รายงานสถิติการขายรถยนต์ครึ่งแรกของปี 2566 อยู่ที่ 406,131 คัน ลดลง 5.0% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วยังคงอยู่ในภาวะทรงตัว
ประกอบด้วยรถยนต์นั่ง 148,087 คัน เพิ่มขึ้น 9.0% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 258,044 คัน ลดลง 11.4% รถกระบะขนาด 1 ตัน (รวมรถ PPV) มีจำนวน 182,952 คัน ลดลง 19.7% และรถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถ PPV) 149,685 คัน ลดลง 24.5 % เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
โดยมีประเด็นสำคัณตรงที่ถึงตลาดรถยนต์ครึ่งปีแรกมีปัจจัยบวกจากแรงหนุนด้านอุปสงค์ของสภาวะเศรษฐกิจไทยโดยรวมที่เริ่มขยายตัวดีขึ้นในปีนี้รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่มีทิศทางกระเตื้องขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากภาคการท่องเที่ยวที่เริ่มมีการฟื้นตัว ส่งผลให้มีความต้องการใช้รถยนต์มากขึ้น ตลอดจนแรงกระตุ้นจูงใจผู้บริโภคด้วยการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ พร้อมแคมเปญการขายเชิงรุกของบรรดาบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ทั้งหลาย
อย่างไรก็ตามยังคงมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์โดยรวมในช่วงหลังนี้ อันเป็นผลมาจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ภาวะสินเชื่อตึงตัว และความผันผวนทางเศรษฐกิจในช่วงของการเลือกตั้ง ซึ่งก่อให้เกิดการชะลอการตัดสินใจซื้อทั้งจากภาคธุรกิจและภาคประชาชน ที่ต่างเฝ้ารอความชัดเจนในการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่มีต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวม
สำหรับแนวโน้มตลาดรถยนต์ของปี 2566 ด้วยเหตุปัจจัยในหลาย ๆ ด้าน ทั้งการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวที่ทำให้การบริโภคของภาคเอกชนและภาคบริการมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลดลง การสนับสนุนการลงทุนจากทั้งภาครัฐและเอกชนในโครงการต่าง ๆ ตลอดจนการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่และแคมเปญส่งเสริมการขายจากค่ายรถต่าง ๆ ในช่วงครึ่งปีหลัง จะส่งผลต่อทิศทางของเศรษฐกิจและตลาดรถยนต์โดยรวม
เชื่อว่าเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังนี้น่าจะยังคงฟื้นตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ดังนั้นจึงคาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ในปี 2566 จะอยู่ที่ 855,000 คัน เพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา” ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 316,900 คัน เพิ่มขึ้น +19.6 % รถเพื่อการพาณิชย์ 538,100 คัน ลดลง -7.9 %
สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – มิถุนายน 2566
1.) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 406,131 คัน ลดลง 5.0%
- อันดับที่ 1 โตโยต้า 136,859 คัน ลดลง 3.6% ส่วนแบ่งตลาด 33.7%
- อันดับที่ 2 อีซูซุ 86,281 คัน ลดลง 21.5% ส่วนแบ่งตลาด 21.2%
- อันดับที่ 3 ฮอนด้า 46,134 คัน เพิ่มขึ้น 14.9% ส่วนแบ่งตลาด 11.4%
- อันดับที่ 4 ฟอร์ด 20,128 คัน เพิ่มขึ้น 34.8% ส่วนแบ่งตลาด 5.0%
- อันดับที่ 5 มิตซูบิชิ 19,835 คัน ลดลง 27.8% ส่วนแบ่งตลาด 4.9%
2.) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 148,087 คัน เพิ่มขึ้น 9.0%
- อันดับที่ 1 โตโยต้า 51,041 คัน เพิ่มขึ้น 31.2% ส่วนแบ่งตลาด 34.5%
- อันดับที่ 2 ฮอนด้า 30,425 คัน เพิ่มขึ้น 2.9 % ส่วนแบ่งตลาด 20.5%
- อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 9,578 คัน ลดลง 14.3% ส่วนแบ่งตลาด 6.5%
- อันดับที่ 4 เอ็มจี 8,447 คัน เพิ่มขึ้น 4.4% ส่วนแบ่งตลาด 5.7 %
- อันดับที่ 5 เนต้า 6,042 คัน ส่วนแบ่งตลาด 4.3%
3.) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 258,044 คัน ลดลง 11.4%
- อันดับที่ 1 อีซูซุ 86,281 คัน ลดลง 21.5% ส่วนแบ่งตลาด 33.4%
- อันดับที่ 2 โตโยต้า 85,818 คัน ลดลง 16.8% ส่วนแบ่งตลาด 33.3%
- อันดับที่ 3 ฟอร์ด 20,117 คัน เพิ่มขึ้น 35.0% ส่วนแบ่งตลาด 7.8%
- อันดับที่ 4 ฮอนด้า 15,709 คัน เพิ่มขึ้น 48.4 % ส่วนแบ่งตลาด 6.1%
- อันดับที่ 5 บีวายดี 11,167 คัน ส่วนแบ่งตลาด 4.3%
4.) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 182,952 คัน ลดลง 19.7%
- อันดับที่ 1 อีซูซุ 78,633 คัน ลดลง 22.5% ส่วนแบ่งตลาด 43.0%
- อันดับที่ 2 โตโยต้า 70,544 คัน ลดลง 20.9% ส่วนแบ่งตลาด 38.6%
- อันดับที่ 3 ฟอร์ด 20,117 คัน เพิ่มขึ้น 35.0% ส่วนแบ่งตลาด 11.0%
- อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ 10,194 คัน ลดลง 36.9% ส่วนแบ่งตลาด 5.6%
- อันดับที่ 5 นิสสัน 2,361 คัน ลดลง 40.5% ส่วนแบ่งตลาด 1.3%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง PPV 33,267 คัน เพิ่มขึ้น 12.4%
- อันดับที่ 1 อีซูซุ 11,953 คัน เพิ่มขึ้น 31.4% ส่วนแบ่งตลาด 35.9%
- อันดับที่ 2 โตโยต้า 11,762 คัน ลดลง 12.7% ส่วนแบ่งตลาด 35.4%
- อันดับที่ 3 ฟอร์ด 6,270 คัน เพิ่มขึ้น 179.2% ส่วนแบ่งตลาด 18.8%
- อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ 2,593 คัน ลดลง 37.6% ส่วนแบ่งตลาด 7.8%
- อันดับที่ 5 นิสสัน 689 คัน เพิ่มขึ้น 10.2% ส่วนแบ่งตลาด 2.1%
5.) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 149,685 คัน ลดลง 24.5%
- อันดับที่ 1 อีซูซุ 66,680 คัน ลดลง 27.8% ส่วนแบ่งตลาด 44.5%
- อันดับที่ 2 โตโยต้า 58,782 คัน ลดลง 22.4% ส่วนแบ่งตลาด 39.3%
- อันดับที่ 3 ฟอร์ด 13,847 คัน เพิ่มขึ้น 9.4% ส่วนแบ่งตลาด 9.3%
- อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ 7,601 คัน ลดลง 36.7% ส่วนแบ่งตลาด 5.1%
- อันดับที่ 5 นิสสัน 1,672 คัน ลดลง 50.0% ส่วนแบ่งตลาด 1.1%
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมิถุนายน 2566
- ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 64,440 คัน ลดลง 5.2%
- อันดับที่ 1 โตโยต้า 20,877 คัน ลดลง 0.7% ส่วนแบ่งตลาด 32.4%
- อันดับที่ 2 อีซูซุ 12,505 คัน ลดลง 37.9% ส่วนแบ่งตลาด 19.4%
- อันดับที่ 3 ฮอนด้า 7,067 คัน เพิ่มขึ้น 60.8% ส่วนแบ่งตลาด 11.0%
- อันดับที่ 4 ฟอร์ด 3,217คัน เพิ่มขึ้น 16.6% ส่วนแบ่งตลาด 5.0%
- อันดับที่ 5 มิตซูบิชิ 3,010 คัน ลดลง 37.5% ส่วนแบ่งตลาด 4.7%
- ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 24,333 คัน เพิ่มขึ้น 24.2%
- อันดับที่ 1 โตโยต้า 7,411 คัน เพิ่มขึ้น 26.0% ส่วนแบ่งตลาด 30.5%
- อันดับที่ 2 ฮอนด้า 4,441 คัน เพิ่มขึ้น 76.4% ส่วนแบ่งตลาด 18.3%
- อันดับที่ 3 เอ็มจี 1,661 คัน เพิ่มขึ้น 15.7% ส่วนแบ่งตลาด 6.8 %
- อันดับที่ 4 เนต้า 1,384 คัน ส่วนแบ่งตลาด 5.7%
- อันดับที่ 5 มิตซูบิชิ 1,351 คัน ลดลง 34.7% ส่วนแบ่งตลาด 5.6%
- ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 40,107 คัน ลดลง 17.1%
- อันดับที่ 1 โตโยต้า 13,446 คัน ลดลง 11.1% ส่วนแบ่งตลาด 33.6%
- อันดับที่ 2 อีซูซุ 12,505 คัน ลดลง 37.9% ส่วนแบ่งตลาด 31.2%
- อันดับที่ 3 ฟอร์ด 3,215 คัน เพิ่มขึ้น 16.7% ส่วนแบ่งตลาด 8.0%
- อันดับที่ 4 ฮอนด้า 2,626 คัน เพิ่มขึ้น 39.9 % ส่วนแบ่งตลาด 6.5%
- อันดับที่ 5 บีวายดี 1,857 คัน ส่วนแบ่งตลาด 4.6%
- ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 27,339 คัน ลดลง 27.3%
- อันดับที่ 1 อีซูซุ 11,100 คัน ลดลง 40.5% ส่วนแบ่งตลาด 40.6%
- อันดับที่ 2 โตโยต้า 10,803 คัน ลดลง 14.5% ส่วนแบ่งตลาด 39.5%
- อันดับที่ 3 ฟอร์ด 3,215 คัน เพิ่มขึ้น 16.7% ส่วนแบ่งตลาด 11.8%
- อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ 1,653 คัน ลดลง 39.3% ส่วนแบ่งตลาด 6.0%
- อันดับที่ 5 นิสสัน 410 คัน ลดลง 16.2% ส่วนแบ่งตลาด 1.5%
ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง PPV: 5,200 คัน เพิ่มขึ้น 24.2%
- อันดับที่ 1 อีซูซุ 2,007 คัน เพิ่มขึ้น 28.3% ส่วนแบ่งตลาด 38.6%
- อันดับที่ 2 โตโยต้า 1,561 คัน เพิ่มขึ้น 7.4 % ส่วนแบ่งตลาด 30.0%
- อันดับที่ 3 ฟอร์ด 1,164 คัน เพิ่มขึ้น 193.9% ส่วนแบ่งตลาด 22.4%
- อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ 303 คัน ลดลง 54.8% ส่วนแบ่งตลาด 5.8%
- อันดับที่ 5 นิสสัน 165 คัน เพิ่มขึ้น 63.4% ส่วนแบ่งตลาด 3.2%
- ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 22,139 คัน ลดลง 33.8%
- อันดับที่ 1 โตโยต้า 9,242 คัน ลดลง 17.3% ส่วนแบ่งตลาด 41.7%
- อันดับที่ 2 อีซูซุ 9,093 คัน ลดลง 46.7% ส่วนแบ่งตลาด 41.1%
- อันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,051 คัน ลดลง 13.1% ส่วนแบ่งตลาด 9.3%
- อันดับที่ 4 มิตซูบิชิ 1,350 คัน ลดลง 34.1 % ส่วนแบ่งตลาด 6.1%
- อันดับที่ 5 นิสสัน 245 คัน ลดลง 36.9% ส่วนแบ่งตลาด 1.1%