เปิดราคาอย่างเป็นทางการที่ออสเตรเลียสำหรับ Hyundai Santa FE เอสยูวีทรงเหลี่ยมเจนใหม่เวอร์ชันพวงมาลัยขวาและพร้อมขึ้นโชว์รูมเดือนหน้า
Hyundai Santa FE เจเนอเรชันที่ 5 มาแปลกกว่าทุกครั้งด้วยดีไซน์กลับไปสู่ยุคเรโทรเหลี่ยมๆทั้งคันเน้นดุดันในร่างรถทรงกล่องเริ่มที่ กระจังหน้าเส้นแนวนอนเส้นเดียวพร้อมไฟหน้า LED และ DRL แบบ LED ในโคมเดียวกันรูปตัว H กับกันชนหน้าดีไซน์รูปตัว H เช่นเดียวกับชุดไฟหน้าและกระจังหน้า ด้านข้างบึกบึนกับซุ้มล้อและคิ้วขอบล้อสีดำทรงสี่เหลี่ยม ราวหลังคา ไฟท้ายแนวยาว LED รูปตัว H อยู่แนวต่ำใต้ตราโลโก้ Hyundai ชื่อรุ่น Santa FE ในชุดกันชนหลังมีไฟเลี้ยวกับไฟถอยทรงเสน่ห์ พร้อมฝาท้ายเปิดปิดด้วยระบบไฟฟ้าหลังคาพาโนรามิกซันรูฟ ล้ออัลลอยลายหรูขนาด 20 นิ้วพร้อมยาง 255/45R20 สำหรับสแปออสเตรเลีย
ตัวรถใหญ่ขึ้นทุกมิติตั้งแต่ความยาว 4,830 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,900 มิลลิเมตร ความสูง 1,730 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,815 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 2,225 กิโลกรัม และความจุถังน้ำมัน 67 ลิตร
ภายในหรูในสไตล์ 3 แถว 6 หรือ 7 ที่นั่ง พร้อมพื้นที่สัมภาระท้าย 725 – 1,275 ลิตร วัสดุหุ้มหนังแบบ NAPPA คู่หน้าฝั่งคนขับปรับได้ 10 ทิศทาง พร้อมออปชันครบครันทั้งโทนสีภายในห้องโดยสารมาทั้งแบบสีอ่อนและสีเข้มให้เลือก พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านดีไซน์ย้อนยุคนึกถึงรถเก่ายุค 80 ของค่ายอย่าง Hyundai Grandeur จอคู่ฝั่งละ 12.3 นิ้วรวมการทำงานทั้งจอมาตรวัดดิจิทัลและจอสัมผัสระบบความบันเทิงรองรับการเชื่อมต่อไร้สายทั้ง Apple Car Play และ Android Auto ปุ่มการทำงานจอสัมผัสใต้ช่องแอร์แนวยาว ที่ชาร์จ USB Type-C พร้อมลำโพง BOSE
ที่ชาร์จ USB Type-C พร้อมที่ชาร์จมือถือไร้สายแบบคู่ กล่องคอนโซลลกลางแนวยาวกันรังสี UV-C Sterilization ผู้โดยสารด้านหน้าและด้านหลังสามารถเข้าถึงพื้นที่จัดเก็บสัมภาระท้ายได้แบบ Bilateral Multi-Console แจ้งเตือนผู้โดยสารด้านหลังก่อนออกจากรถ
มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์สันดาปล้วนและฟูลไฮบริดเริ่มที่เบนซินเทอร์โบ Smartstream G1.6 T-GDi Hybrid รหัส G4FT ให้พลัง 180 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิด 265 นิวตันเมตรที่ 1,500-4,000 รอบต่อนาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 60 แรงม้า ที่ 1,600-2,000 รอบต่อนาที แรงบิด 264 นิวตันเมตร ที่ 1,600 รอบต่อนาที
พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 47.7 kWh เมื่อทำงานร่วมกันให้แรงม้ารวมสูงสุด 235 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดรวม 367 นิวตันเมตรที่ 1,500-4,400 รอบต่อนาที คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด A6MF2H ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 9.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ประหยัด 16.67-17.86 กิโลเมตรต่อลิตร
เบนซินเทอร์โบ Smartstream G T-GDI รหัส G4KIII ขนาด 2.5 ลิตร 4 สูบ ให้พลังแรงสูงสด 281แรงม้าที่ 5,800 รอบต่อนาที แรงบิด 422 นิวตันเมตรที่ 1,700-4,000 รอบต่อนาที คู่กับเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 8 สปีด ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 8 วินาที D8LF1 ความเร็วสูงสุด 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อ HTRAC All-Wheel-Drive (AWD) พร้อมโหมดการขับขี่ที่มีให้เลือกตามแต่ละสภาพถนน Terrain Mode ได้แก่โหมดบนทราย (Sand), หิมะ (Snow), โคลน (Mud) เช่นเดียวกับโหมดขับขี่ปกติ Drive Mode ทั้งโหมด Eco, Sport, Comfort และ Smart ซึ่งจะจดจำโหมดสุดท้ายของผู้ขับขี่อัตโนมัติโดยที่ผู้ขับขี่ไม่ต้องเลือกโหมด
ความปลอดภัยเต็มคัน Hyundai Smart Sense อาทิ ระบบช่วยเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติตรวจจับรถยนต์ คน และจักรยาน พร้อม Junction Assist Forward Collision Avoidance Assist (FCA 2.0) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keeping Assist (LKA) ช่วยควบคุมให้รถอยู่ในช่องจราจร Lane Following Assist 2 (LFA 2) ช่วยเตือนและช่วยควบคุมพวงมาลัยเมื่ออยู่ในจุดอับสายตาที่กระจกมองข้าง Blind-Spot Collision-Avoidance Assist (BCA) กล้องมองรอบทิศทาง Surround View Monitor (SVM) กล้องมองภาพจุดอับสายตา Blind-Spot View Monitor (BVM)
เตือนและเบรกอัตโนมัติขณะถอยรถ Rear Cross-traffic Collision Avoidance Assist (RCCA) ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Smart Cruise Control Stop & Go (SCC) เซนเซอร์ช่วยเหลือการเข้าจอดด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง Parking Distance Warning (PDW) -Front, Side and Rear ช่วยป้องกันการชนขณะถอยจอด Parking Collision-Avoidance Assist (PCA) ช่วยจอดโดยใช้รีโมตจากสมาร์ตคีย์ Remote Smart Parking Assist (RSPA) ปรับไฟสูงอัตโนมัติ High Beam Assist (HBA) ) ป้องกันไม่ให้ลงรถ ขณะมีรถวิ่งมาด้านข้างSafe Exit Assist (SEA)
ถุงลมนิรภัยรอบคัน 10 จุด เบรก ABS + EBD ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESC) ควบคุมการทรงตัวขณะลากจูง (TSA) ช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (HAC) ควบคุมเบรกขณะลงทางลาดชัน (DBC) และกระจกมองหลังอัจฉริยะ
Hyundai Santa FE ขายออสเตรเลียด้วยรุ่นฟูลไฮบริด 5 รุ่นย่อยในราคาไม่รวมค่า On Road เริ่ม $55,500-$75,500 หรือราว 1,355,000-1,839,000 บาท และปลายปีนี้เสริมรุ่นเบนซินเทอร์โบล้วน 2.5 ลิตรมีทั้งหมด 10 สีภายนอกทั้ง
- Abyss Black Pearl
- Creamy White Pearl
- Creamy White Matte
- Typhoon Silver Metallic
- Magnetic Gray Metallic
- Ocado Green Pearl
- Terracotta Orange
- Cyber Sage Pearl
- Earthy Brass Metallic Matte
- Pebble Blue Pearl