หลังจากทำตลาดในไทยจนได้รับการตอบรับอย่างดีสำหรับ AION Y PLUS เอสยูวีพลังไฟฟ้าที่เตรียมโกอินเตอร์ไปขายยังประเทศอื่นๆ
ล่าสุดที่อินโดนีเซียเปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยด้วยรูปร่างหน้าตาไม่ต่างจากเวอร์ชันที่ขายในไทย มีที่ปัดน้ำฝนด้านหลังพร้อมระบบไฟสูงอัจฉริยะ พร้อมประตูฝาท้ายระบบไฟฟ้า และล้ออัลลอยลายใหม่ 18 นิ้ว พร้อมยาง 215/50 R18 บนพื้นฐานเดิมทั้ง กระจังหน้าทรงไดนามิก ชุดไฟหน้า LED ดีไซน์มีปีก Angel Wing พร้อมช่องระบายรูปสี่เหลี่ยมคางหมู พร้อมหลังคารถแบบพาโนรามิกซันรูฟและราวหลังคา สร้างจากสถาปัตยกรรมแพลตฟอร์มไฟฟ้าบริสุทธิ์ AEP ชั้นนำของอุตสาหกรรม พร้อมความยาวตัวรถตั้งแต่ ความยาว 4,535 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,870 มิลลิเมตร ความสูง 1,650 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,750 มิลลิเมตร ความสูงใต้ท้องรถ 150 มิลลิเมตร และน้ำหนักรถ 1,670 และ 1,765 กิโลกรัม
ภายในมีระบบระบายอากาศเบาะที่นั่งคนขับติดตั้งเบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยระบบไฟฟ้าฝั่งคนขับ 6 ทิศทางและคนนั่ง 4 ทิศทาง เบาะหลังมีการติดตั้งพนักพิงศีรษะและที่วางแขนตรงกลาง เบาะนั่งสบาย 5 ที่นั่งเบาะโดยสารด้านหน้าสามารถพับราบได้เต็มที่เปลี่ยนเป็นเตียงคู่ขนาด 1.8 เมตร รวมถึงการพับเบาะหลังแบบ 60/40 ได้อย่างง่ายดายผู้โดยสารด้านหลังยังสามารถสบายไปกับพื้นที่วางขาขนาดกว้างพิเศษเทียบกับคลาสเดียวกันซึ่งกว้างถึง 1,022 มิลลิเมตร ประตูหลังที่มีมุมเปิดกว้างเกือบ 90 องศา ทำให้การเข้าออกรถสะดวกยิ่งขึ้นเพิ่มความสะดวกสบายและประสบการณ์ทั้งการขับขี่และกับผู้ใช้ โดดเด่นทันสมัยด้วยธีมการออกแบบภายใน 5 แบบ 5 สี ได้แก่ Enchanted Forest, Fairy Wonderland, Rosy Coastline, Azure Ocean และ Subtle Lavender
ระบบสั่งการด้วยเสียงสามารถรองรับได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ อีกทั้งยังมีระบบชาร์จมือถือแบบไร้สาย ระบบนำทางและฟังก์ชันฟังเพลงแบบออนไลน์ รวมถึงระบบควบคุมรถระยะไกลผ่าน Application เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้รถ บนจอสัมผัสขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว รองรับการอัปเดต OTA แบบ ADiGO SPACE คอยช่วยแสดงข้อมูลสำหรับทุกการขับขี่ พร้อมระบบนำทาง ฟังก์ชันที่อัจฉริยะ เพื่อประสบการณ์การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ง่ายดาย และคาราโอเกะ พร้อมลำโพง 6 จุด จอคู่ควบคุมจอมาตรวัดดิจิทัล 10.25 นิ้ว กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร 32 สี รองรับการเปลี่ยนแปลงตามจังหวะดนตรี
ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าที่ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิด 225 นิวตันเมตร มาพร้อมความจุ แบตเตอรี่แบบ Lithium Ion Phosphate ที่มีให้เลือกถึง 2 รุ่นเริ่มที่รุ่น 410 Exclusive มาพร้อมความจุแบต 50.66 kWh ให้กำลังวิ่งไกลสุด 410 กิโลเมตรต่อชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน NEDC และในรุ่น 490 Premium มาพร้อมความจุแบตเตอรี่ 63.2 kWh ให้กำลังวิ่งไกลสุด 490 กิโลเมตรต่อชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน NEDC ประสิทธิภาพการขับขี่ที่น่าประทับใจถึง 92% อัตราการสิ้นเปลืองพลังงานน้อยที่สุดเพียง 13.9 กิโลวัตต์ต่อ 100 กิโลเมตร หรือ 7.19 กิโลเมตรต่อกิโลวัตต์
ช่วยเพิ่มระยะการขับขี่สูงสุดถึง 23% และยังมีโหมด Sport, Normal, ECO ด้านการชาร์จแบบกระแสตรง DC รองรับการชาร์จ 80 kW 10-80% ภายใน 45 นาที และชาร์จกระแสสลับ AC รองรับ 7kw 0-100% ภายใน 8-9 ชั่วโมง และฟังก์ชัน V2L ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าได้สะดวกง่ายดาย พร้อมโหมดการขับขี่สี่โหมดทั้งแบบแป้นเดียว i-pedal
มาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะระดับ L2+ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ มอบความสะดวกสบายเพิ่มเติมในระหว่างการเดินทางด้วยระบบความปลอดภัยเต็มคันตั้งแต่ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ Traffic Jam Assist System TJA, ควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ Intelligent Cruise Assist System ICA ควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ Adaptive cruise control ACC, เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Automatic Brake Assist System AEB ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ Forward Collision Warning FCW, ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keeping Assist LKA, ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane departure warning system LDW, การจอดรถอัจฉริยะ Intelligent Parking, เว้นระยะห่างจากรถคันหน้า Car-following functions และกล้องพาโนรามารอบคัน 360 องศา
AION Y PLUS เปิดราคาขายที่อินโดนีเซียเริ่มต้น 415,000,000 – 475,000,000 IDR หรือราว 929,000-1,065,000 บาท จำหน่ายโดย PT Indomobil Energi Baru พันธิมตรรายใหม่ เพื่อร่วมกันสร้างระบบการวิจัยและพัฒนา การผลิต และการขายในระดับท้องถิ่น โดยเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของค่าย GAC AION บุกตลาดอาเซียนอย่างสมบูรณ์แบบไม่ว่าจะเป็นประเทศไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ และกัมพูชา ทางด้านโรงงานผลิตในไทยจะแล้วเสร็จและเริ่มดำเนินการประกอบในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ส่วนโรงงานผลิตที่อินโดนีเซียยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และยังมีแผนขยายโรงงานไปอีก 7 แห่งในเอเชียแปซิฟิก ยุโรป และตะวันออกกลาง รวมถึงอีก 19 ประเทศทั่วภูมิภาคทั่วโลก
ที่มา CarNewsChina Autoplus และ Otomotif.kompas