หลังปล่อยภาพทีเซอร์ที่เห็นทั้งด้านท้ายและด้านข้างปกันไปแล้วสำหรับ Mazda CX-90 เอสยูวีเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มประเทศอเมริกา
ล่าสุด Mazda USA เผยภาพทีเซอร์ชุดใหม่ที่เห็นส่วนหน้าแต่จะอยู่ในเงาสีดำถึงปิดมิดแต่ก็พอมองเห็นหน้าตาอยู่บ้างตั้งแต่ กระจังหน้าทรงซิกเนเจอร์วิง ไฟหน้า Projector แบบ LED ไฟท้าย LED Signature ที่ขนาดเล็กลงและสง่างามขึ้น ชุดบังโคลนพร้อมดีไซน์ออกแบบด้วยชุดรังผึ้งส่วนล่างเป็นคิ้วโครเมียมปักชื่อ INLINE 6 พร้อมตราสัญลักษณ์ e-SKYACTIV PHEV
เพื่อบ่งบอกว่าคันนี้คือเอสยูวีพลังเสียบปลั๊ก หรือ Plug In Hybrid (PHEV) รุ่นแรกของค่าย Mazda ที่ทำตลาด บอดี้ตัวถังนั้นอาจใหญ่และกว้างกว่า Mazda CX-60
ภายในอาจคล้ายกับ Mazda CX-60 ด้วยมาตรวัดดิจิทัล TFT-LCD 12.3 นิ้ว จอสัมผัสขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว พร้อมระบบ Mazda Connect infotainment รองรับ Apple Car Play ไร้สาย Android Auto ผ่านปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander จอแสดงการขับขี่บนแผงคอนโซลหน้า Windshield Active Driving Display ขนาดใหญ่กว่าถึง 3 เท่า พร้อมพื้นที่การขนของมากถึง 477 ลิตร ในรุ่น PHEV กับ 570 ลิตร และเมื่อพับเบาะหลังลงมีพื้นที่ถึง 1,726 ลิตร แบบ 5 ที่นั่ง
ขุมพลังสำหรับตลาดอเมริกามีตั้งแต่เบนซินเทอร์โบล้วน SKYACTIV-G 3.3 ลิตร 6 สูบ ให้กำลัง 345 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่สุดที่ Mazda คิดค้นพัฒนามาและอาจมาใส่ใน Mazda CX-60 อีกด้วย แต่อาจตัดทอนเหลือ 284 แรงม้า
นอกจากนี้ยังมี e-SKYACTIV PHEV โดยใช้เบนซิน SKYACTIV-G 2.5 ลิตร 4 สูบ รหัส PY-VPS 192 แรงม้า แรงบิด 261 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 175 แรงม้า แรงบิด 270 นิวตันเมตร และแบตเตอรี่ลิเธียมไออนที่มีความจุ 17.8 kWh วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้า 61-63 กม. และทำงานร่วมกันจะได้พลังมากถึง 327 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร
สองความแรงมีทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหลังและแบบขับเคลื่อนสี่ล้อ i-Activ AWD จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-DRIVE 8 สปีด ที่มีโหมดการขับขี่ Mazda Intelligent Drive Select (Mi-Drive) 5 โหมดได้แก่ Namely Normal, Sport, Off-Road, Towing และ EV
Mazda CX-90 ไม่ชัดเจนว่าจะมาแทน Mazda CX-9 หรือจะขายควบคู่กัน โดยเอสยูวีรุ่นใหม่นี้เป็นหนึ่งในห้ารุ่นที่ Mazda ตั้งใจทำรถเอสยูวีให้หลากหลายรูปแบบทั้งแนวลุยและแนวหรู และเป็นรุ่นที่สามที่จะเปิดตัว ต่อจาก Mazda CX-50 และ Mazda CX-60 โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่สหรัฐอเมริกา 31 มกราคม นี้
ที่มา Motor 1
