วันนี้เมืองจีนเป็นที่แรกของโลกที่เปิดตัวพร้อมราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการสำหรับ AVATR 11 ที่งาน Beijing Auto Show 2024
ทางด้านเมืองไทยจะมีการเปิดตัวหลังเปิดตัวที่จีนด้วยเวอร์ชันพวงมาลัยขวาคาดเป็นช่วงกลางปี 2024 ล่าสุดมีภาพวิ่งการทดสอบของ AVATR 11 สีขาว ติดป้าย QC หรือป้ายทะเบียนสำหรับรถยนต์ที่ผลิตขึ้นอยู่ขั้นตอนการทดสอบคุณภาพก่อนจำหน่าย บนทางด่วนบางนาแถวห้าง MEGA Bangna แบบไม่พรางตัว
AVATR 11 มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับ AVATR 12 แต่เป็นเอสยูวีรูปทรงแบบท้ายลาด Coupe เสมือนเป็นการนำเอกลักษณ์สร้างความโดดเด่นตั้งแต่ ไฟหน้า LED ทรงสามเหลี่ยมล้อมกรอบไฟ DRL แบบ LED รูปตัวซี เหนืออีกมีไฟ DRL LED แบบเส้นแนวนอนสะท้อนความหรูอีกระดับกับโลโก้ของ AVATR ช่องระบายอากาศในชุดกันชนหน้าที่กลมกลืนดูดี ด้านข้างเด่นด้วยที่เปิดประตูเรียบเนียนกับตัวถัง กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวทรงสปูน
สิ่งหนึ่งที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนอย่างแน่นอนนั่นคือดีไซน์ของบานฝาท้ายที่มีตำแหน่ง Spoiler ค่อนข้างสูง ทำให้เหลือพื้นที่กระจกบังลมหลังอันน้อยนิดไฟท้าย LED เส้นแนวนอนลากยาวถึงตัวถังด้านข้างรับกับกันชนหลังเสริมลิ้นสปอยเลอร์หลังสีดำเข้มมีครีบรีดอากาศ ล้ออัลลอยมีตั้งแต่ขนาด 21 นิ้ว พร้อมยาง 265/45R21 ขนาด 22 นิ้วพร้อมยาง 265/40R22
ตัวรถสร้างจากแพลตฟอร์ม EP1 EV ด้วยความยาว 4,880 มิลลิเมตร กว้าง 1,970 มิลลิเมตร สูง 1,601 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,975 มิลลิเมตร และน้ำหนักรถ 2,160-2,365 กิโลกรัม
ภายในไฮเทคล้ำอนาคตนั่งได้ 4-5 ที่นั่งหุ้มหนังแท้ NAPPA มาพร้อมจอจอลอยสองจุดทั้งฝั่งคนขับที่เป็นมาตรวัดความเร็วแบบ LCD 10.25 นิ้ว และฝั่งคนนั่ง 10.25 นิ้ว พร้อมจอกลางระบบความบันเทิงขนาดใหญ่ 15.6 นิ้ว พร้อมลำโพงรอบคัน 14 จุด ไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light 256 สี สร้างบรรยากาศภายในอย่างอบอุ่น ที่ชาร์จมือถือไร้สายหน้าหลัง พร้อมระบบ Huawei Inside ซึ่งเป็นโซลูชันยานยนต์อัจฉริยะเต็มรูปแบบทำงานด้วย ทำงานด้วย HUAWEI HARMONY OS
มาพร้อมระบบเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงแบบ AC induction/asynchronous, Permanent magnet และชุดแบตเตอรี่แบบ Ternary Lithium Battery มีทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหลังมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวและขับเคลื่อนสี่ล้อมอเตอร์ไฟฟ้าคู่
เริ่มที่รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังมีสองแบบดังนี้ รุ่น Standard Range จากความจุแบตเตอรี่ 90.38 kWh ให้กำลัง 313 แรงม้า แรงบิด 370 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 600-630 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 6.6 วินาที ชาร์จกระแสตรง DC กำลังสูงสุด 240 kW 0-80% ภายในเวลา 25 นาที และ 30-80% ภายในเวลา 15 นาที และชาร์จกระแสสลับ AC 0-100% กำลังไฟสูงสุด 11 kW น้อยกว่า 10.5 ชั่วโมง
รุ่น Extended Range จากความจุแบตเตอรี่ 116.79 kWh ให้กำลัง 313 แรงม้า แรงบิด 370 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 705-730 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 6.9 วินาที ชาร์จกระแสตรง DC กำลังสูงสุด 240 kW 0-80% ภายในเวลา 45 นาที และ 30-80% ภายในเวลา 25 นาที และชาร์จกระแสสลับ AC 0-100% กำลังไฟสูงสุด 11 kW น้อยกว่า 13.5 ชั่วโมง
รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อนสี่ล้อมีตั้งแต่รุ่น Standard Range จากความจุแบตเตอรี่ 90.38 kWh ให้กำลังรวม 578 แรงม้า แรงบิด 650 นิวตันเมตร จากมอเตอร์คู่หน้ากำลัง 265 แรงม้า แรงบิด 280 นิวตันเมตร และมอเตอร์คู่หลัง 313 แรงบิด 370 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 555-580 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 3.98 วินาที ชาร์จกระแสตรง DC กำลังสูงสุด 240 kW 0-80% ภายในเวลา 25 นาที และ 30-80% ภายในเวลา 15 นาที และชาร์จกระแสสลับ AC 0-100% กำลังไฟสูงสุด 11 kW น้อยกว่า 10.5 ชั่วโมง
รุ่น Extended Range ขับเคลื่อนสี่ล้อมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ จากความจุแบตเตอรี่ 116.79 kWh ให้กำลังรวม 578 แรงม้า แรงบิด 650 นิวตันเมตร จากมอเตอร์คู่หน้ากำลัง 265 แรงม้า แรงบิด 280 นิวตันเมตร และมอเตอร์คู่หลัง 313 แรงบิด 370 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 680-700 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 4.5 วินาที ชาร์จกระแสตรง DC กำลังสูงสุด 240 kW 0-80% ภายในเวลา 45 นาที และ 30-80% ภายในเวลา 25 นาที และชาร์จกระแสสลับ AC 0-100% กำลังไฟสูงสุด 11 kW น้อยกว่า 13.5 ชั่วโมง
เอสยูวีหรูในเครือค่าย CHANGAN เตรียมขายไทยกลางปีนี้ 2024 และราคาจำหน่ายอาจเริ่มต้นไม่เกินสองล้าน ทางด้านเมืองจีนเปิดราคาจำหน่ายเริ่ม 300,000-390,000 Yuan หรือราว 1,529,000-1,989,000 บาท
ที่มาภาพ p.joy