ตลาดรถซับคอมแพ็คยังคงได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั่วโลกด้วยความคล่องตัวในการใช้งานสามารถตอบโจทย์คนเมืองอย่างสมบูรณ์แบบหนึ่งในนั้นมี KIA Rio
แต่ด้วยเจเนอเรชันที่ 4 ที่ทำตลาดมาตั้งแต่ปี 2016 นั้นเข้าสู่ยุครถปลายรุ่นอย่างเป็นทางการ KIA ค่ายรถยนต์ชื่อดังจากเกาหลีพร้อมพัฒนานรถใหม่สานต่อ KIA Rio เจนที่ 4 กับภาพ Official ล่าสุดของเก๋งเล็กในชื่อใหม่ KIA K3 ด้วยดีไซน์ตัวรถแบบล้ำอนาคตยกงานดีไซน์บางส่วนจากรุ่นอื่นๆในค่ายผสมผสานจนมาเป็นรูปเป็นร่างที่หล่อสมาร์ตสุดๆ เริ่มที่
- กระจังหน้าลายเสือ หรือ Tiger Nose เอกลักษณ์เด่นของ KIA
- ชุดไฟหน้า LED พร้อมชุดไฟ DRL แบบ LED ลากยาวเป็นแบบเลขเจ็ด
- กลมกลืนกับชุดกันชนหน้าและมีสเกิร์ตใต้กันชน
- ด้านข้างดีไซน์ตัวรถแบบฟาส์ทแบ็ก 5 ประตู คล้าย KIA Stinger
- คิ้วโครเมียมเสริมหรู
- ไฟท้ายแนวยาวแบบ LED
- เสาอากาศครีบฉาม
- ล้ออัลลอยทูโทนขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 205/45R17 และขนาด 15 นิ้วพร้อมยาง 185/65R15 ให้เลือก
ตัวรถใหญ่ขึ้นตั้งแต่ความยาว 4,545 มม. ความกว้าง 1,765 มม. ความสูง 1,475 มม. ระยะฐานล้อ 2670 มม. โดยมิติทั้งหมดนี้ใกล้เคียงกับ KIA Cerato
ภายในยกงานดีไซน์จากรถไฟฟ้าในค่ายอย่าง KIA EV 6 ประยุกต์คลุกเคล้าจนลงตัวด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสองก้าน จอคู่ที่มีทั้งมาตรวัดดิจทัล 4.2 นิ้ว และจอสัมผัสระบบความบันเทิง 10.25 นิ้วในชุดเดียวกันในชุดแผงคอนโซลหน้าล้ำอนาคต เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา
ขุมพลังมีทั้งเบนซิน D-CVVT ตั้งแต่
- ขนาดเล็กสุด 1.4 ลิตร 101 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 133 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบ/นาทีคู่กับเกียร์ธรรมดาและอัตโนมัติ 6 สปีด
- เบนซิน 1.6 ลิตร 122 แรงม้าที่ 6,300 รอบ/นาที แรงบิด 153 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดาและอัตโนมัติ 6 สปีด
- ใหญ่สุดเบนซิน 2.0 ลิตร D-CVVT ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้าที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 192 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบ/นาที คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Paddle Shift
สำหรับ KIA K3 นี้มาแทน KIA Rio ทำตลาดเฉพาะกลุ่มลาตินอเมริกาพวงมาลัยซ้ายเป็นที่แรกประเดิมที่ประเทศเม็กซิโก ส่วนตลาดโลกอาจตามมาเร็วๆนี้
ที่มา Carsales
