หลังจากรีวิวแบบถึงลูกถึงคนสำหรับ ISUZU V-Cross 4×4 คราวนี้ทีมงาน Car2Day ได้ขับรุ่นนี้อีกครั้งโดยเดินทางกันที่จังหวัดขอนแก่น
ก่อนจะเริ่มทริปท่องเที่ยวเชิงวิถีชุมชนที่ขอนแก่นเรามาทำความคุ้นเคยกับสปอร์ตออฟโรดรุ่นปรับโฉมกันอีกครั้งโดยรุ่นที่ขับเป็นรุ่นท็อปสุด 3.0 M เกียร์อัตโนมัติหน้าตาภายนอกปรับดีไซน์ใหม่ตั้งแต่หน้าจรดท้ายเริ่มที่ฝากระโปรงออกแบบใหม่หมดเส้นสายเล่นระดับ กระจังหน้าดีไซน์เอกลักษณ์สองชั้นเขี้ยวซ่อนรูป 3-Dimension สีเทาดำ และ Black Chrome ลงตัวด้วยชุดกันชนหน้าดีไซน์ใหม่เป็นหนึ่งเดียวกับกระจังหน้ามีช่องระบายอากาศทรงหกเหลี่ยมลายรังผึ้งพร้อม Air Curtain แบบAerodynamic ลดแรงต้านอากาศ บริเวณบนกรอบไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED เสริมการ์ดกันชนหน้าใหม่ออกแบบเรียบเนียนเข้ากับกันชนหน้า ไฟหน้า Bi-LED พร้อม Multifunctional Daylight ทำหน้าที่เป็นไฟส่องสว่างกลางวัน ไฟหรี่ และไฟเลี้ยวที่ย้ายมาอยู่ในโคมเดียวกัน
ฝาท้ายใหม่ดีไซน์รูปตัว H พร้อมสปอยเลอร์ในตัวกระบะท้าย ไฟท้ายแบบ Triple-Armour LED กันชนหลังสีเดียวกับตัวรถให้ความรู้สึกบึกบึน ขึ้นลงสะสวกเท่ แกร่ง คิ้วเสริมขอบกระบะท้าย Robust Extender ดีไซน์ใหม่ ครบครันความเข้มอย่างเต็มรูปแบบทั้งชุดแต่งพร้อมชุดแต่งรอบคันทั้งกระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED ราวหลังคา มือจับประตู บันไดข้าง ตกแต่งสีเทาดำด้าน ไลเนอร์ปูกระบะจากโรงงานและดุดันด้วยล้ออัลลอย 6 ก้านขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์แบบ Rugged & Wild สีดำด้าน พร้อมยาง 265/60 R18 คิ้วขอบล้อ Fender Lip ดีไซน์ใหม่กลมกลืนกับลายล้อ
ภายในยกระดับความสะดวกสบายสไตล์พรีเมียมโดดเด่นด้วย Miura Design หรูหรามีมิติ แผงคอนโซลหน้ามีการปรับดีไซน์การใช้งานใหม่เพื่อการหยิบจับฟังก์ชันการใช้งานที่สะดวกสบาย มาในโทนสีทูโทน ดำ-น้ำตาลหุ้มหนังสัมผัส ชุดมาตรวัดเรืองแสงใหม่พร้อมจอขนาดใหญ่ 7 นิ้ว Multitasking System เชื่อมต่อข้อมูลกับหน้าจอ Integrated MID แสดงผลได้หลายฟังก์ชัน พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันปรับระดับได้ 4 ทิศทาง หน้าจอระบบสัมผัส Infotainment Display ขนาด 9 นิ้ว รองรับการใช้งานทั้งระบบ Wireless Android Auto และ Wireless Apple CarPlay
ติดตั้งระบบแสดงองศามุมปีนไต่ ลาดเอียง และทิศทางการเลี้ยวของล้อ ที่หน้าจอ Integrated MID และ Infotainment Display ลุยได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น Charging Socket แบบ USB-C ชาร์จได้รวดเร็วทั้งที่นั่งด้านหน้าและด้านหลังยังดีที่ทีมงานเตรียมสาย Type-C มาด้วยมิเช่นนั้นจะอดฟังเพลงที่สตรีมมิ่งออนไลน์อย่างแน่นอน ระบบเสียงรอบทิศทาง 8 ลำโพง Dynamic Surround Sound
เบาะนั่งโครงเดิมนั่งสบายเช่นเดิมเพิ่มเติมด้วยดีไซน์การเย็บใหม่เดินด้ายอย่างประณีตด้วยวัสดุหุ้มหนังมโทนสีดำ-น้ำตาล พร้อมเทคโนโลยี COOLMAX ลดการสะสมความร้อนเรียกว่าจอดตากแดดเข้ามาเย็นสบายแน่นอนและด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง แผงควบคุมระบบปรับอากาศแบบ Dual Zone ควบคุมอุณหภูมิอิสระซ้าย-ขวา สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กได้ถึงระดับ PM 2.5 พร้อมช่องแอร์ด้านหลัง กุญแจแบบ Keyless Entry พร้อมฟังก์ชัน Remote Engine Start สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยกุญแจรีโมทในระยะ 20 เมตร และปุ่ม Push Start
พร้อมลุยทุกงานบรรทุกหนักด้วยขุมพลังแรงและประหยัดด้วยดีเซลเทอร์โบแปรผันไฟฟ้า E-VGS Turbo รุ่น 4JJ3-TCX ขนาด 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูง 450 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,600 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม RevTronic บวก ลบ และแป้นเหนี่ยว Paddle Shift ขับเคลื่อนสี่ล้อ Part-Time Terrain Command ล็อกเฟืองท้ายควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า Diff-Lock ใหม่ Rough Terrain Mode ช่วยควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ เบรกให้เหมาะสมเพื่อให้สามารถผ่านอุปสรรคไปได้ ทำงานได้ทั้ง 2H, 4H และ 4L
ภารกิจครั้งนี้เป็นการขับรถเชิงท่องเที่ยวแบบวิถีชุมชนได้มารู้จักสิ่งที่เรียกว่าอันซีนไม่เคยเห็น และอิ่มใจที่จังหวัดขอนแก่นในชื่อทริป“Trip To Do good for Community” เริ่มที่วันแรกเน้นกินกับเที่ยวด้วยระยะทางวันแรกกว่า 100 กิโลเมตรจากโชว์รูม ISUZU ถึงอำเภอภูผาม่าน ก่อนที่จะไปรับรถที่โชว์รูม เติมพลังกันกับไข่กระทะ ขนมปังสอดไส้กุนเชียงกับหมูยอ ซึ่งทํามาจากขนมปังบาแกตต์ (Baguette) แบบฝรั่งเศสขนาดเล็กกว่า ผ่ากลาง ทาเนยใส่กุนเชียง และหมูยอ และยังมีต้มเลือดหมู ก๋วยจั๊บญวน ฯลฯที่เป็นสูตรเด็ดของร้าน เอมโอช ร้านอาหารเช้าขึ้นชื่อของขอนแก่น ตั้งอยู่ถนนกลางเมืองหลังรับรถและบรรยายสรุปที่โชว์รูมเสร็จเดินทางไปเติมกาเฟอีนกันต่อกับร้าน Refill.Coffee ร้านกาแฟสไตล์ลอฟต์สุดเท่ใจกลางเมืองขอนแก่น ตัวร้านเน้นความดิบของโครงสร้าง ตกแต่งด้วยต้นไม้ประดับสวยงาม เสิร์ฟเมนูกาแฟหลากหลายทั้งจากสปีดบาร์ และสโลบาร์ที่สามารถเลือกเมล็ดกาแฟให้ บาริสต้าดริปได้ตามความชอบ และยังมีขนมพร้อมเสิร์ฟให้เลือกอีกมากมาย
จากนั้นจึงเดินทางต่อไปยัง “มีกิน ฟาร์ม” ฟาร์มเกษตรออร์แกนิกและร้านอาหารที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมวิถีชีวิตเกษตรอินทรีย์ และวิถีชุมชน รวมถึงมีกิจกรรมเวิร์คช็อปมากมาย ทริปนี้ได้ร่วมสร้างสรรค์ผลงาน Eco Printing หรือ พิมพ์ผ้าด้วยดอกไม้ใบหญ้าลงบนถุงผ้าด้วยฝีมือของตัวเอง โดยเริ่มจากไปเก็บดอกไม้ใบไม้ มาทุบลงบนถุงผ้า ก่อให้เกิดสีและลวดลายที่สวยงาม มีใบเดียวในโลก หลังจากได้ออกกำลังแขน ทางฟาร์มก็พร้อมเสิร์ฟเมนูอาหารออร์แกนิกพื้นบ้านที่ใช้วัตถุดิบจากที่ฟาร์มปลูก 100% การันตีความอร่อยด้วย มิชลิน บิบ กูร์มองด์ (Michelin Bib Gourmand) เมื่ออิ่มอร่อยกับมื้อเที่ยงเรียบร้อย ยังได้ทำและแช่ฟุตบอมบ์ (Footbomb) จากส่วนผสมสมุนไพรด้วยตัวเองเพื่อผ่อนคลายสบายเท้า
พร้อมสำหรับการเดินทางต่ออีก 81.2 กิโลเมตรที่อำเภอภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น มีทิวทัศน์เป็นเทือกเขาหินปูนที่มีหน้าผาตัดตรงลงมาคล้ายผ้าม่านอยู่ในอ้อมกอดแห่งขุนเขาและม่านหมอก โดยที่พักคืนนี้ คือ “โฮมสเตย์ตากับยาย ภูผาม่าน” โฮมสเตย์บรรยากาศดี เงียบสงบ มีแบ็คกราวน์เป็นภูผาม่านที่มองเห็นแบบใกล้ชิด สวยงามท่ามกลางธรรมชาติ และอากาศอันบริสุทธิ์ ให้ผู้เข้าพักได้มาสูดรับอากาศดี ๆ ได้อย่างเต็มปอด ปิดท้ายด้วยมื้อเย็นกับอาหารมื้ออร่อยท่ามกลางธรรมชาติโอบล้อมด้วยภูผาม่าน ที่ร้าน “ฮักผาม่าน” เพลิดเพลินไปกับการตกแต่งร้านสุดคูล อากาศเย็นสบายเหมาะกับการรับประทานแจ่วฮ้อน หมูหัน และสเต็กเนื้อไทยวากิวเมนูสุดพิเศษจากทางร้าน ก่อนแยกย้ายพักผ่อนกัน สำหรับวันแรกนั้นขับไป 116.5 กิโลเมตร ได้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันจากหน้าจอ 13.8 กิโลเมตรต่อลิตร โดยที่เกจ์วัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิงยังเต็มอยู่เรียกว่าประหยัดตัวพ่อเลยทีเดียว
วันที่สองของทริปเน้นกิจกรรมขับขี่เป็นส่วนใหญ่แวะชาร์จพลังก่อนเดินทางด้วยกาแฟแก้วโปรดที่ “ผาม่านฝัน” คาเฟ่พร้อมวิวธรรมชาติ หลังจากนั้น ไปกันต่อที่ “จุดชมวิวหนองสมอ” ซึ่งเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ สามารถมองเห็นวิวของภูเขาผาม่านได้แบบทอดยาว ตัดกับท้องฟ้าและมีเงาของภูเขาที่สะท้อนลงบนผิวน้ำอย่างสวยงาม และได้เก็บภาพความทรงจำของการเดินทางว่าครั้งหนึ่งเคยมาที่นี่ อีก 33.8 กิโลเมตรเดินทางกันต่อที่ “ โรงเรียนบ้านวังขอนแดงหนองหญ้าปล้อง” เพื่อแบ่งปันความสุขให้กับเด็ก ๆ โดยการมอบอุปกรณ์สนับสนุนการศึกษา และเลี้ยงอาหารกลางวันด้วยไก่ทอดเคเอฟซี ยาคูลท์ด้วยความอิ่มเอมใจ
ก่อนเดินทางไปเติมพลังด้วยมื้อกลางวัน ที่ “ตำเส้นแซ่บ” ร้านส้มตำสุดอร่อย พร้อมขนมจีนน้ำยาชุดใหญ่จัดเต็มท่ามกลางบรรยากาศขุนเขาและวิวภูเวียงเป็นฉากประกอบอันเพลินตา ก่อนเดินทางกลับเมืองขอนแก่น ปิดท้ายมื้อเย็นที่ร้าน “แก่น | Kaen” ร้านอาหารแบบ Casual Fine Dining เสิร์ฟอาหารไทยพื้นถิ่นร่วมสมัยแห่งแรกของจังหวัดขอนแก่น การันตีความอร่อยได้จากรางวัล Michelin Recommended 2023 ซึ่งแต่ละเมนูที่นำมาเสิร์ฟนั้น จะเน้นการนำวัตถุดิบขึ้นชื่อ และมีคุณภาพดีจากท้องถิ่นอีสานมาผสมผสานกันอย่างลงตัว
ปิดท้ายทริปขอนแก้นอย่างสมบูรณ์แบบด้วยระยะทางขากลับ 173.7 กิโลเมตร ได้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันจากหน้าจอ 13.6 กิโลเมตรต่อลิตร สิริระยะทางรวมทั้งสองวัน 290.2 กิโลเมตรได้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันจากหน้าจอ 13.0 กิโลเมตรต่อลิตร และเกจ์วัดน้ำมันเชื้อเพลิงหล่นไปหนึ่งส่วนสามก่อนครึ่งถัง เรียกว่าประหยัดไม่เลวเลยทีเดียว
ตลอดการขับขี่ทั้งสองวันนอกจากเรื่องความประหยัดน้ำมันแล้วเส้นทางที่ขับในจังหวัดขอนแก่นมีทั้งถนนสี่เลนใหญ่สองเลนสวนเป็นส่วนใหญ่ได้สัมผัสการเร่งแซงที่ฉับไวไม่หน่วงรอรอบของเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 190 แรงม้าตอบสนองทันใจดีแม้น้ำหนักรถหนักสองตันต้นๆก็ตามทัศนวิสัยการมองในตำแหน่งคนขับดีขึ้นเพราะการออกแบบฝากระโปรงหน้ามีเล่นระดับเล็กน้อยจนมาถึงขอบและฐานกลางของฝากระโปรงดีไซน์โหนกนูนเรียบเนียนไม่เกะกะสายตาในการมอง ตำแหน่งเบาะปรับสูงต่ำได้ได้ตามใจชอบด้วยไฟฟ้า
เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ปรับตัวตนใหม่เซ็ตซอฟท์แวร์ใหม่ทำให้การเปลี่ยนเกียร์สัมพันธ์ความเร็ว เปลี่ยนรวดเร็วรวบรัดนุ่มนวลสมูทขึ้ นแถมมี Rev-Tronic บวกและลบในชุดเกียร์และก้านเหนี่ยวเกียร์ที่หลังพวงมาลัยหรือ Paddle Shift สนุกสนานในการขับขี่เพิ่มคูณสอง ช่วงล่างหน้าเป็นแบบอิสระปีกนก 2 ชั้นคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง และแหนบแผ่นรูปครึ่งวงรี 3 แผ่น สำหรับด้านหลังใช้โช้คอัพแก็สทั้งหน้าและหลัง
เซ็ตช่วงล่างออกไปทางนุ่มนวลหนึบนิดเด้งหน่อยตามสไตล์ ISUZU พวงมาลัยพาวเวอร์แบบน้ำมันรัศมีวงเลี้ยว แคบสุด 6.1 เมตร ยังให้น้ำหนักกลางๆ เหมาะมือสำหรับเดินทางไกลๆ แป้นเบรกเหยียบ 20% รถเริ่มหยุดจนไม่เหยียบเพิ่มอีกด้วยการทำงานของหม้อลมเบรกขนาดใหญ่รวมถึงดิสก์เบรกขนาดใหญ่ 320 มิลลิเมตร และด้านหลังดรัมเบรกส่งผลให้เบรกมั่นใจฉับไวไม่ไถลไปชนท้ายรถคันหน้า
ระบบความปลอดภัยกับใหม่ล่าสุด ISUZU Matrix Safety Intelligence ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS ด้วย 3D Imaging Stereo Camera ที่มีมุมมองกว้างและแม่นยำกว่าเดิม พร้อมเรดาร์ 2 จุด และเซนเซอร์ 8 จุดรอบคัน ระบบเตือนการชนด้านหน้าอัตโนมัติ FCW Front Forward Collision Warning กับ หยุดรถอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Brake) ถ้ามองกลับกันนับเป็นตาวิเศษที่ช่วยป้องกันอันตรายที่เกิดขึ้นได้ทุกเวลา ยังมีระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ LDWS (Lane Departure Warning System) เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย RCTB (Rear Cross Traffic Brake) ทำงานร่วมกับช่วยเตือนขณะถอยรถยนต์ RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ที่จับระบบการทำงานไวไปนิดในช่วงถอยออกจากช่องจอดแม้รถสวนมา
ควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ ACC (Adaptive Cruise Control) พร้อม Stop&Go ควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ AHB (Automatic High Beam) และเตือนความเหนื่ออยล้าขณะขับขี่ Attention Assist เป็นต้น โดยเฉพาะ RCTB เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอยออกจากช่องจอดและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB เมื่อเจอรถคันหน้า คนเดินถนน แม้จะพัฒนาเวอร์ชันให้ใหม่แต่ความไวในการทำงานไวแบบไม่ทันตั้งตัวปนสยองขวัญเล็กน้อยทางที่ดีควรปรับให้ไวแบบสมเหตุสมผลก็ยังดี และอีกอย่างถ้าเจอฝุ่นหนาเข้ามาระบบ ADAS จะหยุดทำงานอัตโนมัติจนกว่าสภาพถนนจะกลับเข้าสู่ปกติ
ISUZU V-Cross 4×4 สปอร์ตออฟโรดปรับโฉมครั้งใหญ่ในราคา 1,257,000 บาทกับสีส้มแดงนามิบู ไมก้า Namibu Orange Mica พ่วงสมรรถนะความแรงความประหยัด ผนวกเข้มผสมหรูตกแต่งมีสไตล์ จอมาตรวัดใหม่อ่านง่ายขึ้นจอสัมผัส 9 นิ้วเข้าถึงภาพแสดงการทำงานตัวรถจากจอจอสัมผัสได้สะดวกขึ้น ระบบขับสี่ที่สู้คู่แข่งได้ ลุยได้ไม่อายใครช่วงล่างถูกใจรุ่นเก่าแต่ไม่ถูกใจวัยรุ่นไปอัปเกรดเสริมหนึบสมแล้วที่ ISUZU V-Cross 4×4 ครองใจชาวอีซูซุมายาวนานและกลุ่มมือใหม่พึ่งสัมผัสครั้งแรก
ด้วยความเชื่อมั่นการให้บริการด้วยความเอาใจใส่ เครือข่ายการจำหน่ายกว่า 340 แห่งทั่วประเทศ ความโดดเด่นในด้านนวัตกรรมประหยัดน้ำมัน ราคาขายต่อดี ทำให้ได้รับความนิยมจากชาวไทยอย่างสูง ไม่ว่าจะซื้อไปใช้เพื่อการพาณิชย์ ซื้อไปใช้ส่วนตัว เกิดภาพลักษณ์ของแบรนด์จากรุ่นสู่รุ่นว่าเป็น “รถที่คุ้มค่าเงินสูงสุด”จนมียอดขายอันดับ 1 ยาวนานและยอดผลิตทะลุ 6 ล้านคันโดยใช้เวลาเพียง 3 ปีหลังจากวาระครบรอบ 5 ล้านคันเท่านั้น
