เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ KIA Carnival รุ่นปรับโฉมโดยเกาหลีเป็นที่แรกของโลกเปิดตัวก่อนที่ประเทศอื่นๆรวมถึงไทยจะเปิดตัวในภายหลัง
ผ่านทางภาพ Official ออกมาด้วยดีไซน์รถอย่างหล่อในร่างเจเนอเรชันที่สี่ รหัส KA4 แน่นอนว่านำแรงบันดาลใจด้านดีไซน์จาก KIA Sorento เอสยูวี ตั้งแต่ไฟหน้ารูปตัว T ประกอบด้วยไฟหน้า LED แนวตั้งพร้อมแถบไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ Daytime แบบ LED ลากยาวมาจากขอบไฟด้านข้างมาถึงด้านหน้าทั้งบนและล่าง กระจังหน้าลายเสือหรือ Tiger Face แบบขอบสีเงินพร้อมตราโลโก้ KIA ย้ายไปอยู่ขอบฝากระโปรง รับกับกันชนหน้ารูปตัว H พร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED แทรกในช่องระบายอากาศส่วนล่างใต้ป้ายทะเบียนเสริมคิ้วกันชนหน้าสีเงินสไตล์เด่นและช่องระบายอากาศแนวตั้งสองฝั่ง กระจกมองข้างทรงสปูนพร้อมไฟเลี้ยว ล้ออัลลอยลายใหม่ลายลูกเต๋าสีทูโทนขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 235/60R18 ไฟท้าย LED ออกแบบใหม่ทรงตัวทีติดตรา KIA แบ่งด้วยเส้นแนวนอนกับตำแหน่งป้ายทะเบียนใหม่ พร้อมกันชนหลังใหม่ทูโทนเสริมคิ้วสีเงินและตัดที่ปัดน้ำฝนด้านหลัง
ภายในยังไม่มีการเผยข้อมูลว่ามีจุดไหนที่ปรับแต่ออปชันยังคงเดิมทั้งแบบ 8-11 ที่นั่ง เบาะนั่งดีไซน์แบบ ‘ergo Motion’ เบาะโดยสารแถวสุดท้ายสามารถปรับพับเรียบได้สนิท Pop-up Sinking Seat เพิ่มพื้นที่สำหรับจัดเก็บสัมภาระปรับพับได้เพื่อเพิ่มพื้นที่มากถึง 2,905 ลิตร พร้อมจอคู่ใหม่ขนาด 12.3 นิ้วทั้งมาตรวัดดิจิทัลและจอสัมผัสพร้อมระบบปฏิบัติการ ccNC ที่ Hyundai-Kia พัฒนาเอง ในชุดคอนโซลหน้า จอแสดงผลเหนือแผงคอนโซลหน้า HUD เซนเซอร์ลายนิ้วมือ พร้อมออปชันเดิมทั้งระบบเสียงจาก BOSE® รอบคันถึง 12 ตำแหน่ง จุดชาร์จ USB ทั้งหมด 6 จุด Mood Light ที่แผงประตูด้านหน้า ซันรูฟไฟฟ้า 2 ตำแหน่ง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติควบคุมแบบสัมผัสเย็นทั้งคัน ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Wireless Charger)
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านดีไซน์หรูหรา ประตูสไลด์ไฟฟ้า Smart Power Sliding Door เพียงแค่ยืนใกล้ตัวรถพร้อมกับกุญแจอัจฉริยะ Smart Key ประตูสไลด์จะเปิดโดยอัตโนมัติ ประตูท้ายไฟฟ้า Smart Tailgate พร้อมระบบ Away-Auto Close สามารถเปิดโดยอัตโนมัติเมื่อยืนอยู่ใกล้ตัวรถและปิดเองโดยอัตโนมัติเมื่อเดินห่างออกจากตัวรถ พร้อม One-Touch Remote เพียงแค่กดปุ่มบนรีโมทค้างไว้ ประตูสไลด์ไฟฟ้าทั้งสองบานและประตูท้ายไฟฟ้าจะเปิดพร้อมกันโดยอัตโนมัติ สะดวกต่อการขึ้น-ลงและขนสัมภาระ เบรกมือไฟฟ้าและ Auto Brake Hold
ขุมพลังมีหลากหลายตั้งแต่เบนซิน Smartstream V6 GDI 3.5 ลิตร 294 แรงม้าที่ 6,400 รอบต่อนาที แรงบิด 355 นิวตันเมตรที่ 5,200 รอบต่อนาที และดีเซลเทอร์โบแปรผัน CRDI Smartsteam 2.2 ลิตร 202 แรงม้าที่ 3,800 รอบต่อนาที แรงบิด 441 นิวตันเมตรที่ 1,750–2,750 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดและโหมดแมนนวลในรูปแบบเกียร์แบบหมุน Dial Type–Shift by Wire (SBW) และเกียร์แบบคันโยก
ส่วนขุมพลัง Hybrid จะตามมาในอนาคตยกมาจาก Kia Sorento กับเบนซินเทอร์โบ 1.6 ลิตร Smartstream G T-GDI 180 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิด 265 นิวตันเมตรที่ 1,500-4,500 รอบต่อนาทีจับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 54 แรงม้าที่ 1,600-2,000 รอบต่อนาที แรงบิด 264 นิวตันเมตรที่ 0-1,600 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อ Active AWD พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 1.5 kWh ให้กำลังรวม 230 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร
พร้อมความปลอดภัยรอบคันด้วยอาจตัดระบบแสดงภาพมุมอับสายตาบนหน้าจอ Blind-Spot View Monitor (BVM) แต่จะมีฟังก์ชันที่ดีกว่ามาแทนที่และยังคับคั่งกับฟังก์ชันต่างทั้ง เซนเซอร์ช่วยจอด PDW (Parking Distance Warning) กล้องรอบคัน SVM (Surround View Monitor) ถุงลมนิรภัยรอบคัน รวม 7 จุด: คู่หน้า ด้านข้างเบาะคู่หน้า บริเวณหัวเข่าของผู้ขับขี่ ม่านนิรภัยรอบคัน ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESC) ที่มาพร้อมกับเบรก (BAS) ป้องกันล้อหมุนฟรี (TCS) และช่วยออกตัวขณะรถอยู่บนทางลาดชัน (HAC)
เทคโนโลยีการขับขี่และความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver Assistance System (ADAS) หรือ DRIVE WiSE ซึ่งประกอบไปด้วย ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Smart Cruise Control เตือนมุมอับที่กระจกมองข้าง Blind-Spot Collision-Avoidance Assist เตือนมุมอับสายตาขณะถอยรถ Rear-Cross Traffic Collision Avoidance Assist ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ Lane Keeping Assist และ Lane Following Assist และเตือนการชนด้านหน้า Forward Collision-Avoidance Assist
KIA Carnival รุ่นปรับโฉมมาพร้อมสีใหม่สีครีม Ivory Silver, สีขาวมุก Snow White Pearl, สีน้ำเงิน Astra Blue, สีดำมุก Aurora Black Pearl สีเทา Pantera Metal และสีบรอนซ์เงิน Ceramic Silver พร้อมจะเผยราคา สเปคภายในเร็ๆวนี้ที่เกาหลี
ที่มา Hyundai Motor Group
