หลังจากเปิดตัวรุ่นปรับโฉมที่หล่อหน้าไม่บึ้งแล้วสำหรับ Toyota Corolla Cross ประเดิมขายด้วยรุ่นเบนซินล้วนตั้งแต่ปีกลายที่สหรัฐอเมริกา
ล่าสุดเพิ่มทางเลือกด้วยขุมพลังไฮบริด HEV ด้วยหน้าตาที่ไม่ต่างจากรุ่นเบนซินตั้งแต่ กระจังหน้าใหม่โดยมีช่องระบายอากาศดีไซน์เรียวเล็ก พร้อมโลโก้สามห่วงพื้นสี้นำเงิน ไฟหน้าแบบ LED กับ Daytime Running Lights LED Light Guiding มาพร้อมระบบควบคุมการเปิด – ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ พร้อม Follow-Me-Home กันชนหน้าทรงสปอร์ตย้ายตำแหน่งไฟตัดหมอกหน้า LED ออกไปอยู่ชอบกันชนหน้า ล้ออัลอลยขนาด ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/60 R17 และ 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/50 R18
ด้านท้ายปรับเปลี่ยนด้วยทั้งไฟท้าย LED Light Guiding สีขาวแดง พร้อมไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED กันชนหลังออกแบบใหม่ ราวหลังคาระบบเปิดประตูอัจฉริยะ (Smart Entry) ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมเซนเซอร์เปิด-ปิดฝาท้ายไฟฟ้าแบบ Kick activated และที่เหนือกว่าด้วยหลังคามูนรูฟแบบไฟฟ้าพาโนรามิก
ภายในปรับใหม่หรูด้วยมาตรวัดพร้อมจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID (Multi Information Display) ขนาด 4.2 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้าน หน้าจอสัมผัส Toyota Audio Multimedia 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สายและ Android Auto และยังสตรีมเพลงจากแอป Amazon Music และ Apple Music เครื่องปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone เย็นสบายทั้งคันพร้อมช่องระบายอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อม SofTex ลดการสะสมความร้อน พนักพิงเบาะนั่งด้านหลังปรับเอนได้ 6 องศา เบาะนั่งด้านหลังแยกพับได้แบบ 60:40 พนักวางแขนด้านหลัง พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมีความจุมากถึง 438 ลิตร เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold และที่ชาร์จมือถือไร้สาย
ขุมพลังเบนซิน Dynamic Force Hybrid เจนที่ 5 M20A-FXS 2.0 ลิตร แรงเร้าใจและประหยัดให้พลังในภาคเครื่องยนต์ 152 แรงม้าที่ 6,600 รอบ/นาทีแรงบิด 190 นิวตันเมตรที่ 4,400- 5,200 รอบ/นาที พร้อมระบบฉีดจ่ายน้ำมันโดยตรง D-4S direct injection และควบคุมการเปิด-ปิด วาลว์ไอดี VVT-iE electric variable valve timing จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้ากำลัง 65 แรงม้า แรงบิด 202 นิวตันเมตรและแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ปรับปรุงให้มีน้ำหนักเบาและกะทัดรัดยิ่งขึ้น ติดตั้งอยู่ใต้ที่นั่งด้านหลัง ลดการเสียพื้นที่ของห้องโดยสาร
ทำงานร่วมกันให้พลังมากสุด 197 แรงม้า ขณะที่แบตเตอรี่มีแรงดันไฟ 216 โวลต์ 6.5 แอมป์ชั่วโมง เพิ่มเซลส์ไฟฟ้าขึ้นเป็น 180 เซลส์ และความจุแบต 6.5 Ah เป็นระบบ Hybrid เจน 5 พัฒนาใหม่ จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVTเลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ E-Four พิเศษตรงที่เพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลังมาด้วยให้กำลังมากถึง 41 แรงม้า
นอกจากนี้ยังมีเบนซิน Dynamic Force M20A-FKS 2.0 ลิตร 170 แรงม้าที่ 6,600 รอบ/นาทีแรงบิด 202 นิวตันเมตรที่ 4,400- 4,800 รอบ/นาที ฉีดจ่ายน้ำมันโดยตรง D-4S direct injection และควบคุมการเปิด-ปิด วาลว์ไอดี VVT-iE electric variable valve timing จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT แบบ Direct Shift 10 สปีด พร้อม paddle shift
พร้อมความปลอดภัย Toyota Safety Sense 3.0 พัฒนาใหม่ทั้งระบบเตือนผู้ขับขี่พร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติก่อนจะเกิดการชน Pre-Collision System with Acceleration Suppression and Intersection Cut-In Traffic Assist ที่สามารถตรวจจับรถมอเตอร์ไซค์ในบางสภาวะแถมจดจำช่องทางได้ ควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ Dynamic Radar Cruise Control,
ควบคุมรถบนเส้นทางไร้เส้นแบ่งเลนถนน Lane Tracing Assist (LTA), จดจำป้ายจราจร Road Sign Assist (RSA),ช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้างพร้อมระบบป้องกันการออกจากรถเมื่อมีรถวิ่งมาด้านข้าง Blind Spot Monitor with Safety Exit Assist เตือนการถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert ปรับไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beams
Toyota Corolla Cross HEV รุ่นปรับโฉมมีทั้งรุ่นเริ่มต้น S, SE, XSE ผลิตที่โรงงานในเมืองฮันต์สวิลล์ รัฐอัลแบมา ขายจริงมิถุนายนเริ่มต้น $29,305 หรือราว 999,000 บาท ไม่รวมภาษีนำเข้าของไทยแต่ถ้ามาขายในไทยราคารวมภาษีนำเข้าอยู่ที่ 1,879,000 บาท
ที่มา Motor 1