หลังจากกวายอดจองไปกว่า 10,000 คัน ช่วงเปิดตัววันแรกที่งาน Shanghai Auto Show 2023 พร้อมเปิดราคาขายล่วงหน้าสำหรับ BYD Seagull
ล่าสุด BYD ประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการกับเจ้านางนวล BYD Seagull Hatchback ทรงเล็กว่า BYD Dolphin เท่ด้วยไฟหน้า LED พร้อมตรา BYD ขนาดใหญ่รับกับชุดกันชนหน้าที่มีช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ด้านข้างมาพร้อมเส้นสายทันสมัยออกแบบกระจกบานหน้าบานหลังเล่นระดับพร้อมที่เปิดประตูแบบยกก้านดีไซน์คล้ายรถยุค 90 ล้อมีให้เลือกทั้งแบบอัลลอยสีทูโทนและกระทะล้อพร้อมฝาครอบทั้งขนาด 15 นิ้วพร้อมยาง 165/65R15 และ 16 นิ้วพร้อมยาง 175/55R16 ด้านท้ายเล็กตามตัวรถด้วยไฟท้าย LED แนวยาวใต้ไฟท้ายติดโลโก้ Build Your Dreams ชื่อรุ่นเป็นภาษาจีนกับชุดกันชนหลังติดตั้งป้ายทะเบียนรถใต้ฝาท้ายสร้างจากแพลตฟอร์ม e-platform 3.0
ภายในมีความคล้ายกับ BYD Dolphin ในส่วนของแผงตคอนโซลหน้าแต่ปรับในส่วนช่องแอร์ของแผงคอนโซลหน้าซ้าย-ขวา ตรงกลางใต้แผงจอสัมผัส เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวนอนไม่ใช่ทรงกลม เบาะนั่ง Bucket Seat ทรงสปอร์ต พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน จอในส่วนของอุปกรณ์ Infotainment ใหญ่เต็มตาด้วยขนาด 12.8 นิ้ว พร้อมช่องเสียบ USB 4 จุด มาตรวัดดิจิทัล 5 นิ้ว เบาะนั่งคนขับปรับธรรมดาแบบ 6 ทิศทาง และคนนั่ง 4 ทิศทาง เบาะหลังสามารถพับได้ในอัตราส่วน 40:60 และกุญแจแบบ Keyless Entry และ Keyless Start
ขุมพลังไฟฟ้านั้นให้กำลังมากสุด 74 แรงม้า แรงบิด 135 นิวตันเมตร เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้ารุ่น TZ180XSH แถมให้ความเร็วสูงสุด 130 กม./ชม. มีความจุแบตเตอรี่ถึง 2 รูปแบบทั้ง 30.08 kWh และ 38.88 kWh โดยวิ่งไกลสุด 305 และ 405 กม./ชาร์จหนึ่งครั้งตามลำดับ ตามมาตรฐาน CLTC โดยชาร์จเร็ว DC 10-80% ในเวลา 30 นาที และเป็นการใช้แบตเตอรี่โซเดียม-ไอออน ที่ต้นทุนถูกกว่าแบตนิเกิล-เมทัลไฮไดรด์ และแบตเตอรี่ลิเที่ยมไอออนฟอสเฟต
BYD Seagull จำหน่ายสามรุ่นย่อยโดยเปิดราคาขายอย่างเป็นทางการเริ่ม 73,800-89,800 yuan หรือราว 369,000-445,000 บาทและเป็นว่าที่โปรดักส์โกลบอลลำดับที่ 4 ต่อจาก BYD ATTO 3, BYD SEAL และ BYD Dolphin โดยวางแผนจะขายในไทย, อิสราเอล, นิวซีแลนด์, ออสเตรเลีย, ยุโรป และญี่ปุ่น
ทีมา Autohome