การขับขี่มอเตอร์ไซค์ของนักเดินทางแบบออกทริปทัวร์ริ่งนั้น จะต้องมีการเรียนรู้สัญญาณมือของ Lead Rider (ผู้นำกลุ่ม) ที่มีประสบการณ์ความชำนาญในการขับขี่เส้นทางมากที่สุด เพื่อส่งสัญญาณในการความคุมขบวน ความเร็ว ทิศทางของการเดินทาง หากมีผู้ร่วมทางจำนวนนึง ซึ่งจะมีสัญญาณมือเอาไว้ใช้สื่อสารแทนการพูดในระหว่างไบค์เกอร์ด้วยกัน เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก ที่จะต้องเรียนรู้ เพื่อทราบจุดประสงค์และเดินทางร่วมกันอย่างราบรื่น ซึ่งเราจะมาบอกความหมายของแต่ละท่าว่า ไบค์เกอร์เค้าสื่อสารอะไรกันบ้าง
โดยส่วนมากแล้วผู้นำ จะใช้ “มือซ้าย” สื่อสัญลักษณ์ต่างๆเป็นส่วนใหญ่ เพราะไม่สามารถใช้มือขวาได้ถนัด เนื่องจากจะต้องคอยจับคันแฮนด์เพื่อควบคุมรถมอเตอร์ไซค์เอาไว้อยู่นั่นเอง
มาทำความรู้จักกับตำแหน่งในขบวนมอเตอร์ไซค์กันก่อน
- Lead Rider ผู้นำกลุ่ม หรือผู้ที่คอยส่งสัญญาณแจ้งผู้ติดตามให้ทราบถึงการแจ้งเตือนและทิศทางต่างๆของกลุ่ม
- Wingman ผู้คุมปีก ช่วยเสริมการตัดสินใจต่างๆ คอยเปิดทาง หาช่องให้กับขบวนให้สามารถเคลื่อนที่ไปได้สะดวก
- Rider ผู้ขับขี่ในขบวน ที่เคยมีประสบการณ์ในการออกทริปมาก่อนแล้ว
- New Rider มือใหม่ จะอยู่ท้ายขบวนเป็นส่วนมาก ซึ่งอาจจะไม่ท้ายสุดจากผู้คุมท้ายขบวน เพื่อง่ายในการติดตามและไม่หลงขบวน
- Tail Gunner ผู้คุมท้ายขบวน จะเป็นผู้ที่คอยสอดส่องควบคุมขบวนอยู่ทางด้านหลังสุด คอยดูลำดับการขับขี่ แจ้งเตือนปัญหาต่างๆ มีประสบการณ์สูง ทักษะดี รถแรงแซงทุกคันได้เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินทางด้านหน้า
- Marshall ผู้จัดระเบียบขบวน ไม่ให้มีรถนอกแทรกเข้ามาในขบวนระหว่างออกทริป คอยสอดส่องความเรียบร้อยของขบวน จะต้องคอยขี่ไปด้านหน้า ด้านหลังสลับกันอยู่ตลอด
- Service ผู้คอยแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่จะต้องคอยติดต่อกับ Marshall และ Lead Rider เพื่อนัดจุดพัก
16 สัญญาณมือ ของเหล่าไบค์เกอร์ที่เราควรรู้!
- “เลี้ยวซ้าย” ในกรณีที่อยู่บริเวณทางแยก โดย ผู้นำคันแรกสามารถแจ้งสัญลักษณ์การเลี้ยวได้โดยการที่ กางแขนซ้ายและนิ้วชี้หรือแบมือไปทางซ้าย ในกรณีที่ต้องการให้คันหลังเลี้ยวซ้าย
- “เลี้ยวขวา” ในกรณีที่อยู่บริเวณทางแยก โดย ผู้นำคันแรกสามารถแจ้งสัญลักษณ์การเลี้ยวได้โดยการที่ กางแขนซ้ายและยกกำปั้นหรือใช้นิ้วชี้ไปทางขวาเหนือศรีษะ เพื่อเป็นสัญญาณบอกว่าให้คันหลังเลี้ยวขวาตามมานั่นเอง
- “หยุดรถ” โดยการกางแขนซ้ายออกมาระดับอกคว่ำแขนลง 45 องศา แล้วแบมือออกทำการโบกแขนขึ้นและลง
- “ขับตามมา” ยกแขนซ้ายขึ้นแล้วโบกมือไปด้านหน้า เพื่อสื่อให้รถทางด้านหลังขับตามมา
- “ขับช้าๆ ชะลอความเร็ว” กางแขนด้านซ้ายออกไปข้างลำตัวแล้วแบมือตั้งฉาก โบกขึ้นลงช้าๆ เพราะผู้นำคันแรก จะเห็นสภาพการเดินทางด้านหน้า ต้องการให้ผู้ตามขบวนด้านหลังๆนั้นหยุดใช้ความเร็ว หรือชะลอความแรงของรถให้ช้าลงนั้น
- “แยกตัว” ยกแขนซ้ายขึ้นแล้วชี้นิ้ววาดมือออกไปยังด้านซ้าย
- “ขับแถวเรียงหนึ่ง” ชูมือซ้ายขึ้นมาให้ยกขึ้นสูง แล้วชูนิ้วชี้ขึ้นมาหนึ่งนิ้วเท่านั้น เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า ให้ขับขี่เพียงแถวเดียวเท่านั้น
- “ขับแถวเรียงสอง” ชูมือซ้ายขึ้นมาให้ยกขึ้นสูง แล้วชูนิ้วนิ้วขึ้นมาสองนิ้ว เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า ให้ขับขี่เรียงกันสองแถว
- “เร่งความเร็ว” แบมือหงายขึ้นข้างลำตัว แล้วยกขึ้น แนวเดียวกับลำตัว เหมือนใช้ท่าเพิ่มพลังต่างๆ เรียกว่าเป็นการส่งสัญญาณให้เพิ่มความเร็ว
- “มีสิ่งกีดขวาง” เป็นการแจ้งเตือนให้รู้ว่าข้างหน้ามีสิ่งมีขวางอยู่ โดยการใช้มือซ้าย ชี้ลงที่พื้นข้างซ้าย จากนั้นใช้ขาขวา กางออก โดยให้เท้านั่น เตะออกมาทางด้านข้างขวา
- “แวะดื่มกาแฟ” ยกมือซ้ายขึ้นแล้วทำนิ้วโป้งชี้เข้าไปที่ปาก เพื่อบอกว่าจะหาอะไรดื่มสักหน่อยนะ
- “ให้ขับนำหรือแซงขึ้นไป” กางมือซ้ายออกมา แล้วชี้ลงพื้น วาดขึ้นไปทางด้านหน้า เพื่อให้คันหลังขับนำขึ้นไปก่อนเลย คันไหนที่ต้องการแซงไปก่อนนั้น ก็สามารถแซงได้เลย
- “หยุดพัก” ผู้นำคันหน้าจะส่งสัญญาณโดยการยื่นแขนลงไปด้านข้างแล้วยกกำปั้นขึ้นลงช้าๆ
- “เหตุฉุกเฉิน” เพื่อบอกให้ผู้ตามหยุดรถทันที เพราะอาจจะมีอันตรายด้านหน้าหรือสิ่งกีดขวางแบบฉุกเฉิน ด้วยการกางแขนออกไปด้านข้างแล้ว กางนิ้วออก เพื่อบอกให้หยุดรถทันที
- “มีตำรวจ” ผู้นำด้านหน้าจะยกมือซ้ายขึ้นมาตบด้านบนของหมวกกันน็อคของตน
- “น้ำมันหมด” เตรียมตัวเข้าปั๊มน้ำมัน โดยการชูแขนออกแล้วชี้เข้ามาที่ถังน้ำมัน โดยจะมองที่กระจกหลังเพื่อดูว่าคันต่อไปเห็นแล้ว และเพื่อจะให้ส่งสัญญาณต่อๆกันไป
เป็นประโยชน์มากสำหรับนักบิดมือใหม่และประชาชนทั่วไป ที่ต้องสัญจรไปพร้อมกับเหล่าบรรดาไบค์เกอร์ หากมีการต้องใช้ขึ้นมาจริงๆ จะได้เป็นการสร้างความปลอดภัยในตัวด้วย เพราะว่าสัญลักษณ์บางอย่างนั้น ก็เป็นสิ่งที่แสดงให้รู้ว่า จะเกิดอะไรล่วงหน้า และเพื่อที่จะเตรียมตัวรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆข้างหน้าได้