ตลาดรถยนต์เอสยูวีมีความร้อนแรงมากขึ้นยิ่งเฉพาะกลุ่มรถยนต์เอสยูวี Full B-SUV เริ่มกันที่ Honda HR-V เจนใหม่ ในฐานะต้นตำรับเตรียมที่จะกลับมาทวงความเป็นหนึ่งจาก Toyota Corolla Cross ก็ทำให้ตลาดกลุ่มนี้สนุกขึ้นมาทันที
แต่ทว่ายังไม่ได้ให้สาวกได้ชื่นชมสัมผัสตัวจริงกันที่โชว์รูมก็มีเพื่อนจากแดนมังกรที่มาขอท้าชิงในสนามนี้ กับ Haval Jolion Hybrid ที่มาเป็นสมาชิกใหม่ในตลาดรถยนต์เมืองไทย และเป็นรถประกอบในประเทศรุ่นที่สองต่อจากพี่ใหญ่ Haval H6 Hybrid และด้วยทั้ง Haval Jolion Hybrid กับ Honda HR-V e:HEV เปิดตัวในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันแถมราคาจำหน่ายทั้งสองรุ่นก็เตรียมที่จะเผยภายในเดือนพฤศจิกายนนี้เช่นกัน วันนี้ Car2day ขอจับสองเอสยูวีขนาดกลาง รุ่นที่สาวกทั้งประเทศให้ความสนใจอยู่ในตอนนี้มาเทียบกัน โดยรุ่นเทียบกันนั่นคือ Haval Jolion Hybrid รุ่น ULTRA และ Honda HR-V e:HEV รุ่น RS เริ่มที่
ภายนอกสไตล์ใครสไตล์มัน
Haval Jolion Hybrid รุ่น ULTRA โฉบเฉี่ยวสะท้อนถึงสุนทรียภาพแห่งอนาคตที่หรูหรามีระดับ สร้างความสนุกสนานในการขับขี่ ด้วยไฟหน้า LED เต็มรูปแบบ พร้อม Daytime Running Light ดีไซน์ล้ำสมัย ระบบ Welcome Light เมื่อปลดล็อค ไฟ Follow Me Home ที่ส่องสว่างหลังดับเครื่องยนต์ และไฟท้าย LED พร้อมไฟเบรกดวงที่สามและไฟตัดหมอกหลังแบบ LEDด้านหน้าของรถเป็นกระจังหน้า Star Matrix สีดำ-เทา ที่โดดเด่นด้วยโลโก้ HAVAL ตรงกลาง พร้อมดีไซน์อันล้ำสมัยด้วยหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิค สปอยเลอร์ท้าย เสาอากาศแบบ shark fin เข้าทรงกับดิฟฟิวเซอร์ดีไซน์สปอร์ต ตัวล้อเป็นอัลลอยดีไซน์สปอร์ต ทูโทน ขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 225/55 R18 แต่เสียดายว่ารุ่นนี้จะไม่มีไฟตัดหมอกหน้า LED โดยสร้างจากแพลตฟอร์ม GWM LEMON เดียวกับรุ่นพี่ Haval H6 Hybrid
ส่วน Honda HR-V e:HEV รุ่นท็อปสุด RS สปอร์ตพรีเมียม โดดเด่นด้วยกระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ต พร้อมสัญลักษณ์ RS สัญลักษณ์ AMP UP บนกันชนหน้าด้านล่าง กันชนหน้า-หลัง พร้อมชายกันกระแทกด้านข้างสีดำแบบสปอร์ตตกแต่งด้วยโครเมียม ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบวิ่ง LED Sequential ไฟท้ายแบบ LED Light Strip สี Smoke ล้ออัลลอยสปอร์ตขนาด 18 นิ้วพร้อมพร้อมยาง 225/50 R18 หลังคากระจกแบบพาโนรามา (Panoramic Glass Roof) และ ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ
มิติตัวรถสูสีไม่หนีห่าง
เมื่อนำมาเทียบกันจะพบว่า ทั้ง 2 รุ่น ต่างได้เปรียบในเรื่องมิติที่แตกต่างกันเริ่มที่ความยาว Jolion ยาวกว่า HR-V 87 มม. ความกว้าง Jolion กว้างกว่า HR-V 51 มม. ความสูง Jolion สูงกว่า HR-V 29 มม. ฐานล้อ HR-V สั้นกว่า Jolion 90 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น HR-V สูงกว่า Jolion 28 มม. น้ำหนักรถ HR-V หนักกว่า Jolion 7 กก. และความจุถังน้ำมัน Jolion จุมากกว่า HR-V 15 ลิตร
ภายในหรูมีสไตล์
ภายใน Haval Jolion Hybrid รุ่น ULTRA มากับแนวคิด “Future Intelligent Cockpit”โดดเด่นด้วยการออกแบบภายในกว้างขวาง ตกแต่งแบบ Two Tone ตัดด้วยลายเส้นสีโรสโกลด์ (Rose Gold) สีเงิน (Silver) สีดำ (Piano Black) และสีโครม (Chrome) มาพร้อมกับลำโพง 6 ตัว และหน้าจอกลางอัจฉริยะแบบ Touch Screen Audio Display ความละเอียดสูง ขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay การเล่น MP3 รวมไปถึง JOOX และระบบนำทาง (Navigator) ที่สามารถบอกตำแหน่ง Point of Interest ทั้งร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน และ ห้างสรรพสินค้า มาตรวัด Multi Information Display ความละเอียดสูง ขนาด 7 นิ้ว พร้อมหน้าจอ Head-up Display แสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า และระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมระบบกรองอากาศ PM2.5 และยังมี Wireless Charger ที่สามารถวางสมาร์ทโฟนเพื่อชาร์จได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยชุดเกียร์ไฟฟ้า (Electronic Shifter) ดีไซน์หรู พร้อมสีพิเศษแบบ High-gloss ช่วยเติมสีสันให้ห้องโดยสาร มาพร้อมกุญแจ Smart Key และระบบ Push Start เพื่ออำนวยความสะดวกในการเปิดประตูและการสตาร์ทเครื่องยนต์
เบาะที่นั่งเป็นหนังสังเคราะห์ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ โดยเบาะหน้าฝั่งผู้ขับขี่จะเป็นเบาะไฟฟ้าที่สามารถปรับได้ 6 ทิศทาง มาพร้อมระบบระบายอากาศ เพื่อช่วยจัดท่านั่งให้สบายและอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นวิสัยทัศน์ได้ดีที่สุด ส่วนเบาะที่นั่งโดยสารด้านหลังจะมาพร้อมที่เท้าแขนกลาง และช่องปรับอากาศด้านท้าย เพื่อช่วยยกระดับความสะดวกสบายไปอีกขึ้น และยังสามารถพับลงได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระได้สูงสุดถึง 1,069 ลิตร
ส่วน Honda HR-V e:HEV รุ่นท็อปสุด RS มาในแนวสปอร์ตด้วยเบาะหนังสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดงแบบสปอร์ตปรับด้วยระบบไฟฟ้าด้านคนขับ 8 ทิศทาง แป้นเบรกและแป้นคันเร่งสไตล์สปอร์ต พวงมาลัยสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง เบาะนั่งด้านหลังพับแบบ 60:40 ที่สามารถปรับพับได้หลากหลายเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้อย่างสูงสุด โดยสามารถปรับเปลี่ยนได้ 3 รูปแบบ พร้อมห้องสัมภาระท้ายขนาดใหญ่ โดยจะพับแบบตอน 2 60:40 พับเรียบแบบ Utility Mode หรือจะพับแบบเพิ่มจุดพับเบาะหน้าด้วย แบบ Long Mode และพับแบบ Tall Mode สามารถยกที่รองนั่งของตอน 2 ขึ้นได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวสูง พร้อมฟังก์ชั่นต่างๆได้แก่ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) ลำโพง 8 ตำแหน่ง ไฟอ่านหนังสือด้านหลังแบบ LED เปิด-ปิดแบบสัมผัส แผ่นกั้นห้องสัมภาระท้าย ช่องเชื่อมต่อ USB จำนวน 4 ช่อง พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา พร้อมระบบ Air Diffusion System พร้อมด้วยช่องปรับอากาศตอนหลัง
ขุมพลังรักษ์โลกทั้ง 2 รุ่น
ด้วยความบังเอิญหรือว่าพรหมลิขิตเอสยูวีทั้ง 2 รุ่นจำหน่ายด้วยขุมพลังเบนซิน Hybrid ไร้ขุมพลังเครื่องยนต์สันดาปทั้งคู่ เริ่มที่ Haval Jolion Hybrid รุ่น ULTRA มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินธรรมดาไร้ Turbo 1.5 ลิตร โดยภาคเครื่องยนต์ให้กำลังมากสุด 95 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 125 นิวตันเมตรที่ 4,400-5,200 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า โดยภาคมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังมากสุด 156 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร โดยเมื่อทำงานร่วมกันจะได้พลังมากสุด 190 แรงม้า แรงบิด 375 นิวตันเมตร พร้อมระบบเกียร์แบบ DHT ขับเคลื่อนล้อหน้า คาดว่าการทำงานของเกียร์คล้ายกับรุ่นพี่ Haval H6 Hybrid โดยเกียร์ DHT มี 2 ระบบเกียร์ (1 ระบบเกียร์ที่ด้านเครื่องยนต์และอีก 1 ระบบเกียร์ที่ด้านมอเตอร์ขับเคลื่อน) และโหมดการขับขี่เลือกได้ถึง 4 โหมดทั้งโหมด Standard, Sport, Eco และ Snowfield
ส่วน Honda HR-V e:HEV รุ่นท็อปสุด RS กับ เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle รหัส LEB-H5 108 แรงม้าที่ 6,000-6,400 รอบ/นาที แรงบิด 127 นิวตันเมตรที่ 4,500-5,000 รอบ/นาที และให้กำลังรวมสูงสุด 131 แรงม้าที่ 4,000-8,000 รอบ/นาที แรงบิด 253 นิวตันเมตรที่ 0-3,500 รอบ/นาที พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า E-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า โดยระบบ Full Hybrid ของ Honda HR-V e:HEV รุ่น RS ผสานการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว โดยตัวแรกทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า และตัวที่สองทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ และชุดหน่วยควบคุมอัจฉริยะ ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ซึ่งมีน้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัด สามารถเก็บประจุไฟ และชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่โดยอัตโนมัติ ในขณะขับขี่และโหมดการขับขี่ Drive Mode ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้อย่างง่ายดายตามความต้องการ ซึ่งมีให้เลือก 3 โหมด ได้แก่ ECON Mode Normal Mode และ Sport Mode และการขับขี่ของระบบเครื่องยนต์ยังมีอีก 3 โหมด ทั้งโหมด EV Drive Mode โหมด Hybrid Drive Mode และโหมด Engine Drive Mode
รวมถึงช่วงล่างทั้งสองรุ่นใช้ด้านหน้าแบบ อิสระแม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลงและด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีมพร้อมเหล็กกันโคลง ยกเว้น HR-V ที่ไม่มีเหล็กกันโคลงในด้านหลัง ส่วนพวงมาลัยพาวเวอร์ทั้ง 2 รุ่นเป็นแบบไฟฟ้า
ความปลอดภัยครบทั้งคู่
Haval Jolion Hybrid รุ่น ULTRA อาจได้รับมรดกความปลอดภัยมาจากรุ่นพี่ Haval H6 Hybrid มาเกือบทั้งหมด กับระบบอัจฉริยะระบบการช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัย (Driver Assistance and Safety Systems) สำหรับการขับขี่แบบอัตโนมัติในระดับ 2+ เริ่มที่ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) มาพร้อมกล้องติดรถยนต์ ADAS ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ (ICA) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA) ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK) ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS) การเข้าโค้งอัจฉริยะ เมื่อระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) ระบบตรวจจับและตีความหมายป้ายจราจร (TSR) กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ (IAP) ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA) ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู (DOW)
พร้อมระบบความปลอดภัย อื่นๆตั้งแต่ ระบบควบคคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (VSC) ,ระบบช่วยลงทางลาดชัน (HDC), ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA), ระบบป้องกันการไหลของรถโดยการเบรกอัตโนมัติ (AVH), ระบบช่วยเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรก (HBA), ระบบลดความเสี่ยงที่จะพลิกคว่ำ (ARS), ระบบตรวจความดันลมยาง (TPMS) , ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดอัยสายตาขณะถอยหลัง (RCTA), ระบบช่วยเตือนความเมื่อยล้าขณะขับขี่ (DFM), ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSD), ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)และถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง
Honda HR-V e:HEV รุ่น RS พกระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda Sensing โดยทำงานร่วมกับกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ทั้งระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS) ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF) ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC) ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมเตือนผู้โดยสารด้านหลัง ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง ระบบเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า พร้อมอัตราทดเกียร์แบบแปรผัน กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง รอบคัน ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
สีตัวถังและราคารถ
Haval Jolion Hybrid รุ่น ULTRA มีสีคล้ายกับรุ่นพี่ Haval H6 Hybrid ถึง 5 สี ได้แก่ สีเทา Ayers Gray, สีน้ำเงิน Swarovski Blue, สีขาว Hamilton White, Burgundy Red (สีแดง)และสีดำ Sun Black ส่วนราคาจำหน่ายอาจอยู่ที่ 1,059,000 บาท (สเปกไทยขาย 3 รุ่นย่อย ทั้งรุ่น TECH, PRO และ ULTRA) โดยจะประกาศราคา 25 พฤศจิกายนนี้
Honda HR-V e:HEV รุ่น RS มีสีภายนอกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีใหม่ สีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก) และสีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) พร้อมด้วยสีขาวแพลทินัม (มุก) และ สีดำคริสตัล (มุก) และ พิเศษสำหรับสีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) ที่มาพร้อมหลังคาสีดำสไตล์ทูโทน ส่วนราคาจำหน่าย คาดการณ์ว่าจะราคาต่ำกว่า 1,200,000 บาท โดยจะเผยราคาจริง 19 พฤศจิกายนนี้
ศึกรถยนต์เอสยูวีพลังติดถ่านก้อนเล็ก ที่นับว่าให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมากเพราะทั้งคู่ใหม่หมด หน้าตาใหม่ แถมพลัง Hybrid ทาง Haval Jolion กลับให้กำลังสูงสุดกว่า Honda HR-V และแรงสุดในกลุ่มรถยนต์เอสยูวีขนาดกลาง Full B-SUV หรือ Entry C-SUV แถมราคาทั้งสองรุ่นยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ ทำให้เป็นปัจจัยที่ทำให้สาวกต้องครุ่นคิดแล้วว่าจะเลือกใครดี เจ้าหนึ่งที่เป็นผู้บุกเบิกตลาดรถกลุ่มนี้จนออกมาเป็นเจนที่สอง ส่วนอีกเจ้าเป็นผู้ท้าชิงหน้าใหม่ งานนี้การสัมผัสตัวจริงและทดลองขับเป็นปัจจัยต้นๆที่ทำให้สามารถตัดสินใจจรดปากกาจองรถได้เร็วขึ้น ขอให้โชคดีในการตัดสินใจเลือกรถดีๆสักคันนะครับ