หลังจากที่มีความเคลื่อนไหวว่าน้องสิงโตอารมณ์ดีอย่าง HAVAL JOLION เตรียมเผยรุ่นปรับโฉมกระตุ้นตลาดครั้งแรกในรอบ สามปีของการจำหน่าย
หลังพี่ใหญ่อย่าง HAVAL H6 ชิงเปิดตัวปรับโฉมไปแล้วกับหน้าตาใหม่เริ่มที่ ไฟหน้าโคมใหม่ Full LED แถมตัดหางไฟ DRL ออกไป กระจังหน้า Star Matrix สีดำ-เทา ไส้ในเส้นแนวตั้งโครเมียม 16 เส้น ดีไซน์ใหม่เล็กลง โดดเด่นด้วยโลโก้ HAVAL เวอร์ชันใหม่ตรงกลางและด้านท้าย กันชนหน้าออกแบบใหม่รับความสปอร์ตมากขึ้นพร้อมช่องระบายอากาศใหม่ที่เล็กลง กรอบไฟตัดหมอกหน้าใหม่พร้อมไฟพร้อม Daytime Running Light แนวตั้งดีไซน์ล้ำสมัย
ด้านข้างมาพร้อมราวหลังคา กระจกมองข้างทรงสปูนปรับ-พับพับอัตโนมัติเมื่อล็อกรถและหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิคพร้อมดีไซน์ด้านท้ายใหม่ด้วยไฟท้าย LED โคมใหม่แนวยาวขึ้น พร้อมตราโลโก้ใต้ไฟท้าย สปอยเลอร์ท้าย เสาอากาศแบบ shark fin กันชนหลังพร้อมดิฟฟิวเซอร์ดีไซน์ดูสปอร์ตขึ้น และล้ออัลลอยทูโทนลายใหม่ขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/55 R18
นอกจากนี้ยังแนะนำรุ่น JOLION PRO มาพร้อมชุดแต่งรอบคันทั้งสเกิร์ตผสมชุดลิ้นสปอยเลอร์ ดีไซน์ใหม่ สปอร์ตโฉบเฉี่ยวมากกว่าเดิม เข้ากันกับคิ้วขอบล้อสีเข้ม พร้อมคิ้วกันกระแทกสีดำใต้ประตูลงตัวเข้ากับสเกิร์ตด้านข้างกับด้านท้ายใหม่ พร้อมสปอยเลอร์ชิ้นใหญ่บนฝาท้าย
ภายในยังไม่มีข้อมูลว่าจะปรับหรือไม่แต่ยังมาพร้อมออปชันล้นคันด้วยหน้าจอ Multi Information Display ความละเอียดสูง ขนาด 7 นิ้ว ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา ชุดเกียร์ไฟฟ้า Electronic Shifter พร้อมสีพิเศษแบบ High-gloss ช่วยเติมสีสันให้ห้องโดยสาร มาพร้อมกุญแจ Smart Key และระบบ Push Start เพื่ออำนวยความสะดวกในการเปิดประตูและการสตาร์ทเครื่องยนต์
ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ เบาะหน้าฝั่งผู้ขับขี่ปรับได้ 6 ทิศทาง และคนนั่ง 4 ทิศทาง เพื่อช่วยจัดท่านั่งให้สบายและอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นวิสัยทัศน์ได้ดีที่สุด ส่วนเบาะที่นั่งโดยสารด้านหลังจะมาพร้อมที่เท้าแขนกลาง ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายไปอีกขึ้น และยังสามารถพับลงได้แบบ 60:40 เพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระได้สูงสุดถึง 1,069 ลิตร
การตกแต่งโทนสีดำเข้ม Piano Black หน้าจอสัมผัสอัจฉริยะแบบ Touch Screen Audio Display ความละเอียดสูงรองรับ Apple CarPlay การเล่น MP3 รวมไปถึง JOOX และระบบนำทาง (Navigator) ในจอสัมผัสขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว พร้อมกับลำโพงมากสุด 6 ตัว
เครื่องปรับอากาศสำหรับด้านหลัง กุญแจกับปุ่ม Push Start มาพร้อมระบบระบบ Keyless access เบาะนั่ง 5 ที่นั่งหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์สีดำดีไซน์สปอร์ตปรับด้วยระบบไฟฟ้า 6 ทิศทางพร้อมระบบระบายอากาศ ช่องต่อ USB สำหรับกล้องบันทึกหน้ารถ กระจกไฟฟ้า One Touch 4 บาน พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนัง
จากพื้นฐาน GWM LEMON แพลตฟอร์มโมดูล่าร์อัจฉริยะ ให้ประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับหกับขุมพลังฟูลไฮบริดด้วยเครื่องยนต์เบนซิน รหัส GW4G15H 1.5 ลิตร 95 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 125 นิวตันเมตรที่ 4,400-5,200 รอบต่อนาที ในภาคเครื่องยนต์ จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังมากสุด 156 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตรและชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1.6 kWh โดยเมื่อทำงานร่วมกันจะได้พลังมากสุด 190 แรงม้า แรงบิด 375 นิวตันเมตร
ระบบเกียร์แบบ DHT ขับเคลื่อนล้อหน้ารองรับระบบการขับเคลื่อนที่หลากหลายเมื่อทํางานร่วมกับเครื่องยนต์ สร้างการขับเคลื่อนอย่างทรงพลังและประหยัดน้ำมัน และยังมีเบนซินเทอร์โบล้วนถึงสองความแรงขนาด 1.5 ลิตร 150 แรงม้าที่ 5,600-6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 220 นิวตันเมตรที่ 2,000-4,400 รอบต่อนาที และใหญ่สุดเทอร์โบขนาด 1.5 ลิตร TGDI 177 แรงม้าที่ 5,500-6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 270 นิวตันเมตรที่ 1,500-4,000 รอบต่อนาที
ทั้งสองจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีด 7DCT ทั้งสองขนาดมารพร้อมโหมดขับขี่ทั้งหมด 4 โหมด ได้แก่ 1) มาตรฐาน 2) Sport 3) ECO 4) สภาพถนนลื่น ขับเคลื่อนล้อหน้า พร้อมช่วงล่าง อิสระแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง สำหรับด้านหน้าและด้านหลังแบบทอร์ชั่น บีม พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Functions) เช่น ระบบความบันเทิงในรถยนต์ ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ และเทคโนโลยีสำหรับการขับขี่อันล้ำสมัยอีกมากมาย อาทิ การอัพเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านระบบออนไลน์อัจฉริยะ (FOTA) อัพเกรดเฟิร์มแวร์สำหรับการควบคุมระบบขับเคลื่อน ระบบส่งกำลัง ระบบการขับขี่อัจฉริยะต่างๆ รวมถึงระบบควบคุมอื่นๆ ภายในรถยนต์ได้อย่างง่ายดายการสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ (voice command) การสั่งการและควบคุมรถผ่าน GWM APP
ระบบการช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัยตั้งแต่ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) มาพร้อมกล้องติดรถยนต์ ADAS ควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA) ตรวจความดันลมยาง (TPMS) เตือนสัญญาณไฟจราจร (TSR)เตือนเมื่อความเร็วสูงเกินค่ากำหนด ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK) สัญญาณกะระการจอดรถ 6 จุดด้านหน้าและหลัง
ช่วยเตือนการเปิดประตู (DOW) ช่วยเบรกฉุกเฉินที่ความเร็วต่ำ (LSEB) ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนด้านหลัง (RCW) ช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA และ RCTB) ช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS) ทำงานร่วมกับ Lane Center Keeping
ช่วยจอดรถอัจฉริยะ 3 รูปแบบ (IIP) เพื่อเข้าจอด ทั้งแนวตรง แนวเฉียง และจอดเทียบข้าง และ กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI) มาพร้อมระบบการตรวจจับรถยนต์, ผู้ขับขี่จักรยาน และคนเดินถนน ทั้งทางตรงและทางแยก
ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ระบบช่วยลงทางลาดชัน (HDC) ช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) ช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK) ช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSD) ช่วยเตือนความเมื่อยล้าขณะขับขี่ (DFM) HAVAL JOLION รุ่นปรับโฉมพร้อมเผยตัวจริงเร็วๆนี้ที่ออสเตรเลีย
ทางด้านเมืองไทยหลังจากจัดโปรลดแหลกสูงสุด 30,000 กับ 75,000 บาทระบายสต็อกมีโอกาสสูงที่ะเผยตัวจริงเช่นกัน ตามนโยบายรถใหม่เปิดตัวอีก 6 รุ่นภายในปี 2024-2025 (แบ่งกันเป็นเปิดตัว 3 รุ่นในปี 2024 และอีก 3 รุ่นในปี2025 รวมทั้งหมด 15 รุ่นตั้งแต่ปี 2020) ของทาง GWM ประเทศไทยอาจเป็นรุ่นนี้ต่อจาก GWM POER SAHAR และ HAVAL H6 รุ่นปรับโฉมหรือไม่ต้องติดตาม
ที่มา Carsales