More

    10 อันดับรถแข่งสุดเทพของ Newey ที่ประสบความสำเร็จสูงสุด

    ในชั่วโมงนี้ เชื่อว่าไม่มีนักออกแบบคนไหนที่จะมีชื่อเสียงมากไปกว่า Adrian Newey อีกแล้ว หัวหน้าฝ่ายเทคนิคของ Red Bull ได้โชว์ศักยภาพของตัวเองอีกครั้งด้วยการออกแบบตัวแข่ง RB18 ที่ช่วยให้ Max Verstappen และ Sergio Perez กดชัยชนะรวมกันมากถึง 17 สนาม ในปี 2022

    และไม่ใช่ว่ากูรูนักออกแบบมือทองคนนี้พึ่งจะมาทำผลงานที่ยอดเยี่ยม ตลอดอาชีพการเป็นนักออกแบบที่คลุกคลีอยู่ในวงการ F1 เขาออกแบบรถจนคว้าแชมป์โลกทั้งประเภทนักขับและทีมรวมกันแล้วถึง 23 ครั้ง ใช่ครับ… 23 ครั้ง!!

    แฟน ๆ รุ่นใหม่อาจจะยังไม่ทราบ แต่ Newey นั้นช่วยดันทีมแข่งให้ประสบความสำเร็จมาแล้วหลายทีม ไม่เพียงแต่ Red Bull เท่านั้น แม้กระทั่ง McLaren และ Williams เขาก็เคยเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จมาแล้วทั้งสิ้น ดังนั้น เราจะลองมาย้อนดูรถแข่งที่ประสบความสำเร็จที่สุดที่เคยผ่านมือนักออกแบบสมองเพชรคนนี้

    1. Red Bull RB6 (2010)

    ชนะ : 9/19 (47.4%)

    Sebastian Vettel : 5

    Mark Webber : 4

    แชมป์โลกประเภทนักขับ + ทีม

    มันคือตัวแข่งแรกของ Red Bull ที่คว้าแชมป์โลกได้ทั้ง 2 ประเภท และส่ง Sebastian Vettel ให้เป็นแชมป์โลกครั้งแรก

    RB6 นั้นเป็นรถที่ทำเวลารอบเดียวได้อย่างโดดเด่น ซึ่งจะเห็นได้จากจำนวนโพล 15 ครั้ง จาก 19 สนาม ในฤดูกาล 2010 มันถูกเรียกว่า ‘ปีศาจแห่ง Downforce’ เนื่องจากนวัตกรรม ‘Blown Diffuser’ ที่ Newey คิดค้นออกมา ทำให้ RB6 เป็นรถเพียงคันเดียวในปีนั้นที่สามารถ ‘กดคันเร่งเต็ม’ ในหลายโค้งความเร็วสูงได้

    1. Red Bull RB16B (2021)

    ชนะ : 11/22 (50%)

    Max Verstappen : 10

    Sergio Perez : 1

    แชมป์โลกประเภทนักขับ

    ฤดูกาล 2021 เรียกได้ว่าเป็นฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมที่สุดฤดูกาลหนึ่งใน F1 โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการแย่งแชมป์โลกซึ่ง Max Verstappen ต่อสู้อย่างดุเดือดและสลับอันดับขึ้นลงกับ Lewis Hamilton อยู่หลายสนาม และต้องไปตัดสินแชมป์โลกกันที่สนามสุดท้าย

    ด้วยกฎใหม่ในปี 2021 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของกฎรุ่นเก่า นั่นทำให้รถแข่งหลาย ๆ ทีมมีการขยับเข้าใกล้กันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และมันได้ช่วยให้ Red Bull ขยับเข้าใกล้ Mercedes ได้มากที่สุดนับตั้งแต่เข้าสู่ยุคไฮบริด ซึ่งทำให้พวกเขาคว้าชัยชนะไปได้ 11 จาก 22 สนาม และพาถ้วยแชมป์โลกกลับคืนสู่โรงงานมิลตันคีย์นได้ในรอบ 8 ปี

    รถแข่ง Newey

    1. McLaren MP4-20 (2005)

    ชนะ : 10/19 (52.6%)

    Kimi Raikkonen : 7

    Juan Pablo Montoya : 3

    เป็นรถคันเดียวของ Newey ที่เมื่อจากดูตัวเลขชัยชนะแล้ว มันเป็นรถที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคันหนึ่ง แต่กลับไม่สามารถที่จะคว้าแชมป์โลกทั้งประเภทนักขับหรือทีมได้เลย

    ปัญหาของ MP4-20 ก็คือ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นรถที่เร็วติดจรวด แต่มันกลับเปราะบางเอามาก ๆ ตลอดฤดูกาล Kimi Raikkonen ต้องพบกับปัญหาทางเทคนิคจากตัวรถเน้น ๆ ถึง 6 สนาม ทำให้ครึ่งหลังของฤดูกาล ถึงแม้ว่ารถ Renault จะสู้ความเร็วของรถ McLaren ไม่ได้ แต่ Fernando Alonso จาก Renault ก็คว้าแชมป์โลกไปครองทั้ง ๆ ที่ยังเหลือการแข่งขันอีก 2 สนาม จากปัญหาความไม่สม่ำเสมอของตัวรถ McLaren เอง

    รถแข่ง Newey

    1. McLaren MP4/13 (1998)

    ชนะ : 9/16 (56.3%)

    Mika Hakkinen : 8

    David Coulthard : 1

    แชมป์โลกประเภทนักขับ + ทีม

    MP4/13 เป็นรถคันแรกจากปลายปากกาของ Newey หลังจากที่ย้ายมาร่วมงานกับ McLaren (ย้ายมาจาก Williams) และเขาก็จัดแชมป์โลกแบบดับเบิ้ลให้กับต้นสังกัดใหม่ทันที

    ในปีก่อนหน้านั้น McLaren จบฤดูกาลด้วยอันดับ 4 แต่ด้วยการนำทัพฝ่ายเทคนิคของ Newey ใน 5 สนามแรกของฤดูกาล 1998 McLaren กดชัยชนะแบบ 1-2 ไปได้ถึง 3 สนาม นั่นทำให้ถึงแม้ว่าจะมีการไล่บี้กดดันอย่างหนักจาก Michael Schumacher และ Ferrari แต่ด้วยแต้มที่พวกเขามีตุนไว้เยอะตั้งแต่เปิดฤดูกาล นั่นทำให้พวกเขาคว้าแชมป์โลกในปีนั้นไปได้สำเร็จ และยังเป็นแชมป์โลกครั้งแรกของ Mika Hakkinen อีกด้วย

    รถแข่ง Newey

    = 5. Williams FW14B (1992)

    ชนะ : 10/16 (62.5%)

    Nigel Mansell : 9

    Riccardo Patrese : 1

    แชมป์โลกประเภทนักขับ + ทีม

    ง่าย ๆ สั้น ๆ นี่คือรถที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงสุดในเวลานั้นซึ่งส่งให้ Nigel Mansell ไปถึงฝันในการเป็นแชมป์โลกได้สำเร็จ

    FW14B เป็นแชสซีส์ที่ต่อยอดมาจาก FW14 ในปี 1991 แต่มีการอัด ‘อาวุธหนัก’ เข้าไปบนตัวรถ ทั้ง อากาศพลศาสตร์ขั้นสูง, ชุดเกียร์กึ่งอัตโนมัติ, ระบบ Traction Control, และ ระบบช่วงล่างแบบแอคทีฟ ซึ่งสิ่งเหล่านั้นสามารถเรียกได้ว่าเป็น ‘ตัวพลิกเกม’ ให้กับ Williams และมีเพียง Ayrton Senna คนเดียวที่สามารถจบการแข่งขันอยู่หน้า Mansell ได้ในขณะที่ Mansell ยังอยู่บนแทร็ค

    รถแข่ง Newey

    = 5. Williams FW15C (1993)

    ชนะ : 10/16 (62.5%)

    Alain Prost : 7

    Damon Hill : 3

    แชมป์โลกประเภทนักขับ + ทีม

    FW14B เป็นรถที่เรียกได้ว่าแทบจะขับด้วยตัวมันเองได้อยู่แล้ว แต่ FW15C ยังสามารถพัฒนาได้เหนือขึ้นไปยิ่งกว่า โดยรถคันนี้มาพร้อมกับปุ่ม ‘กดเพื่อแซง’ ซึ่งจะลดระดับความสูงของตัวรถลงด้วยความช่วยเหลือจากช่วงล่างแอคทีฟ ทำให้มันสามารถเพิ่มความเร็วทางตรงได้จากการลดแรงต้านอากาศ

    หลังจากปี 1992 Nigel Mansell ได้รีไทร์ไปเพื่อแข่งขัน IndyCar ทำให้ Alain Prost ต้องใช้หมายเลข 2 ประจำรถ และ Damon Hill ใช้รถหมายเลข 0 แต่ตัวแข่ง FW15C คือรถหมายเลข 1 ประจำกริดอย่างแท้จริง Prost คว้าชัยชนะไปได้ 7 จาก 10 สนามแรก ด้วยรถคันนี้ และหลังจากที่เขาประกาศรีไทร์หลังจบฤดูกาล 1993 ก็เป็น Hill ที่คว้าชัยชนะให้กับทีมเพิ่มอีก 3 สนาม

    นอกจากนั้น มันยังเป็นรถที่คว้าตำแหน่งโพลไปได้ทุกสนาม ยกเว้นเพียงสนามเดียวคือสนามสุดท้ายที่แอดิเลด ซึ่งตำแหน่งโพลตกเป็นของ Ayrton Senna ที่มาหยุดสถิติไว้

    รถแข่ง Newey

    1. Red Bull RB7 (2011)

    ชนะ : 12/19 (63.2%)

    Sebastian Vettel : 11

    Mark Webber : 1

    แชมป์โลกประเภทนักขับ + ทีม

    ในปี 2010 Red Bull ต้องต่อสู้อย่างดุเดือดและคว้าแชมป์โลกมาได้ด้วยความทุลักทุเล แต่ในปี 2011 พวกเขาถลุงคู่แข่งยับชนิดไร้ผู้ต่อต้าน ด้วยชัยชนะถึง 12 จาก 17 สนาม

    ความสม่ำเสมอซึ่งหาไม่ได้จาก RB6 ได้ถูก Newey นำมาใส่ไว้ใน RB7 และด้วยการมาของยาง Pirelli กับนวัตกรรมใหม่ (อีกแล้ว) อย่าง ‘Off-throttle’ ที่ช่วยให้ตัวรถยังคงสร้าง Downforce ได้แม้ว่านักแข่งจะยกคันเร่ง นั่นยกระดับความสามารถของ Sebastian Vettel ขึ้นไปอีกขั้นจนแฟน ๆ ทีมอื่นถึงกับร้องกันเลยทีเดียว โดยหากวิ่งจนถึงเส้นชัย นักแข่งเยอรมันก็จบการแข่งขันนอกโพเดียมเพียงครั้งเดียวที่ Nurburgring กับอันดับ 4 และนั่นคือสิ่งที่เรียกว่า ‘ถลุง’ คู่แข่งอย่างแท้จริง

    รถแข่ง Newey

    1. Red Bull RB9 (2013)

    ชนะ : 13/19 (68.4%)

    Sebastian Vettel : 13

    Mark Webber : 0

    แชมป์โลกประเภทนักขับ + ทีม

    ถ้าหากคุณรู้สึกว่า RB7 นั้นยังถลุงคู่แข่งไม่พอ RB9 นี่เรียกได้ว่าเล่นเสียคู่แข่งไม่ได้ผุดได้เกิดกันเลยทีเดียว Vettel หวดชัยชนะให้กับ Red Bull ไปเพียงคนเดียวในปีนั้นด้วยชัยชนะถึง 13 ครั้ง ซึ่งเป็นสถิติใหม่ของวงการ ก่อนที่จะมาถูก Verstappen ทำลายไปได้ในปี 2022 และนักแข่งเยอรมันยังสามารถชนะติดต่อกันได้ถึง 9 ครั้ง ซึ่งมันยังคงเป็นสถิติสูงที่สุดมาจนถึงปัจจุบัน

    รถแข่ง Newey

    1. Williams FW18 (1996)

    ชนะ : 12/16 (75%)

    Damon Hill : 8

    Jacques Villeneuve : 4

    แชมป์โลกประเภทนักขับ + ทีม

    ชัยชนะ 75 เปอร์เซ็นต์ ในหนึ่งฤดูกาลนับว่าเป็นตัวเลขที่สูงมาก และนั่นเกิดขึ้นกับรถ Williams FW18 ซึ่งช่วยให้ Damon Hill คว้าแชมป์โลกครั้งแรกและครั้งเดียวของเขาได้สำเร็จ

    ภายใต้การขับของ Hill และ Jacques Villeneuve พวกเขาคว้าชัยชนะไปได้ 12 ครั้ง เก็บโพลไปอีก 12 ครั้ง และทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุดอีก 11 ครั้ง จากทั้งหมด 16 สนาม ในปีนั้น ซึ่งนั่นเป็นตัวเลขที่เหมาะสมแล้วกับฝีมือของ Newey ในปีก่อนที่เขาจะย้ายทีมไปยัง McLaren

    รถแข่ง Newey

    1. Red Bull RB18 (2022)

    ชนะ : 17/22 (77.3%)

    Max Verstappen : 15

    Sergio Perez : 2

    แชมป์โลกประเภทนักขับ + ทีม

    RB18 คือรถแข่งที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของพ่อมดนักออกแบบ Adrian Newey ด้วยกฎเทคนิคใหม่ที่ต้องใช้ Ground Effect มันเป็นสิ่งที่ Newey คุ้นเคยตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว และเขาก็ได้แสดงหลักฐานของความเชี่ยวชาญตรงนั้นให้โลกได้ประจักษ์

    RB18 เป็นรถที่ฉีกแนวทางคาแร็คเตอร์ของตัวแข่ง Red Bull ที่แล้ว ๆ มาอย่างสิ้นเชิง โดยมันกลายเป็นรถที่ทำความเร็วบนทางตรงได้อย่างเยี่ยมยุทธ แทนที่จะเป็นทางโค้ง อีกทั้งยังมีเรซเพซอันน่ากลัวซึ่งช่วยให้ Max Verstappen ทำสถิติใหม่ในการคว้าชัยชนะมากที่สุดในหนึ่งฤดูกาล และช่วยให้ Red Bull เปิดศักราชยุคใหม่ของ F1 ด้วยความไร้เทียมทาน

    รถแข่ง Newey

    อ้างอิง : planetf1.com

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts