ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากแดนกิมจิอย่าง KIA ตามรอยค่ายรถแดนมังกรมีแผนที่จะลงทุนเตรียมสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทย
โดยทางกรุงเทพธุรกิจรายงานจากแหล่งข่าวว่าทาง KIA Corporation ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากเกาหลีใต้ มีแผนที่จะสร้างโรงงานผลิตรถไฟฟ้าในประเทศไทยโดยมีกำลังการผลิต 250,000 คันต่อปี โดยโรงงานดังกล่าวจะเป็นแห่งแรกในอาเซียนโดยจะเป็นฐานการผลิตในต่างประเทศแห่งที่ 6 ต่อจากสหรัฐ จีน อินเดีย สโลวาเกีย เม็กซิโก และอาจเป็นโรงงานที่ KIA ลงทุนเอง
ยังเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีที่จะสร้างโรงงานในไทยหลังจากโรงงานผลิตรถยนต์ที่อินเดียเกิดขึ้นในปี 2019 โดย KIA และรัฐบาลไทยจะมีลงนามข้อตกลงก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ภายในปีนี้ จะเริ่มก่อสร้างในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 สอดรับกับการที่ไทยมีนโยบายสนับสนุนการผลิตรถยนต์ EV ในประเทศ และรถยนต์รุ่นแรกที่จะขึ้นสายการผลิตในไทยนั่นก็คือ KIA EV6 รถอีวีรุ่นเรือธงของค่าย
KIA EV6 คอมแพ็คเอสยูวีปราดเปรียวล้ำยุคแบบหลังคาท้ายลาด สวยตั้งแต่ กระจังหน้าทรงทึบสีเข้มขนาบข้างกับไฟหน้า LED พร้อมไฟ DRL LED รูปตัววีในโคมเดียวกันลงตัวด้วยชุดกันชนหน้าดีไซน์เท่ ล้ออัลลอยลายเท่ขนาด 19 นิ้วพร้อมยาง 235/55R19 จาก Kumho Nexen และขนาด 20 นิ้วพร้อมยาง 255/45R20 จาก Continental ไฟท้าย LED แนวยาวเรียวรูปตัวยูคว่ำ กับกันชนหลังรูปตัววี กับสปอยเลอร์บนกระจกหลังดีไซน์ดุดัน เสาอากาศครีบฉลาม ฝาท้ายเปิดปิดด้วยระบบไฟฟ้าและหลังคาซันรูฟ
ตัวรถสร้างจากพื้นฐาน E-GMP หรือ Electric Global Modular Platform ร่วมกับเพื่อนร่วมชายคาทั้ง Hyundai IONIQ 5 Hyundai IONIQ 6 และ Genesis GV60 ตั้งแต่ความยาว 4,680-4,695 มม. ความกว้าง 1,880-1,890 มม. ความสูง 1,550 มม. ฐานล้อ 2,900 มม. ความสูงจากใต้ท้องรถ 160 มม. และน้ำหนักรถ 2,000-2,105 กก.
ภายในครบครันตั้งแต่พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 2 ก้าน, จอแสดงผลขนาดใหญ่สองจอ หรือ Panoramic curved display อยู่ในตำแหน่งลอยตัวประกอบด้วยมาตรวัดดิจิตอล 12.3 นิ้ว และจอสัมผัสขนาดใหญ่ควบคุมระบบความบันเทิงขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Android Auto, Apple CarPlay อัปเดทซอฟท์แวร์แบบ OTA จัดวางแบบลอยตัวควบรวมไว้ในกรอบเดียวกัน ถัดลงมาเป็นปุ่มควบคุมการทำงานของจอสัมผัสทั้ง เครื่องปรับอากาศ และระบบความบันเทิงแบบ Intuitive digital controls ปุ่มสตาร์ทรถและปุ่มเกียร์ทรงกลม ดีไซน์ล้ำ พร้อมปุ่ม Auto Hold ลำโพงคุณภาพ Meridian 14 จุด ที่ชาร์จมือถือไร้สาย จอแสดงข้อมูลการขับขี่บนแผงคอนโซลหน้า HUD ไฟสร้างบรรยากาศ ambient light มากถึง 64 สี เครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวาพร้อมแอร์หลัง มีระบบอุ่นเบาและยังสามารถสั่งสตาร์ทรถในระยะไกลได้ Remote Smart Parking
ขุมพลังไฟฟ้ามีทั้งแบบมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ขับเคลื่อนล้อหลัง 228 แรงม้า ที่ 4,600–9,200 รอบ/นาที แรงบิด 350 นิวตันเมตรที่ 0-2,600 รอบ/นาที ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 7.3 วินาที วิ่งไกลสุด 504 และ 528 กม./ชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน WLTP ความเร็วสูงสุด 185 กม./ชม.
แบบมอเตอร์ไฟฟ้าคู่แบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD 101 แรงม้า แรงบิด 255 นิวตันเมตร ในส่วนล้อหน้าและ 224 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร ในส่วนล้อหลัง เมื่อทำงานร่วมกันได้แรงม้าสูงถึง 325 แรงม้าที่ 6,800-9,000 รอบ/นาที แรงบิด 605 นิวตันเมตรที่ 0-4,000 รอบ/นาที ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 5.2 วินาที วิ่งไกลสุด 484 กม./ชาร์จหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP
และรุ่น EV6 GT 585 แรงม้าที่ 6,800-9,000 รอบ/นาที แรงบิด 740 นิวตันเมตรที่ 0-4,200 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 3.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 260 กม./ชม. วิ่งไกลสุด 405 กม./ชาร์จหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 1 speed Reduction Gear โดยทั้งคู่มีความจุแบตเตอรี่ Li-ion Battery 77.4 kWh
ด้านการชาร์จหัวชาร์จแบบ CCS Type 2 มีทั้งแบบกระแสตรง DC ชาร์จเร็ว 10-80% รองรับกำลังไฟในการชาร์จสูงสุด 50 kW ชาร์จเร็ว 73 นาที และรองรับกำลังไฟในการชาร์จสูงสุด 350 kW ในเวลา 18 นาที ส่วนการชาร์จกระแสสลับ AC ชาร์จช้า รองรับกำลังไฟในการชาร์จสูงสุด 11 kW 7.20 ชั่วโมงและยังชาร์จ V2L สามารถต่อกระแสไฟ จากรถยนต์ไปพ่วงใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆได้
เกี่ยวกับประเด็นการลงทุนในไทยอาจมีผลกระทบต่อการทำตลาดในไทยของ ยนตรกิจ เกีย มอเตอร์ ตัวแทนจำหน่ายรายปัจจุบันหรือไม่ล่าสุดได้สอบถามกับทางทีมประชาสัมพันธ์ฯ โดยให้คำตอบว่า “ขึ้นอยู่กับอนาคตของทาง KIA Corporation ว่าจะลงมาทำตลาดเองหรือไม่” และจากความเห็นของทีมงาน Car2Day เกี่ยวกับประเด็นนี้มีความเป็นไปได้สูงว่าทาง KIA เตรียมที่จะทำตลาดในไทยด้วยตัวเองลักษณะคล้ายกับ Hyundai พี่น้องบ้านเดียวกันในนาม Hyundai Mobility ประเทศไทย แต่จะทำตลาดช่วงปีหน้าตามการลงนามสร้างโรงงานหรือไม่ต้องติดตาม
ที่มา Bangkokbiznews
