More

    รีวิว! ISUZU V-Cross 4×4 2024 ออลนิวขับสี่ หล่อทุกมิติลุยทุกทางโหด

    แม้ตลาดรถปิกอัพในไทยเจอมรสุมเข้ามาหลายระลอกก็ไม่ทำให้ ISUZU-DMAX สั่นคลอนเป็นปิกอัพขวัญใจมหาชนมาตลอดและพระเอกหลักหนีไม่พ้น ISUZU V-Cross 4×4

    ISUZUน้องออลนิวสายลุยคันนี้ปรับโฉมครั้งใหญ่ในรอบสี่ปีของการทำตลาดเจเนอเรชันที่สามปรับให้หล่อโดนใจสิงห์รถปิกอัพรุ่นใหม่และเหล่าประชาคมชาวอีซูซุที่ภักดีแบรนด์มากว่า 66 ปี ครั้งนี้นำรุ่นท็อปสุดของ ISUZU V-Cross 4×4 มารีวิวทดสอบกันกับรุ่น 4 ประตู 3.0 M เกียร์อัตโนมัติ

    Design & Exterior

    ISUZUออฟโรดลุยท้าโลกคันนี้มาในมาดเท่ตั้งแต่ฝากระโปรงออกแบบใหม่เส้นสายเล่นระดับ กระจังหน้า จดถึงกันชนหน้าเริ่มที่กระจังหน้าดีไซน์เอกลักษณ์สองชั้นเขี้ยวซ่อนรูป 3-Dimension สีเทาดำ และ Black Chrome ลงตัวกับชุดกันชนหน้าดีไซน์ใหม่เป็นหนึ่งเดียวกับกระจังหน้ามีช่องระบายอากาศทรงหกเหลี่ยมลายรังผึ้งพร้อม Air Curtain นวัตกรรม Aerodynamic ลดแรงต้านอากาศ แบบฉบับ รถสปอร์ตหรู พร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED เสริมการ์ดกันชนหน้าใหม่ออกแบบเรียบเนียนเข้ากับกันชนหน้าไฟหน้า Bi-LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ Multifunctional Daylight เป็นทั้งไฟเดยไลท์ส่องตอนกลางวันแล้วยังเป็นไฟหรี่และไฟเลี้ยวในตำแหน่งเดียวกัน ฝาท้ายใหม่ดีไซน์รูปตัว H พร้อมสปอยเลอร์ในตัวกระบะท้าย ไฟท้ายแบบ Triple-Armour LED แบบเส้นตัวแอลนอนสามชั้นกลมกลืนหรูหรา กันชนหลังสีเดียวกับตัวรถให้ความรู้สึกบึกบึน ขึ้นลงสะดวก

    เสริมคิ้วเสริมขอบกระบะท้าย Robust Extender ดีไซน์ใหม่สีทูโทนส่วนบนเป็นสีเดียวกับตัวรถและส่วนล่างเป็นสีดำ ภายในกระบะท้ายติดตั้งไลเนอร์ปูพื้นจากโรงงานแต่ว่าเมื่อเปิดฝากระบะท้ายมากลับไม่มีห่วงล็อกของตามมุมภายในกระบะท้าย ครบครันเข้มด้วยชุดแต่งออฟโรดรอบคันทั้งสีดำ ตั้งแต่ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED ราวหลังคา มือจับประตูมีปุ่มเล็กๆสีดำสำหรับปลดล็อกประตูเสียดายว่าไม่มีปลอดล็อกแบบดึงก้านเหมือน V-Cross เจนที่แล้วซึ่งอยากให้กลับมา บันไดข้างขึ้นรูป ล้ออัลลอยหกก้านสีดำด้าน Matte Black ดีไซน์แบบ Rugged & Wild เฉพาะรุ่นขนาด 18 นิ้ว แกร่งดุดัน พร้อมยางแบบ H/T จากค่าย Bridgestone รุ่น Dueler HT 684 II ขนาด 265/60 R18 ลงตัวด้วยคิ้วขอบล้อ Fender Lip สีดำด้าน ดีไซน์ใหม่กลมกลืนกับลายล้อ

    มิติตัวรถปรับเล็กน้อยตั้งแต่ความยาว 5,280 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,870 มิลลิเมตร ความสูง 1,810 มิลลิเมตร ฐานล้อ 3,125 มิลลิเมตร ความกว้างฐานล้อหน้าและล้อหลังเท่ากัน 1,570 มิลลิเมตร ความสูงใต้ท้องรถ 240 มิลลิเมตร. น้ำหนักรถ 2,025 กิโลกรัม ความจุถังน้ำมัน 76 ลิตร มิติกระบะท้ายนั้นมีขนาดพอดีตั้งแต่ ความยาว 1,495 มิลลิเมตร กว้าง 1,530 มิลลิเมตร ความสูงในกระบะท้าย 490 มิลลิเมตร เมื่อเทียบ V-Cross 4×4 รุ่นเดิมความยาวตัวรถมากกว่าเดิม 15 มิลลิเมตรนอกนั้นเหมือนเดิม

    Interior & Convenience

    ISUZUภายในดูเดิมๆถ้ามองลึกๆจะพบการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่การออกแบบแผงประตูขึ้นรูปเล่นลวดลายสวยสีดำผสมคิ้วขอบที่เปิดประตูและหนังสัมผัสบริเวณที่ท้าวแขนสีน้ำตาลเข้ม สไตล์พรีเมียมโดดเด่น Miura Design โทนสีทูโทน ดำ-น้ำตาล พร้อมคอนโซลหน้าทรงเดิม Sharp Horizontal Layers ปรับลุคใหม่เล่นลวดลายบนคิ้วช่องแอร์ซ้าย-ขวาและหนังสัมผัสบนแผงคอนโซลหน้ากลับมาใช้สีน้ำตาลเข้มอีกครั้ง ชุดมาตรวัดเรืองแสงใหม่พร้อมจอ​ขนาดใหญ่​ 7 นิ้ว Multitasking System เชื่อมต่อข้อมูลกับหน้าจอ Integrated MID แสดงผลได้หลายฟังก์ชันและเป็นการกลับมาของระบบแสดงนำทางแบบลูกศรในชุดมาตรวัด พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันปรับระดับได้ 4 ทิศทาง แป้นกดแตรดีดีไซน์ใหม่ ปุ่ม Push Start ทำงานร่วมกับกุญแจแบบ Keyless Entry พร้อมปุ่มสีดำเล็กๆที่ก้านประตูภายนอกไม่สามารถปลดล็อกด้วยการดึงก้านเปิดประตูได้

    ใต้แผงคอนโซลหน้าด้านคนขับมีปุ่มปรับระดับสูงต่ำของไฟหน้า LED และ ปุ่ม ISS (Idling Stop/Start System) ตัดการทำงานของเครื่องยนต์ชั่วคราวและกลับมาทำงานโดยอัตโนมัติที่ยังคงเหยียบเบรกและตำแหน่งเกียร์ต้องอยู่ในเกียร์ D ระบบจะทำงานนานสุดหนึ่งนาที ระบบแอร์กับเครื่องเสียงยังทำงานและถ้ารำคาญใจที่ต้องกังวลว่าเดี๋ยวดับเดี๋ยวทำงานสามารถปิดระบบได้และมีช่องใส่นามบัตร

    ISUZUคอนโซลกลางติดตั้งช่องแอร์แนวตั้งซ้าย-ชวาพร้อมหน้าจอระบบสัมผัสใหม่ Infotainment Display ขนาด 9 นิ้ว ปุ่ม ข้อมูล และวิดเจ็ต (Widgets) จะแสดงบนหน้าหลักแสดงเวลา ข้อมูลตัวรถ และคลื่นวิทยุการเชื่อมต่อรองรับการใช้งานทั้งระบบไร้สายแบบ Android Auto และ Apple CarPlay สียดายว่าไม่มีระบบนำทางในตัวตั้งแต่รุ่น V-Cross MAGIC EYEs เพราะคนส่วนมากหันมาใช้ Google Map เชื่อมจากสมาร์ตโฟนแทน 

    ฟังก์ชันใหม่มีระบบแสดง องศามุมปีนไต่ ลาดเอียง, ทิศทางการเลี้ยวของล้อ ,ปรับตั้งการทำงานของระบบ ADAS, การแสดงระบบขับเคลื่อนและระบบไฟฟ้าในรถได้ทั้งสองส่วนทั้งจากจอจอสัมผัสและหน้าจอมาตรวัดเรียกว่าสะดวกสบายขึ้น พร้อมลำโพงรอบทิศทาง 8 ลำโพง Dynamic Surround Sound แผงควบคุมระบบปรับอากาศแบบ Dual Zone ควบคุมอุณหภูมิอิสระซ้าย-ขวา พร้อมลมไล่ฝ้ากระจกหน้าและลวดไล่ฝ้ากระจกหลัง สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กได้ถึงระดับ PM 2.5 ช่องเสียบ Charging Socket สำหรับชาร์จมือถือ หรือเชื่อมต่อ หันมาคบแบบ USB-C ชาร์จได้รวดเร็วโดยช่องเสียบมีให้สองตำแหน่งทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

    สวิตช์ปุ่ม 4×4  คอนโซลเกียร์ยังเป็นทรงหัวเกียร์ทรงเดิมสีเงินหุ้มหนังดำแสดงตำแหน่งพร้อมไฟเรืองแสง รายล้อมด้วยปุ่มการทำงานต่างๆทั้งปุ่มซ้ายมือมีทั้งปุ่มควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน กับ ปุ่มปิดการทำงานเซนเซอร์กะระยะการจอด ช่อง Shift Lock สำหรับปลดเกียร์ว่างจอดขวาง ฝั่งขวามือจากเดิมมีแต่ปุ่ม Diff-Lock ล็อกเฟืองท้ายไฟฟ้าแล้วยังมีปุ่มใหม่ Rough Terrain Mode ถัดลงมาเป็นเบรกมือคันโยกและกล่องคอนโซลกลางหุ้มหนังสัมผัสสีน้ำตาลเท้าแขนได้สบายๆ เก๊ะใส่ของด้านคนนั่งมีสามช่องทั้งบนแผง

    ตรงกลางด้านแผงช่องแอร์และใต้แผงคอนโซลหน้าด้านคนนั่งจุของได้เยอะและยังเป็นที่อยู่ของตัวกุญแจไขยกเลิกการทำงานถุงลมนิรภัยด้านผู้โดยสารด้านหน้าสำหรับการติดตั้งที่นั่งคาร์ซีทในเบาะโดยสาร ไฟเตือนอยู่ที่ด้านข้างคอนโซลหน้าฝั่งผู้โดยสาร

    ISUZUเบาะคู่หน้าสีน้ำตาลกับสีดำเดินด้ายสีขาวลวดลายใหม่ด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ส่วนคนนั่งปรับ 4 ทิศทางธรรมดา มี COOLMAX  ช่วยลดการสะสมความร้อนในตัวเบาะ สามารถซับแรงสั่นสะเทือนลดความเมื่อยล้ากับเทคโนโลยี AVEC (Anti Vibration Elastic Comfort) นั่งสบายรื่นรมย์ในการเดินทางเรียกว่าเป็นปิกอัพอันดับต้นๆของไทยที่ใส่ใจในเรื่องความสบายรองรับสรีระคนขับคนนั่งได้ทุกรูปแบบเสียดายน่าจะมีระบบดันหลังมาให้จะวิเศษขึ้นกว่านี้ เบาะนั่งด้านหลังหุ้มหนังแบบเดียวกับด้านหน้าโดยพับได้ทั้งส่วนตัวเบาะและที่รองนั่งแบบ 60/40 สามารถวางของได้รองรับที่นั่งเด็ก ISOFIX ด้วยขึ้นลงสะดวกด้วยราวจับถึง 8 จุด

    ISUZUหลังคารถขึ้นรูปผ้ากะมะหยี่สีดำติดไฟส่องแผนที่กับกล่องแว่นตา ไมโครโฟนสำหรับการสนทนาผ่านทาง Bluetooth มีแผงบังแดดคู่หน้าติดตั้งกระจกแต่งหน้าพร้อมไฟส่องสว่างมาถึง 2 จุด เอาใจสาวแกร่งหันมาขับรถปิกอัพแต่คนหล่อก็ส่องแต่งเท่ได้ มีฟังก์ชันเอาใจคนรักความสะดวกสบายด้วย Remote Engine Start สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยกุญแจรีโมทในระยะ 20 เมตรไฟส่องสว่างในห้องโดยสารเปิดอัตโนมัติ เมื่อเข้าใกล้รถในระยะ 2 เมตร Welcome Light ล็อกประตูอัตโนมัติ เมื่อเดินออกห่างจากตัวรถเกินระยะ 3 เมตร Walk Away Auto Lock เปิดไฟส่องสว่างได้นาน 30 วินาที หลังดับเครื่องยนต์ Follow Me Home ระบบกรองอากาศเข้าห้องโดยสาร กระจกบังลมหน้าแบบ IR Cut ช่วยกรองรังสีอินฟราเรด ป้องกันรังสี UVA และ UVB ช่วยลดอุณหภูมิในห้องโดยสาร

    Engine & Transmission

    ISUZUแรงสะใจด้วยพลังดีเซลเทอร์โบแปรผันไฟฟ้า E-VGS Turbo รุ่น 4JJ3-TCX ขนาด 3.0 ลิตร มีกำลังอัดที่ลดลง 16.3:1 ส่วนเส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบและช่วงชักคือ 95.4 มิลลิเมตร X 104.9 มิลลิเมตร ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูง 450 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,600 รอบต่อนาที พื้นฐานเครื่องมีการออกแบบห้องเผาไหม้แบบ Optimum Combustion Shape ช่วยให้น้ำผสมกับอากาศได้ดีขึ้น

    เทอร์โบแปรผันปรับไฟฟ้าตั้งอัตราการบูสท์ไว้เท่าเดิมคือ 1.7 บาร์ หรือประมาณ 24 ปอนด์กล่อง ECM ประมวลผลแม่นยำยิ่งขึ้นแบบ Multi-core, สลักลูกสูบเคลือบสารพิเศษ Diamond Like Carbon, ลูกสูบ+แหวนแบบใหม่, ควบคุมการเปิด-ปิดวาล์น้ำด้วยระบบไฟฟ้า Electronic Thermostat รวมถึงส่วนประกอบอื่นๆ ทั้ง Timing Gear แบบ Double Scissors Gear หรือเฟืองกรรไกรแบบคู่ช่วยลดระยะห่างของฟันเฟือง

    เครื่องยนต์เดินเรียบและทนทาน ระบบ Common Rail เจเนอเรชันที่ 4 ที่มีหัวฉีดแบบ High Pressure แรงดันสูงถึง 250 MPa, ปั๊มเชื้อเพลิงควบคุมการทำงานด้วย PCV ท้ายรางแบบไฟฟ้า

    ส่งผลให้การปล่อยไอเสีย CO2 ทำได้เพียง 186 กรัมต่อกิโลเมตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด Rev Tronic พ่วงระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Part-Time Shift-On-The-Fly ควบคุมด้วยไฟฟ้า Terrain Command เฟืองท้ายไฟฟ้าแบบ Electronic Diff-lock

    ISUZU V-Cross 4x4แต่พอมาเป็นเครื่อง EURO 5 ทุกอย่างเหมือนเดิมแต่เพิ่มรายละเอียดเช่น เทคโนโลยีตัวกรองเขม่าไอเสียในเครื่องยนต์ดีเซล DPD (Diesel Particulate Diffuser) ลดเขม่าและฝุ่นขนาดเล็กจากการเผาไหม้จากเดิมจะมี แคทาลิติก คอนเวอเตอร์ สามารถรักษาสมรรถนะรถ ประสิทธิภาพการใช้งานอันยอดเยี่ยม และยังสามารถลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นโดยไม่เติมน้ำยาบำบัดไอเสียในเครื่องยนต์ดีเซลเช่น AdBlue

    ISUZU

    ระบบวาล์วน้ำใหม่แบบขี้ผึ้งแทนแบบเดิมที่ใช้ไฟฟ้าพร้อมฮีตเตอร์ไฟฟ้า ลูกสูบออกแบบหัวลูกสูบใหม่ ระบบ EGR มีท่อบายพาสจากเดิมไม่มีท่อ พัฒนากล่องสมองกล ECM ใหม่ประมวลการทำงานอย่างรวดเร็วขึ้น เพิ่มเซนเซอร์ในระบบเครื่องยนต์ในส่วนของอุณหภูมิน้ำมันเครื่อง อุณหภูมิ CAC ระบบ EGR ทั้งอุณหภูมิและความดัน EGR ระบบ DPD ในส่วนอุณหภูมิไอเสีย 1,2 O2 และแรงดัน DPD ส่งผลให้ส่งผลให้การปล่อยไอเสีย CO2 เพิ่มจากเดิมเป็น 190 กรัมต่อกิโลเมตร

    Handling & Ride

    ISUZUถึงขุมพลังนี้เป็นหนึ่งในตระกูล 4J ที่คนไทยทั้งประเทศไว้วางใจมากว่า 30 ปี ตั้งแต่ 4JA1 มังกรทองจนถึง 4JJ3-TCX พัฒนาให้เข้ากับยุคสมัยปรับแต่งปรับจูนได้ดีกว่าง่ายกว่าเป็นที่นิยมของกลุ่มสายโมเพิ่มกำลัง ด้วยความแรงเกือบ 200 ม้า แรงบิดสูง 400 กลางๆ กับน้ำหนักรถ 2 ตันพ่วงชุดทรานเฟอร์  ฟิลลิ่งไม่ต่างจาก V-Cross รุ่นก่อน ให้ทั้งความสนุกตอบสนองดี กระฉับกระเฉงขณะออกตัว ขับความเร็วกลางๆและสูงๆ เรียกกำลังไม่มีอาการหน่วงในทางเรียบแม้กระทั่งเส้นทางขึ้นลงทางชันโหดเอาการ อาการ Engine Brake จะคอยดึงกำลังของเครื่องยนต์ช่วงความเร็วลดลงมาถึง 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงมีดึงบ้าง

    รอบการทำงานของเครื่องในช่วงความเร็ว 90-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เหมือนเดิมทำงานไม่ถึง 2,000 รอบต่อนาที และแต่ละช่วงความเร็วมาแบบเร็วติดปีกตั้งแต่ 1,300, 1,450, 1,550 และ 1,750 รอบต่อนาที เสียงเครื่องยนต์เงียบในช่วงรอบเดินเบา 675-725 รอบต่อนาที ความเร็วต่ำจนถึงความเร็วสูง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป ช่วงรอบกลางถึงรอบสูงยังให้ความเงียบสงบพูดคุยฟังเพลงสบายอุราด้วยการติดตั้งฉนวนกันเสียงรบกวนที่หนาทั่วทั้งคัน ทัศนวิสัยการมองในตำแหน่งคนขับดีขึ้นเพราะการออกแบบฝากระโปรงหน้ามีเล่นระดับเล็กน้อยจนมาถึงขอบและฐานกลางของฝากระโปรงดีไซน์โหนกนูนเรียบเนียนไม่เกะกะสายตาในการมอง ตำแหน่งเบาะปรับสูงต่ำได้ได้ตามใจชอบด้วยไฟฟ้า

    เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดถึงจะใช้ลูกเดียวกับ Toyota Hilux REVO รุ่น AWR6B45 จาก AISIN พอมาเป็นรุ่นปี 2024 ปรับนิสัยปรับตัวตนใหม่ด้วยการเซ็ตซอฟท์แวร์ใหม่ให้เปลี่ยนเกียร์สัมพันธ์ความเร็ว เปลี่ยนรวดเร็วรวบรัดนุ่มนวลสมูทขึ้นแถมมี Rev-Tronic บวกและลบในชุดเกียร์และก้านเหนี่ยวเกียร์ที่หลังพวงมาลัยหรือ Paddle Shift สนุกสนานในการขับขี่เพิ่มคูณสอง แม้พื้นฐานโครงสร้างเกียร์ อัตราทดเกียร์ทาง ISUZU ไม่เติมแต่งยังเดิมๆ ด้วยอัตราทดเกียร์ เกียร์ 1= 3.600, เกียร์ 2 = 2.090, เกียร์ 3 = 1.488, เกียร์ 4 = 1.000, เกียร์ 5 = 0.687, เกียร์ 6 = 0.580, เกียร์ถอยหลัง = 3.732 อัตราทดเฟืองท้าย = 3.727 (อัตราทดเกียร์ 4L = 2.482 แล 4H = 1.000)

    ISUZUโหมดอัตราเร่ง Performance Test จากจุดหยุดนิ่งถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ 9.86 วินาที (รุ่นเดิมทำได้ 9.65 วินาที) และ 80-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 7.50 วินาที (รุ่นเดิมทำได้ 7.44 วินาที) อัตราสิ้นเปลือง Save Mode ทำได้ 14.80 กิโลเมตรต่อลิตร (รุ่นเดิมทำได้ 14.02 กิโลเมตรต่อลิตร) จากระยะทางรวม 61 กิโลเมตร จัดน้ำมันเต็มถัง 4.12 ลิตร ใช้ความเร็วไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนอัตราสิ้นเปลืองในเมืองทำได้ 14.42 กิโลเมตรต่อลิตร ปิดท้ายนอกเมืองกลับทำได้ 15.51 กิโลเมตรต่อลิตร จากระยะทาง 796.1 กิโลเมตรเส้นทาง กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เติมเข้าไปเต็มถัง 51.30 ลิตร

    ช่วงล่างหน้าเป็นแบบอิสระปีกนก 2 ชั้นคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลงและแหนบแผ่นรูปครึ่งวงรี 3 แผ่น สำหรับด้านหลังใช้โช้คอัพแก็สทั้งหน้าและหลังเข้าโคงออกไปทางนุ่มนวลหนึบนิดเด้งหน่อย ตามสไตล์ ISUZU พวงมาลัยพาวเวอร์ก็เป็นแบบน้ำมันรัศมีวงเลี้ยว แคบสุด 6.1 เมตร ยังให้น้ำหนักกลางๆเหมาะมือสำหรับเดินทางไกลๆ แป้นเบรกเหยียบ 20% รถเริ่มหยุดจนไม่เหยียบเพิ่มอีกด้วยการทำงานของหม้อลมเบรกขนาดใหญ่รวมถึงดิสก์เบรกขนาดใหญ่ 320 มิลลิเมตร และด้านหลังดรัมเบรกส่งผลให้เบรกมั่นใจฉับไวไม่ไถลไปชนท้ายรถคันหน้า

    ISUZUนอกจากได้ขับทั้งในเมืองและนอกเมืองทั้งทางเรียบออนโรดและทางออฟโรดเบาๆที่อู่ทองสุพรรณบุรี คราวนี้ได้ไปลองขับออฟโรดโหดๆกันที่สนามเฉพาะกิจ Sam Canyon ปราณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ในงาน  ISUZU V-Cross 4×4 Unlock the Master Spirit อุปสรรคสุดท้าทายยากแค่ไหนก็ผ่านไปได้แบบจิ๊บๆ ทดสอบประสิทธิภาพระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและอาวุธลับใหม่ที่ ISUZU ยกมาจาก ISUZU MU-X เรียกว่าระบบควบคุมการกระจายกำลังทุกช่วงความเร็วในเส้นทางขุรขระหรือ Rough Terrain Mode

    ทำงานคล้ายๆกับ Diff Lock ควบคุมการทำงานเครื่องยนต์และเบรกให้เหมาะสม ทำงานร่วมกับระบบป้องกันล้อหมุนฟรีหรือ TCS ถ้าเข้าหนึ่งในสามระบบขับเคลื่อน ส่งกำลังไปยังล้อหลังหรือล้อทั้งสี่ในอัตราส่วน 50:50 หรือ 60:40 เมื่อล้อหลังข้างใดข้างหนึ่งเกิดตกหลุม ติดอยู่ในร่องดิน ร่องโคลนบางๆไปจนถึงร่องโคลนหนาๆ พื้นที่เต็มไปด้วยหิน เส้นทางที่ยากลำบากที่ต้องการแรงยึดเกาะมากขึ้นจนเกินกำลังที่ระบบขับเคลื่อนจะเข้าถึง

    ISUZUเพียงกดปุ่ม Rough Terrain Mode ช่วยให้รอดจากอุปสรรคทางที่โหดข้ามไปไม่ได้ย่นระยะเวลาการผ่านทางโหดทุกรูปแบบให้ง่ายขึ้น แม้ในสนามทดสอบจะมีทั้งไต่เนินชัน  และระบบนี้นอกจากใช้ได้ทั้ง 2H, 4 H และ 4L แล้ว ในส่วน 4L สมารถใช้ร่วมกับ Diff-Lock ได้ ตะลุยน้ำฝ่าลำธารลึกถึงลุยน้ำไม่ถึงจุดลุยสูงสุดตามที่โรงงานแจ้งไว้ถึง 800 มิลลิเมตร หลุมสลับ และทางลาดเอียงไต่ผาหิน 40 องศาก็บ่ยั่นไปโลดง่ายดาย ยังมีระบบแสดงองศามุมปีนไต่และทิศทางการเลี้ยวผ่านหน้าจอมาตรวัด Integrated MID และ และจอ Infotainment Display 9 นิ้ว ซึ่งจริงๆรถระดับนี้น่าจะเพิ่มกล้องมองหน้าและด้านข้างไว้มองเส้นทางลุยได้ง่ายนอกจากจะใช้มองจอดรถในที่แคบๆ

    Safety & Feature

    ISUZUความปลอดภัยพื้นฐานครบครันตั้งแต่ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน Blind spot monitoring เซนเซอร์กะระยะ 8 จุดรอบคัน Parking Aid System ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ Rain Sensing Wiper เพิ่มความสะดวกสบาย พร้อม Integrated Wiper Blade พร้อมฉีดน้ำบนก้านปัดแบบ Blade Type Crash Unlock ปลดล็อกประตูอัตโนมัติ เมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน

    เบรก ABS กระจายแรงเบรก EBD ช่วยเพิ่มแรงเบรกอัตโนมัติเมื่อเบรกกะทันหัน BA ควบคุมการทรงตัว ESC ป้องการลื่นไหล TCS รวมถึงออกตัวบนทางลาดชัน HSA ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC ที่ตรวจจับการทำงานอย่างแม่นยำมีหน่วงบ้างเล็กน้อยและที่สำคัญไม่กระตุกในตอนช่วงลงจากทางลาดชัน ลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก BOS ถุงลมนิรภัยรอบคัน 6 จุด กล้องส่องภาพขณะการจอดทางมีแค่มองด้านหลังพร้อมเส้นกะระยะ Lane Guide เวอร์ชันใหม่ที่หันเส้นตามวงเลี้ยงพวงมาลัย ไฟฉุกเฉินกระพริบอัตโนมัติเมื่อเบรกกระทันหัน ESS และระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด Raer Cross Traffic Alert

    ISUZUพ่วงระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) หนึ่งในระบบความปลอดภัยขั้นเทพ ISUZU Matrix Safety Intelligence ทำงานด้วยกล้องหน้าคู่ 3D Imaging Stereo Camera เวอร์ชันใหม่ คอยตรวจจับวัตถุด้านหน้าแบบ Real Time ได้อย่างชัดเจนแม่นยำกว่ากล้องหน้าเดี่ยว (Mono Camera) และกล้อง ADAS เวอร์ชันเดิม พร้อมเรดาร์ 2 จุด และเซนเซอร์ 8 จุดรอบคัน ฟังก์ชันใหม่ที่เพิ่มสองระบบคือระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย RCTB (Rear Cross Traffic Brake) ทำงานร่วมกับช่วยเตือนขณะถอยรถยนต์ RCTA (Rear Cross Traffic Alert) เตือนความเหนื่ออยล้าขณะขับขี่ Attention Assist ควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ ACC (Adaptive Cruise Control) พร้อม Stop&Go

    เตือนการชนด้านหน้าอัตโนมัติ FCW Front Forward Collision Warning, หยุดรถอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Brake), เตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ LDWS (Lane Departure Warning System), ช่วยเบรกฉุกเฉินขณะกำลังเลี้ยว TA (Turn Assist), ควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ AHB (Automatic High Beam), เบรกอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน MCB (Multi-Collision Brake), ตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุดด้วยตัวเอง MSL (Manual Speed Limiter) และตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด PMM (Pedal Misapplication Mitigation)

    ระบบ ADAS ทุกอย่างเหมือน ISUZU MU-X แต่มีความต่างนั่นคือระบบล็อกความเร็วแปรผันอัตโนมัติ ACC พร้อม Stop&Go คันหน้าหยุดเราหยุดคันหน้าไปเราไปแต่ต้องหยุดไม่เกิน 2 วินาทีระบบทำงานต่อไปแต่ถ้าหยุดเกิน 2 วินาทีจะมีเสียงเตือนให้เหยียบเบรกแต่ถ้าไม่เหยียบรถไหลแน่นอนและเมื่ออกตัวกดปุ่ม Resume อีกครั้ง เพราะรถคันนี้ใช้เบรกมือคันโยกไม่ใช่เบรกมือไฟฟ้าเหมือน MU-X ที่หยุดเกินเวลาที่กำหนด รถยังหยุดนิ่ง ด้าน RCTB เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอยออกจากช่องจอดและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB เมื่อเจอรถคันหน้า คนเดินถนน แม้จะพัฒนาเวอร์ชันให้ใหม่แต่ความไวในการทำงานไวแบบไม่ทันตั้งตัวปนสยองขวัญเล็กน้อยทางที่ดีควรปรับให้ไวแบบสมเหตุสมผลก็ยังดี

    Verdict

    ISUZUสถานการณ์ภายในประเทศทั้งเศรษฐกิจความมั่นใจผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัว ความเข้มงวดของเหล่าสินเชื่อที่อนุมัติซื้อรถยากขึ้น เป็นอุปสรรคสำคัญอันเป็นผลมาจากความกังวลต่อความสามารถในการผ่อนชำระของผู้รับสินเชื่อ ส่งผลให้ยอดขายรถปิกอัพ 11 เดือนของปี 2023 ลดลง 30.5% จากทั้งหมด 245,195 คัน จากยอดขายทั้งหมด 707,454 คัน ลดลง 7.7% แต่ตัวตึงขับสี่ของตระกูล D-MAX อย่าง ISUZU V-Cross 4×4 3.0 M สี่ประตูช่วยดันยอดขายเป็นอันดับ 1 มาตลอดด้วยยอดขายสะสม 107,729 คัน ลดลงจากปีที่แล้ว 33.3% ส่วนแบ่งตลาเ 43.9%

    การปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่นี้ช่วยตัวรถดุดันแบบเหนือลิมิตภายในเข้มผสมหรูตกแต่งมีสไตล์ จอมาตรวัดใหม่อ่านง่ายขึ้นจอสัมผัส 9 นิ้วเข้าถึงองศามุมปีนไต่ ลาดเอียง ทิศทางการเลี้ยวของล้อ ปรับตั้งการทำงานของระบบ ADAS แสดงระบบขับเคลื่อน ตั้งค่าระบบไฟฟ้าภายในรถจากจอจอสัมผัสได้สะดวกขึ้นง่ายขึ้นจากเดิมจะต้องปรับที่หน้าจอมาตรวัด ระบบขับสี่ที่สู้คู่แข่งได้ ลุยได้ไม่อายใคร

    ISUZUพลังจัดจ้านขวัญใจวัยรุ่นอย่าง 3.0 ลิตร 190 แรงม้า ไปไหนไปกันไปได้ไกลสร้างอัตราสิ้นเปลืองอยู่ระดับ 15-16 กิโลเมตรต่อลิตร รักษาดีเอ็นเอความเป็น ISUZU ช่วงล่างถูกใจรุ่นเก่าแต่ไม่ถูกใจวัยรุ่นไปอัปเกรดเสริมหนึบ ความปลอดภัย ADAS บางระบบทำงานไวเกินไป ออปชันอำนวยความสะดวกขาดไปทั้งกล้องมองภาพรอบคันและที่ชาร์จไร้สายและพวงมาลัยไฟฟ้า

    ด้วยการบริการที่ประทับจิตประทับใจ 332 แห่งเป็นจุดแข็งประชาคมอีซูซุและนักเลงรถปิกอัพหน้าใหม่หันมาสนใจซื้อ ISUZU V-Cross 4×4 3.0 M สี่ประตู ค่าตัวเพิ่มจากเดิม 40,000 บาท (1,257,000 บาท) ในเวอร์ชัน EURO4 ส่วน EURO5 เพิ่มอีก 20,000 บาท เป็น 1,277,000 บาท

    พร้อมสีใหม่ สีส้มแดงนามิบู ไมก้า Namibu Orange Mica พร้อมสีเดิมสี่สีทั้ง สีเทาโอเพค Islay Gray Opaque สีดำบาวาเรียน ไมก้า Bavarian Black Mica สีเงินโบฮีเมียน เมทัลลิก Bohemian Silver Metallic และ*สีขาวมุกโดโลไมท์ Dolomite Pearl White) ให้เลือกกันตรงใจขาลุย

     

    *เพิ่มเงิน 7,000 บาท

     

     

     

     

     

     

     

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts