ต้องยอมรับว่ารถยนต์ไฟฟ้าได้เข้ามามีบทบาทต่อสังคงไทยด้วยความหลากหลายจากแบรนด์ชั้นนำ เทคโนโลยี และการส่งเสริมภาครัฐ ส่งผลให้ความนิยมแพร่หลาย
ล่าสุด DATAXET สำนักข่าวออนไลน์แบบเรียลไทม์ ได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลหา Insight รวบรวมผ่าน DXT360 แพลตฟอร์มติดตามข่าวสารและเสียงของผู้บริโภค หรือ Social Listening โดยเก็บข้อมูลระหว่าง 15 พฤศจิกายน-16 ธันวาคม ที่ผ่านมา เจาะข้อมูลในโซเชียลมีเดียเพื่อนำมาวิเคราะห์ว่าแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่มีการพูดถึงบนสังคมออนไลน์ว่าสอดคล้องกับแบรนด์รถที่มียอดจองสูงจากงาน Motor Expo 2023 หรือไม่
เมื่อพิจารณาข้อมูลจาก Social Media ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา พบว่าแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดใน 3 อันดับแรกจะมีความสอดคล้องกับยอด Engagement ที่ทางแบรนด์ได้รับซึ่งใน 3 อันดับเป็นแบรนด์จากรถยนต์ EV ทั้งหมด อันดับหนึ่งคือแบรนด์ BYD มีการถูกกล่าวถึง (Mention) และมียอด Engagement มากที่สุด รองลงมาเป็นแบรนด์น้องใหม่ CHANGAN และสุดท้ายคือแบรนด์ TESLA เป็นอันดับ 2 และ 3 ตามลำดับ
10 แบรนด์ที่มีการกล่าวถึงมากที่สุด (By Mention)
- BYD 19.6%
- CHANGAN 14.7%
- TESLA 11.6%
- AION 10.3%
- GWM 9.2%
- MG 8.4%
- NETA 7.8%
- Hyundai 7.5%
- Honda 3.0%
- อื่น ๆ 7.9%
10 แบรนด์ที่มีการกล่าวถึงมากที่สุด (By Engagement)
- BYD 22.3%
- CHANGAN 17.3%
- TESLA 12.8%
- Honda 9.4%
- AION 7.7%
- NETA 6.1%
- GWM 5.4%
- MG 4.4%
- Hyundai 3.7%
- อื่น ๆ 10.9%
Top 3 แบรนด์รถไฟฟ้าที่ได้รับความสนใจสูงสุด
BYD เรียกได้ว่าเป็นที่ฮือฮาในสังคมออนไลน์หลังจาก แบรนด์ BYD แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่จากจีนได้ทำการปล่อยคลิปสาธิตโหมด “Emergency Float Mode” ที่จะเป็นโหมดที่ตัวรถจะทำการขับบนผิวน้ำได้แบบอัตโนมัติ เมื่อรถตกน้ำ และจะพาผู้โดยสารในรถกลับขึ้นฝั่งอย่างปลอดภัย โดยจะเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่จะมาในรถ SUV ไฟฟ้า ตัว Top ของทางแบรนด์อย่าง YANGWANG U8 ที่เปิดตัวในช่วงต้นปีที่ผ่านมาที่เมืองจีน ความคิดเห็นส่วนใหญ่ชื่นชมการพัฒนาเทคโนโลยี และตื่นเต้นกับฟีเจอร์ดังกล่าวพร้อมทั้งรอติดตามที่จะได้เห็นการเทสฟีเจอร์นี้จากประสบการณ์ผู้ใช้จริง
CHANGAN รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนอีกแบรนด์หนึ่งที่กำลังมาแรงไม่แพ้ BYD เห็นได้จากการเอ็นเกจกับคอนเทนต์ “รีวิวเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 2 รุ่นใหม่จากฉางอัน” ที่เปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมาจาก YouTube Account Autilifethailand Official ที่ได้การเอ็นเกจสูงสุด และกวาดยอดวิวไปกว่า 340K แสดงให้เห็นความเป็นที่นิยม เนื่องจากโดดเด่นในด้านเทคโนโลยีและความแรงของรถที่ขับเคลื่อนกำลังสูงสุด 190 kW เทียบเท่า 258 แรงม้า นอกจากนั้นฉางอันยังตีตลาดไทยด้วยเรื่องของความคุ้มค่า โดยการมอบสิทธิพิเศษ มูลค่ารวมกว่า 250,000 บาท เช่น ฟรีประกันภัยชั้น 1, รับประกันแบตเตอรี่และบำรุงรักษาฟรี นาน 8 ปี, บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม. นาน 8 ปี, ฟรีที่ชาร์จรถที่บ้าน และอื่น ๆ
TESLA แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้ายุโรปที่หลายคนนึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ โดยในช่วงเดือนที่ผ่านมาจากโพสต์เด่นพบการเปิดตัว CํYBERTRUCK หรือ รถกระบะไฟฟ้ารุ่นแรกของค่ายสิ่งที่น่าสนใจในรถยนต์รุ่นนี้ก็คือฟีเจอร์ Powershare ที่ทำให้สามารถจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้กับรถคันอื่นหรือบ้านได้สูงสุด 9.6kW ความคิดเห็นต่างให้ความสนใจฟีเจอร์ดังกล่าวเป็นอย่างมากจึงได้รับฉายาในโซเชียลมีเดียว่า “พาวเวอร์แบงค์เคลื่อนที่” โดยโพสต์ดังกล่าวได้รับ Engagement สูงกว่า 7,428 ครั้ง
ส่องความคิดเห็นใน Social Media
จากภาพรวมเสียงสะท้อนของผู้บริโภคที่มีต่อรถยนต์ EV และรถยนต์สันดาปนั้น พบว่าปัจจุบันเสียงส่วนใหญ่มีแนวโน้มไปในทิศทางเชิงบวกต่อรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้งนี้พบว่าเหตุผลที่คนส่วนใหญ่เลือกซื้อรถยนต์ EV ได้แก่ ความคุ้มค่าและความประหยัด ดีไซน์ของรถที่มีความทันสมัย เทคโนโลยีใหม่ ๆ หรือ AI ของตัวรถ ลดมลพิษทางอากาศ แต่อย่างไรก็ตามผู้บริโภคบางส่วนยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับรถยนต์ EV ในด้านต่าง ๆ เมื่อเทียบกับรถยนต์สันดาป ได้แก่ ปัญหาแบตเตอรี่ ความเพียงพอของสถานีชาร์จ คุณภาพการใช้งาน ราคาของประกันรถที่อาจแพงกว่ารถยนต์สันดาป
จากแบรนด์รถยนต์ EV ของ BYD ที่มีการกล่าวถึง (Mention) และยอด Engagement มากที่สุดเป็นอันดับ 1 พบว่า เหตุผลส่วนใหญ่ที่คนเลือกใช้รถยนต์ BYD จะสอดคล้องกับเหตุผลที่คนส่วนใหญ่ที่คนเลือกใช้รถยนต์ EV ทั้งในเรื่องของดีไซน์รถ และมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทั้งนวัตกรรมด้านความปลอดภัยและความบันเทิง และยังเพิ่มความสามารถที่ทำให้ผู้คนสามารถนอนหลับบนรถได้ สุดท้ายในเรื่องของราคาที่มีความหลากหลายสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง
ทั้งนี้ ความต้องการรถยนต์ EV ที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคนั้นได้สร้างความสะเทือนให้กับผู้ผลิตรถยนต์สันดาปเป็นอย่างมาก เห็นได้ชัดจากสถิติของ Forbes ที่เผยยอดการผลิตรถยนต์สันดาปในปี 2023 เทียบกับปีที่แล้ว นั้นลดลงถึง 8% ผู้ผลิตหลายรายหันมาผลิตรถ EV กันมากขึ้น
ล่าสุดทางแบรนด์รถยนต์จากค่ายใหญ่ เช่น Honda และ Toyota ก็ได้เริ่มมีการผลิตรถยนต์ EV ออกมา โดยทาง Honda ได้ออกรถยนต์ EV คือ รุ่น e:N1 และ ทาง Toyota คือ รุ่น bZ4X ซึ่งจากทาง 2 ค่ายใหญ่ที่ได้มีการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์การเลือกซื้อรถยนต์ที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค จึงคาดว่าแนวโน้มในอนาคตจะมีการผลิตรถยนต์ EV เพิ่มมากขึ้นจากทั้งหลายแบรนด์ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค ด้วยเหตุนี้เองทางรัฐบาลไทยจึงมีนโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย