร้อมจอแสดงข้อมูลขนาด 3.5 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านควบคุมการทำงานเครื่องเสียงปรับได้ 4 ทิศทาง ชุดไฟส่องแผนที่พร้อมกล่องเก็บแว่นตาในตัว เบาะนั่งคนขับปรับสูงต่ำได้ 8 ทิศทาง เครื่องปรับอากาศทรงกลมพร้อมระบบกรองอากาศเข้าห้องโดยสารสามารถดักฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ถึงระดับ PM2.5 และยังแยกส่วนด้านหลังอีกด้วย
ปลดล็อกพร้อมลุยทุกงานบรรทุกหนักด้วยขุมพลังแรงและประหยัดด้วยเครื่องยนต์ใหม่ดีเซลเทอร์โบแปรผันไฟฟ้า E-VGS ขนาด 2.2 ลิตร รุ่น RZ4F-TC แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (DOHC) ให้พลังแรงเพิ่มขึ้นสุดถึง 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรที่ 1,600 – 2,400 รอบต่อนาที
พัฒนาให้แรงบิดช่วงออกตัวสูงขึ้น 56% ประหยัดน้ำมันยิ่งกว่าเดิม สูงสุด 10.7 % ตอบโจทย์การใช้งานมากยิ่งขึ้นใหม่! หัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงแรงดันสูง 250 MPa. พร้อม ใหม่! ECM แบบ MULTI-CORE ประสิทธิภาพสูง
ใหม่! E-VGS TURBO เทอร์โบแปรผันควบคุมการทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ใหม่! ห้องเผาไหม้แบบ HIGH SWIRL เพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้สมบูรณ์แบบ มาพร้อมกับลูกสูบใหม่ ULTRA-LOW FRICTION ที่ให้แรงเสียดทานต่ำพิเศษ เสื้อสูบแกร่งพิเศษ แบบ EXTREME STRENGTH พร้อมระบบหล่อลื่นเครื่องยนต์ใหม่! HI-FLOW และชุดขับเคลื่อนเพลาลูกเบี้ยวด้วยเฟืองและโซ่เหล็กกล้า TIMING GEAR & CHAIN
มาพร้อมระบบส่งกำลังใหม่เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดแบบ REV TRONIC และ Sequential Paddle Shift รุ่น LB500 ครั้งแรกของอีซูซุให้อัตราทดเกียร์ต่อเนื่องในทุกช่วงความเร็วในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ
และเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผันไฟฟ้า E-VGS 3.0 Ddi Blue Power รุ่น 4JJ3-TCX E5 กำลังสูงสุด 190 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,600 รอบต่อนาทีคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต REV TRONIC และ Sequential Paddle Shift
ทั้ง 2 เครื่องยนต์ผ่านมาตรฐาน EURO 5 ด้วยการใช้เทคโนโลยีตัวกรองเขม่าไอเสียในเครื่องยนต์ดีเซล DPD (Diesel Particulate Diffuser) ลดเขม่าและฝุ่นขนาดเล็กจากการเผาไหม้จากเดิมจะมี แคทาลิติก คอนเวอร์เตอร์ สามารถรักษาสมรรถนะรถ ประสิทธิภาพการใช้งานอันยอดเยี่ยม และยังสามารถลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น โดยไม่เติมน้ำยาบำบัดไอเสียในเครื่องยนต์ดีเซล เช่น AdBlue
เลือกได้ทั้งขับเคลื่อน 2 ล้อและขับเคลื่อนสี่ล้อ Part Time Terrain Command สวิตช์เปลี่ยนการขับเคลื่อนจาก 2 ล้อเป็น 4 ล้อ พร้อม Rough Terrain Mode ช่วยควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ เบรกให้เหมาะสมเพื่อให้สามารถผ่านอุปสรรคไปได้ ทำงานได้ทั้ง 2H, 4H และ 4L ลุยน้ำได้สูงสุด 800 มิลลิเมตร
พร้อมช่วงล่างคอยล์สปริงทั้ง 4 ล้อ ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น Double Wishbone และเหล็กกันโคลง ช่วงล่างด้านหลังแบบ 5-Link Suspension ครั้งแรกในรุ่น RS กับ Ultimate ด้วยพวงมาลัยไฟฟ้า (Electric Power Steering) ขับสบายเหนือกว่าคล่องตัวทั้งในเมือง และนอกเมือง
พร้อมเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย ISUZU MATRIX SAFETY INTELLIGENCE ด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS ทำงานด้วยกล้องหน้าคู่ 3D Imaging Stereo Camera แม่นยำกว่ากล้องเดี่ยวแบบ Mono Camera ทั่วไป ตรวจจับเส้นถนนและวัตถุด้านหน้ารถแบบ Real Time มีมุมมองกว้างและแม่นยำกว่าเดิมด้วยเรดาร์ 2 จุด และเซนเซอร์ 8 จุดรอบคัน โดย ADAS Generation ล่าสุด!
เฉพาะรุ่น RS และ Ultimate เช่น ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKAS (Lane Keep Assist System) ช่วยควบคุมทิศทางของรถตามรถคันหน้า TJA (Traffic Jam Assist) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ELK (Emergency Lane Keeping) ช่วยควบคุมรถไม่ให้ออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention) พร้อม ระแบบแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning) ช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย RCTB (Rear Cross Traffic Brake)
ช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Attention Assist) ควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ ACC (Adaptive Cruise Control) พร้อม Stop&Go, เตือนการชนด้านหน้าอัตโนมัติ FCW (Front Forward Collision Warning) หยุดรถอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Brake) เตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ LDWS (Lane Departure Warning System)
ช่วยเบรกฉุกเฉินขณะกำลังเลี้ยว TA-AEB (Turn Assist with Autonomous Emergency Braking) ควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ AHB (Automatic High Beam) เบรกอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน MCB (Multi-Collision Brake) ตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุดด้วยตัวเอง MSL (Manual Speed Limiter) ตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด PMM (Pedal Misapplication Mitigation)
ในรุ่น Elegant, Ultimate และ RS ให้ออปชันพิเศษทั้งเซนเซอร์ช่วยจอดรถยนต์ Parking Aid System รวม 8 จุด ทำงานร่วมกับกล้องมองหลัง พร้อมเส้นกะระยะ Lane Guide ใหม่ กล้องรอบคัน 360O Surround View Camera ให้ภาพคมชัดแบบ 3D พร้อมมุมมองใต้ท้องรถ ในรุ่น RS เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน BSM (Blind Spot Monitoring) และช่วยเตือนขณะถอย RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
ความปลอดภัยพื้นฐานให้มาทุกรุ่นทั้งดิสก์เบรกสี่ล้อพร้อมระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก ABS (Anti-Lock Brake System) พร้อมเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist) กระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake-Force Distribution) ป้องกันล้อหมุนฟรีขณะออกตัว TCS (Traction Control System) ควบคุมการทรงตัวขณะขับขี่ ESC (Electronic Stability Control) ควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC (Trailer Sway Control)
ลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก BOS (Brake Override System) ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA (Hill Start Assist) ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control) ถุงลมนิรภัยรอบคัน 6 ตำแหน่งในรุ่น RS, Ultimate และ Elegant และคู่หน้าในรุ่น Active โครงสร้างห้องโดยสาร Ultra-High Tensile
ISUZU MU-X MAXFORCE มีให้เลือกถึง 6 สี ได้แก่ ไอเกอร์ เกรย์ โอเพค (Eiger Gray Opaque) สีใหม่, ขาวมุกโดโลไมท์ (Dolomite White Pearl) เพิ่มเงิน 12,000 บาท, แดง เอทนา ไมก้า (Etna Mica), ดำบาวาเรียน ไมก้า (Bavarian Black Mica), เงินไอซ์เบิร์ก ไมก้า (Iceberg Silver Mica) และเงินโบฮีเมียน เมทัลลิก (Bohemian Silver Metallic) มาพร้อมทางเลือกที่หลากหลายถึง 4 รุ่น ได้แก่ RS, Ultimate, Elegant และ Activeกับราคาดังนี้
- 3.0 RS 4WD ราคา 1,759,000 บาท (ราคาเดิม)
- 3.0 RS ราคา 1,659,000 บาท (ราคาเดิม)
- 2.2 RS ราคา 1,624,000 บาท (รุ่นใหม่)
- 3.0 Ultimate ราคา 1,589,000 บาท (ราคาเดิม)
- 2.2 Ultimate ราคา 1,554,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 10,000 บาท)
- 3.0 Elegant ราคา 1,464,000 บาท (ราคาเดิม)
- 2.2 Elegant ราคา 1,429,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 10,000 บาท)
- 2.2 Active ราคา 1,194,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 10,000 บาท)