สรุปยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าไทยต้อนรับปีมังกรทอง สูงสุด 13,626 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้วมากถึง 358.5% สูงเป็นประวัติการณ์
เดือนมกราคม 2024 ที่มียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด 13,626 คัน แบ่งเป็นรถยนต์นั่งและรถยนต์เพื่อการพาณิชย์เริ่มที่แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า 5 อันดับที่มียอดจดทะเบียนมากที่สุดดังนี้
อันดับที่ 1 อย่าง BYD ทุกรุ่น 7,780 คัน แบ่งเป็น BYD Dolphin รุ่น Standard Range 2,201 คัน รุ่น Extended Range 974 คัน, BYD ATTO 3 รุ่น Extended Range 1,328 คัน กับรุ่น Standard Range 264 คัน, BYD SEAL รุ่น AWD Extended Range 1,377 คัน รุ่น RWD Extended Range 1,494 คัน กับรุ่น RWD Standard Range 137 คัน, BYD E6 72 คัน และ BYD T3 33 คัน
อันดับที่ 2 NETA V จำนวน 2,013 คัน
อันดับที่ 3 MG ทุกรุ่นทั้งหมด 1,948 คัน แบ่งเป็นรุ่น EP 577 คัน, MG4 Electric 1,007 คัน, MG MAXUS 9 117 คัน, MG ZS EV 169 คัน และ MG ES 78 คัน
อันดับที่ 4 ORA รวมกัน 333 คัน แบ่งเป็น ORA Good Cat รุ่นปกติและGT รวม 253 คัน และ ORA 07 80 คัน
อันดับที่ 5 AION รวมกัน 274 คัน แบ่งเป็น AION Y Plus 179 คัน และ AION ES 95 คัน
ส่วนแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าอันดับที่ 6-24 ตามลำดับดังนี้ WULING 250 คัน, DEEPAL 207 คัน, VOLVO 188 คัน, BMW ตระกูล i ทุกรุ่น 166 คัน , Mercedes-EQ 103 คัน, Toyota 66 คัน, TESLA 52 คัน, PORSCHE 33 คัน, FOTON 28 คัน, SERES 20 คัน, MINI 20 คัน, VOLT 20 คัน , LEXUS 13 คัน, FOMM 4 คัน, MINE Mobility 4 คัน, AUDI, NEX, POCCO และ TAKANO แบรนด์ละ 1 คัน
แบ่งเป็นกลุ่มรถยนต์ออกเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รย.1), รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน (รย.2), รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รย.3), รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน (รย.6) รถยนต์บริการธุรกิจ (รย.9)และรถยนต์บริการทัศนาจร (รย.10) ถ้าแยกรุ่นรถจากแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่มียอดจดทะเบียนมากที่สุดถึงน้อยที่สุด มีดังนี้
ต้อนรับปี 2024 กับมาตรการส่งเสริมการใช้รถยยต์ไฟฟ้าเวอร์ชัน 3.5 มีแบรนด์ใหม่จากจีนทั้ง CHANGAN ผ่านแบรนด์ลูก DEEPAL และ AION ES จะมียอดจดตั้งแต่มกราคมเป็นครั้งแรก รวมถึงการเปิดตัว ORA Good Cat รุ่นประกอบไทยที่จะส่งมอบช่วงเดือนมกราคมนั้นจะได้ยอดส่งมอบเท่าไหร่ และรุ่นอื่นๆที่ประกอบไทยที่จะตามมาทั้ง NETA V-II, BYD Dolphin, AION ES, และ MG4 Electric จะมีราคาจำหน่ายสูงขึ้นหรือลดลงจากเดิมหรือไม่ ต้องติดตาม
ที่มา กรมการขนส่งทางบก