สำหรับปีกระต่ายนี้ MG พร้อมที่จะเปิดตัวรถใหม่ทั้งพลังไฟฟ้าล้วนและสันดาปออกสู่ตลาดเมืองไทยโดยนอกจาก MAXUS MIFA 9 หรือ MG G90 EV แล้ว
ยังมีรถแวก้อนไฟฟ้าล้วนที่มีแนวโน้มจะปรับโฉมนั่นคือ MG EP รุ่นปรับโฉมปรับโฉมครั้งแรกในรอบเกือบสามปี หล่อทันสมัยจากกระจังหน้าทรงทึบปรับขนาดให้เล็กลงขนาบข้างด้วยไฟหน้า Projector แบบ LED ออกแบบช่องเสียบใหม่ที่มองเห็นชัดเจนขึ้นในชุดกันชนหน้าทรงสปอร์ตแบบสามเหลี่ยม โลโก้ MG ย้ายไปอยู่บนฝากระโปรงหน้าแล้ว
ด้านข้างยังคงเดิมเพิ่มเติมด้วยล้ออัลลอยลายใหม่ทูโทนทั้งแบบ 16 นิ้ว พร้อมยาง 205/60R16 และขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/50R17 ด้านท้ายใหม่ด้วยไฟท้าย LED คิ้วโครเมียมเส้นเล็กเชื่อมกันพร้อมกันชนหลังออกแบบใหม่และมีช่องเล็กๆทรงสามเหลี่ยมคล้ายกับด้านหน้าและราวหลังคา
ภายในเปลี่ยนใหม่หมดชนิดลืมภาพเดิมๆได้เลยกับแผงคอนโซลหน้าดีไซน์ใหม่หมดตั้งแต่มาตรวัดดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว จอสัมผัสขนาดใหญ่ 10.25 นิ้วเชื่อมต่อความบันเทิงเต็มรูปทั้ง Apple Car Play Android Auto Bluetooth กับลำโพง 6จุด พร้อมช่องต่อ USB 4 จุด
รวมถึง i-SMART ทำให้ทุกการเชื่อมต่อในรถมีความง่ายและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ตรวจสอบสถานะรถยนต์ และระบบเตือนความผิดปกติของรถยนต์ขอบเขตอิเล็กทรอนิกส์ สั่งการ ค้นหารถ Find My Car ตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ การชาร์จ และสถานีชาร์จ เป็นต้น เบาะนั่ง 5 ที่นั่ง ที่ตอนหลังสามารถพับได้แบบ 60 :40 เมื่อพับจะมีพื้นที่มากถึง 1,367 ลิตร (ไม่พับเบาะ 479 ลิตร)
สเปกอังกฤษที่จำหน่ายนั้นแบ่งเป็น 2 แบบ ตั้งแต่ความจุ 50.3 kWh 163 แรงม้า แรงบิด 280 นิวตันเมตร วิ่งได้ไกลถึง 320 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตฐาน WLTP และรุ่นแรงสุด มีความจุแบต 61.1 kWh 156 แรงม้า แรงบิด 280 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 400 กม. ตามมาตฐาน WLTP ทั้งสองรุ่นให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 8.3 วินาที
ความเร็วสูงสุด 185 กม./ชม.ชาร์จทั้งสองรุ่นนี้ถ้าชาร์จช้ากระแสสลับ AC ประมาณ 11 ชั่วโมง และชาร์จเร็วกระแสตรง DC 5-80 % ทำได้ 40 นาที พร้อมระบบจ่ายกระแสไฟ V2L (Vehicle to Load) จ่ายพลังงานจากรถสู่อุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น โดยระยะเวลาในการชาร์จ ขึ้นอยู่กับระดับแบตเตอรี่คงเหลือและกำลังของเครื่องอัดประจุไฟฟ้า
แต่ถ้าจำหน่ายในไทยจับตาดูว่ายังใช้ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวด้วยความจุแบตเตอรี่เดิม 50.3 kWh 163 แรงม้า แรงบิด 260 นิวตันเมตรอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ในเวลา 8.8 วินาที ทำให้วิ่งได้ไกลถึง 380 กิโลเมตร
หรืออาจพัฒนาความแรงให้เท่าหรือมากกว่า MG ZS EV 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร สามารถขับขี่ได้ระยะทางสูงสุดถึง 403 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC
เบื่องต้น MG EP รุ่นปรับโฉมจะเปิดตัวในไทยภายในปีนี้ ส่วนค่าตัวจะยังคงเดิม 771,000 บาท (มีราคาปกติ 998,000 บาท ส่วนลดจากมาตรการส่งเสริมจากภาครัฐ 227,000 บาท) หรือไม่ต้องติดตาม