หลังปรับเปลี่ยนการบริหารมาเป็นเกาหลีดูแลโดยตรงสำหรับ Hyundai ภายใต้ Hyundai Mobility Thailand เริ่มมีความชัดเจนในการทำตลาด
รวมถึงการนำเสนอยนตกรรมหลากรูปแบบตอบโจทย์คนไทยที่รักความโมเดิร์น ความทันสมัย ตั้งแต่รถอเนกประสงค์ไปจนถึงรถยนต์ไฟฟ้าล่าสุดเพิ่มทางเลือกใหม่สำหรับ Hyundai Staria MY2023 ลักชัวรีแวนดีไซน์ล้ำกับการเพิ่มรุ่น Premium ไม่มีหลังคาซันรูฟคู่ Dual Sunroof ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าแต่ทุกอย่างเหมือนรุ่น Premium Sunroof ทุกประการตั้งแต่ แผงไฟหน้า Projector แบบ Full LED ใหม่พร้อมระบบเปิด ปิด อัตโนมัติ ดีไซน์ Brass Chrome ทองแดง สำหรับตัวถังสีดำและ Dark Chrome รมดำ สำหรับตัวถังสีขาวและสีใหม่สีเทา ตกแต่งในกระจังหน้าและชุดแต่งรอบคันกันชนด้านหน้าและหลัง
ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 235/55R18 กระจกบังลมด้านหน้าลดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร เพิ่มความหรูหรา พร้อมไฟ DRL แบบ LED ไฟท้าย LED แบบ Parametric Pixel ดีไซน์ในแบบตาราง ๆ กันชนท้ายตั้งอยู่ในระดับต่ำช่วยให้ขนสัมภาระเข้า-ออก และ กระจกบานหน้าใหญ่ ลาดเอียงไปถึงแนวหลังคาด้านบน และระยะโอเวอร์แฮงค์ด้านหน้าดูสั้นลงกว่าเดิม
ภายในหรูขึ้นด้วยการตกแต่งด้วยวัสดุ Suade ไฟเรืองแสงในห้องโดยสารปรับได้ถึง 10 แบบ ที่เปิดประตูคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า แป้นคันเร่งและเบรก ตกแต่งด้วยโครเมียมและอลูมิเนียม ชุดแต่งบันไดข้างดีไซน์พิเศษสัญลักษณ์ Staria ชุดเครื่องเสียง BOSE ลำโพง 12 ตำแหน่ง มอบความสะดวกสบายและสุนทรียภาพทุกการเดินทางแบบ 11 ที่นั่ง เบาะนั่งแถวที่สองนั่งได้สามที่นั่งเพิ่มที่วางแขนและที่วางแก้วน้ำ
พร้อมออปชันเดิมทั้งเบาะนั่งคนขับปรับด้วยระบบไฟฟ้า 12 ทิศทางพร้อมดันหลัง มาตรวัดดิจิตอลขนาดใหญ่ 10.25 นิ้ว ติดตั้งบริเวณด้านบนของแผงคอนโซล หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้วติดตั้งบริเวณคอนโซลกลาง รองรับ Apple CarPlay / Android Auto แบบไร้สาย สวิตช์เปลี่ยนเกียร์ระบบไฟฟ้า พร้อมระบบชาร์จมือถือไร้สาย (Wireless Charger) และช่องเสียบ USB 7 ช่อง เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Brake Hold กุญแจรีโมทพร้อม Smart Keyless Entry และสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยกุญแจ Remote Engine Start
ขุมพลังแรงด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผัน VGT 2.2 ลิตร รหัส D4HB 177 แรงม้าที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิด 431 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด แบบปุ่มกด Shift-by-Wire พร้อม Paddle Shift ขับเคลื่อนล้อหน้าใช้ช่วงล่างแบบมัลติ-ลิงค์ด้านหลัง เพิ่มความนุ่มนวล พร้อมความปลอดภัย Hyundai Smart Sense อาทิ ระบบช่วยเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Forward Collision Avoidance Assist ช่วยเตือนและช่วยควบคุมพวงมาลัยเมื่ออยู่ในจุดอับสายตา Blind-Spot Collision-Avoidance Assist ช่วยเตือนและเบรกอัตโนมัติขณะถอยรถ Rear Cross-traffic Collision Avoidance Assist
ช่วยเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติที่ทางแยก Forward Collision-Avoidance Assist Junction Turning Function ช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ Driving Attention Warning ป้องกันการออกจากรถ เมื่อมีรถวิ่งมาด้านข้าง Safe Exit Assist ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keeping Assist ควบคุมรถให้อยู่กลางเลน Lane Following Assist แจ้งเตือนผู้โดยสารด้านหลัง Rear Occupant Alert กล้องมองรอบทิศทางและจุดอับสายตา ระบบแจ้งความดันลมยางอัตโนมัติ TPMS
พร้อมออปชันมาตรฐานทุกรุ่นอาทิ แจ้งเตือนผู้โดยสารด้านหลัง Rear Occupant Alert ถุงลมนิรภัยจำนวน 6 ตำแหน่ง เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุดครบ 11 ที่นั่ง จุดติดตั้งคาร์ซีทสำหรับเด็ก (ISOFIX) 2 จุด ควบคุมเสถียรภาพ ESC ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill-start Assist Control ควบคุมเสถียรภาพเมื่อมีลมปะทะข้างตัวรถ CSC ช่วยหยุดรถเมื่อเกิดอุบัติเหตุ Multi Collision Brake และเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา Blind-Spot Collision Warning
Hyundai Staria Premium MY2023 มีสีภายนอกให้เลือก 2 สีคือ สีดำ Abyss Black Pearl แต่งชุด Brass chrome สีขาว Creamy White แต่งชุด Dark chrome และสีใหม่สีเทา Graphite Gray Metallic แต่งชุด Dark chrome ทั้งสามสีภายในสีดำกับราคาใหม่ 2,329,000 บาท ขายควบคู่กับรุ่น Premium Sunroof ราคา 2,399,000 บาท
และยังมีการเปลี่ยนชื่อรุ่นใหม่ย่อยใหม่ของ Hyundai Staria MY2023 แต่ออปชันคงเดิมเริ่มที่รุ่น S เป็นชื่อใหม่ Trend ในราคาเดิม 1,799,000 บาท และรุ่น SEL เปลี่ยนชื่อเป็น Style ในราคาเดิม 2,099,000 บาท พร้อมสีภายนอก 3 สีคือ – สีดำ Abyss Black Pearl สีเทา Graphite Gray Metallic และสีเงิน Shimmering Silver Metallic ส่วนสีภายในมีให้เลือก 2 สีคือ สีดำ-เบจ เฉพาะสีภายนอกรถสีดำ และสีดำ เฉพาะสีภายนอกสีเทาและสีเงิน