ออสเตรเลียเป็นประเทศที่สี่ต่อจาก ไทย ลาว และ นิวซีแลนด์ กับการเผยโฉมสุดหล่อของน้องออลนิว ISUZU D-MAX ปิกอัพยอดนนิยมของคนทั้งโลก
ปรับโฉมใหญ่ในรอบ 4 ปี จำหน่ายทั้งรุ่น Single Cab และ Double Cab ปรับแบบเดียวกับไทยภายนอกใหม่หมดสะกดทุกสายตา ตั้งแต่ฝากระโปรงจดกันชนหน้า กระจังหน้าแนวนอนแบบเขี้ยวซ่อนรูป 2 ชั้น ดีไซน์เอกลักษณ์พร้อมตรา ISUZU ขนาดใหญ่ รับกับไฟหน้า Bi-LED พร้อม Multifunctional Daylight ทำหน้าที่ทั้ง Daylight ไฟหรี่ และไฟเลี้ยวที่ย้ายมาอยู่ในโคมเดียวกัน
ลงตัวกับชุดกันชนหน้าดีไซน์ใหม่เป็นหนึ่งเดียวกับกระจังหน้ามีช่องระบายอากาศทรงหกเหลี่ยมลายรังผึ้งพร้อม Air Curtain นวัตกรรม Aerodynamic ลดแรงต้านอากาศ แบบฉบับ รถสปอร์ตหรู ไฟตัดหมอกหน้า LED กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED
ฝาท้ายใหม่ดีไซน์รูปตัว H พร้อมสปอยเลอร์ในตัวกระบะท้าย ไฟท้ายแบบ Triple-Armour LED และกุญแจล็อกที่ฝาท้าย ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว 6 ก้านคู่ ปัดเงา ดีไซน์แบบ Turbine Spiral พร้อมยาง Bridgestone 684II HT 265/60 R18 ส่วนล้อและยางขนาดอื่นยังคงเดิมทั้งล้ออัลลอยหกก้านลาย Aeroscrew และกระทะล้อสีเงิน พร้อมยาง 255/65R17 แบบ All-Terrain Dunlop AT25
ออปชันเด่นๆในรุ่นย่อยเฉพาะเริ่มที่รุ่น X-Rider ขับเคลื่อนสี่ล้อนำพื้นฐานรุ่น LS-M แต่งเข้มบาดใจขาลุยด้วยชุดแต่งสีดำล้วนรอบคันตั้งแต่ กระจังหน้า ล้อลาย Aeroscrew ขนาด 17 กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED ที่เปิดประตู ที่เปิดกระบะท้าย บันไดข้าง สปอร์ตบาร์แท่ง ทั้งหมดตกแต่งดำล้วน รวมถึงผ้าใบปิดกระบะก็มาด้วย
รุ่นท็อป X-Terrain 4×4 หรือ V-Cross 4×4 เวอร์ชันไทยสะท้อนเอกลักษณ์แห่งพรีเมียมสปอร์ตออฟโรดตั้งแต่กระจังหน้าแบบ 3-Dimension สีเทาดำและ Black Chrome การ์ดเสริมกันชนหน้าออกแบบใหม่เรียบเนียนเข้ากับกันชนหน้า ล้ออัลลอย 6 ก้านขนาด 18 นิ้ว สีดำด้าน Matte Black ดีไซน์แบบ Rugged & Wild
เท่ แกร่ง ดุดัน คิ้วขอบล้อ Fender Lip ดีไซน์ใหม่กลมกลืนกับลายล้อ ครบครันความเข้มอย่างเต็มรูปแบบด้วยชุดแต่งรอบคันทั้งกระจกมองข้าง ราวหลังคา มือจับประตู บันไดข้าง แบบสีดำด้านไลเนอร์ปูกระบะ สปอร์ตบาร์ออกแบบพิเศษ และ คิ้วตกแต่งกันชนท้ายสีดำซ้าย-ขวา
ภายในยกระดับความสะดวกสบายสไตล์พรีเมียมโดดเด่นด้วย “Miura” Design หรูหรามีมิติ แผงคอนโซลหน้า ออกแบบใหม่เพื่อการใช้งานที่สะดวกสบายตามหลัก Usability Design สร้างประสบการณ์พิเศษในทุกการเดินทาง
ชุดมาตรวัดเรืองแสงใหม่พร้อมจอขนาดใหญ่ 7 นิ้ว Multitasking System เชื่อมต่อข้อมูลกับหน้าจอที่มาตรวัด Integrated MID แสดงผลได้หลายฟังก์ชัน พร้อมระบบแสดงองศามุมปีนไต่ ลาดเอียง ทิศทางการเลี้ยวของล้อ และจอแสดงการทำงานของระบบวัดลมยาง TPMS ทำงานผ่านทั้งจอมาตรวัดและจอสัมผัส Infotainment Display ขนาด 8 กับ 9 นิ้ว รองรับการใช้งานทั้งระบบ Wireless Android Auto และ Wireless Apple CarPlay รวมถึงระบบนำทางในตัวจอเฉพาะรุ่นจอ 9 นิ้ว พร้อมมาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอ MID ขนาด 4.2 นิ้ว และธรรมดาพร้อมจอ 3.5 นิ้วให้เลือก
มี Charging Socket แบบ USB-C และ USB-A ชาร์จได้รวดเร็วทั้งที่นั่งด้านหน้าและด้านหลัง เบาะไฟฟ้าคนขับปรับได้ 8 ทิศทาง มีปุ่มดันหลังด้วยไฟฟ้าและเบาะคนนั่งด้านหน้าปรับด้วยไฟฟ้า 4 ทิศทาง ในรุ่น LS-U+ กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ แผงควบคุมเครื่องปรับอากาศปุ่มหมุนแบบ Full Mode Control พร้อมทิศทางลม 5 ตำแหน่งรวมตำแหน่งไล่ฝ้ากระจกหน้า ทั้งแบบหมุนและอัตโนมัติแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา ระบบเสียงรอบทิศทางตั้งแต่ 4 ลำโพง 6 ลำโพง และสูงสุด 8 ลำโพง Dynamic Surround Sound ปุ่ม Push Start พร้อมกุญแจแบบ Keyless Entry พร้อมฟังก์ชัน Remote Engine Start สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยกุญแจรีโมทในระยะ 20 เมตร
ขุมพลังดีเซลเทอร์โบแปรผันไฟฟ้า E-VGS Turbo มีกันถึงสองทางเลือกเริ่มที่รุ่น 4JJ3-TCX ขนาด 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูง 450 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,600 รอบต่อนาที
และรุ่น RZ4E-TC ขนาด 1.9 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูง 350 นิวตันเมตร ที่ 1,800-2,600 รอบต่อนาทีมีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด พร้อม Genius Sport Shift เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม RevTronic และ แป้นเปลี่ยนเกียร์หลังพวงมาลัย Paddle Shift
ทั้งสองเครื่องมาพร้อมเทคโนโลยีตัวกรองเขม่าไอเสียในเครื่องยนต์ดีเซล DPD (Diesel Particulate Diffuser) ลดเขม่าและฝุ่นขนาดเล็กจากการเผาไหม้ มาตรฐานยูโร 5 สามารถรักษาสมรรถนะรถ ประสิทธิภาพการใช้งานอันยอดเยี่ยม และยังสามารถลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น โดยไม่เติมน้ำยาบำบัดไอเสียในเครื่องยนต์ดีเซล เช่น AdBlue ต่างกับเทคโนโลยีบำบัดไอเสียอื่นๆที่ต้องเติมน้ำยาบำบัดไอเสีย เช่น AdBlue ตลอดการใช้งาน เป็นการเพิ่มภาระและค่าใช้จ่ายแก่ผู้ใช้รถ
เลือกได้ทั้งแบบขับเคลื่อนสองและขับเคลื่อนสี่ล้อ Part-Time Terrain Command พร้อม Diff-Lock ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า ใหม่ Rough Terrain Mode ช่วยควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ เบรกให้เหมาะสมเพื่อให้สามารถผ่านอุปสรรคไปได้ ทำงานได้ทั้ง 2H, 4H และ 4L พร้อมพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ IDAS (ISUZU’s Intelligent Driver Assistance System) เวอร์ชัน 4 เวอร์ชันใหม่ทำงานด้วยกล้องหน้าคู่ 3D Imaging Stereo Camera แม่นยำกว่ากล้องเดี่ยวแบบ Mono Camera ทั่วไป ตรวจจับเส้นถนนและวัตถุด้านหน้ารถแบบ Real Time มีมุมมองกว้างและแม่นยำกว่าเดิม พร้อมเรดาร์ 2 จุด และเซนเซอร์ 8 จุดรอบคัน
เพิ่มระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย RCTB (Rear Cross Traffic Brake) รวมถึงอัพเกรดระบบที่มีอยู่ไม่ว่าจะเป็น ควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติอัจฉริยะ IACC (Intelligent Adaptive Cruise Control) พร้อม Stop&Go ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)
นอกนั้นคงเดิมทั้งระบบอ่านป้ายจราจร TSR (Traffic Sign Recognition) ช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention) ควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC (Trailer Sway Control) จำกัดความเร็วอัจฉริยะ ISL (Intelligent Speed Limter) แจ้งเตือนการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ DAA (Driver Attention Assist) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในสภาวะฉุกเฉิน ELK (Emergency Lane Keeping)
ระบบเตือนการชนด้านหน้าและหยุดรถอัตโนมัติ FCW & AEB (Front Forward Collision Warning & Autonomous Emergency Brake) เตือนเมื่อออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning) ตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วคราวในกรณีเผลอเหยียบคันเร่งโดยไม่ได้ตั้งใจ MAM (Mis Acceleration Mitigation) ปรับไฟสูงอัตโนมัติ AHB (Auto High Beams) ช่วยเบรกฉุกเฉินขณะกำลังเลี้ยว TA (Turn Assist)
พร้อมออปชันความปลอดภัยพื้นฐานอัพเกรดใหม่ทั้ง Welcome light ไฟส่องสว่างในห้องโดยสาร และ Welcome Headlight ไฟหน้ารถทั้งคู่จะเปิดอัตโนมัติ เมื่อเข้าใกล้รถ ในระยะ 2 เมตร และกล้องมองหลังพร้อมเส้นกะระยะการจอดเลี้ยวตามโค้ง
ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน BSM (Blind Spot Monitoring) เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert) เบรก ABS กระจายแรงเบรก EBD ควบคุมการทรงตัว ESC ป้องการลื่นไหล TCS ช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HSA (Hill Start Assist) ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control) เปิดไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน ESS (Emergency Stop Signal)
สัญญาณเตือนการจอด Parking Aid System พร้อมเซนเซอร์กะระยะ 8 จุดรอบคัน ตัดการทำงานของ BSM และ RCTA แบบอัตโนมัติในกรณีลากจูง ถุงลมนิรภัยรอบคัน 8 จุด รวมถุงลมนิรภัยคั่นกลางระหว่างเบาะหน้ากับใต้เข่าคนขับ Crash Unlock ปลดล็อกประตูอัตโนมัติ เมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน และตรวจวัดลมยาง Tyre Pressure Monitoring System (TPMS)
ISUZU D-MAX นำเข้าจากไทยมีจำหน่ายทั้งแบบกระบะท้ายมาตรฐานและกระบะเรียบ cab-chassis แบ่งเป็น 5 เกรดตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น SX, LS-M, LS-M X-Rider, LS-U, LS-U+ และรุ่นแต่ง X-TERRAIN มีทั้งหมด 25 รุ่นย่อย เริ่มขายออสเตรเลีย 1 พฤษภาคมนี้ ในราคาไม่รวมค่า On-Road เริ่มต้น $32,700-$70,500 หรือราว 789,000 – 1,709,000 บาท
มีสีภายนอกทั้งหมด 9 สีได้แก่ สีขาว Mineral White, สีดำ Basalt Black Mica, สีบรอนซ์เงิน Mercury Silver Metallic, สีเทา Obsidian Grey Mica มี 3 สีพิเศษเฉพาะรุ่น LS-M X-Rider, LS-U, LS-U+ และรุ่นแต่ง X-TERRAIN ได้แก่สีน้ำเงิน Neptune Blue Mica, สีขาวมุก Moonstone White Pearl , สีเทาลัมโบ Granite Grey Mica และสีส้ม Sunstone Orange Mica เฉพาะรุ่นท็อป X-TERRAIN